
สภาผู้แทนลงมติ 257 ต่อ 230 เสียง โหวตงบ’69ฉลุย วงเงิน3.78ล้านล้านบาท พบ8สส.งูเห่ายังโผล่หนุน
วันอาทิตย์ ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
สภาผู้แทนลงมติ 257 ต่อ 230 เสียง โหวตงบ’69ฉลุย วงเงิน3.78ล้านล้านบาท พบ8สส.งูเห่ายังโผล่หนุน รัฐบาลรับปากใช้เงินคุ้มค่า พท.ฝัน‘อุ๊งอิ๊งค์’จะกลับมา
สภาฯ 257 เสียง โหวตฉลุยร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี’69 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาทหลังถก 3 วันเต็ม “พิชัย” ขอบคุณทุกฝ่าย มั่นใจใช้งบตรงตามวัตถุประสงค์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อปชช.-ประเทศ เช็คเสียงสส.‘โหวตงบ’69’ รัฐบาล’เสียงปริ่มน้ำ ไม่มีแตกแถว พบ‘8สส.งูเห่า’ฝ่ายค้านโหวตหนุน ส่วน ปชน.-ภท.โหวตคว่ำตามคาด ‘เพื่อไทย’ขอบคุณสภาฯผ่านงบ69 เชื่อมั่นรบ.ใช้งบโปร่งใส คุ้มค่า
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจากที่รัฐสภาว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องเป็นวันสุดท้าย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ซึ่งที่ประชุมสภาฯใช้เวลาอภิปรายอย่างกว้างขวางตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15ส.ค.เสร็จสิ้น
สภาฯเสียง257ผ่านงบฯ69ฉลุย
ก่อนที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติในวาระที่ 3 เมื่อเวลา 22.50น.ได้เห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 69 ด้วยคะแนนเสียง 257 ต่อ 230 งดออกเสียง 1 นอกจากนี้ ยังเห็นชอบกับข้อสังเกตของกมธ.ฯเพื่อส่งต่อไปยังคณะรัฐมนตรี(ครม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลังในฐานะตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) กล่าวว่า ขอบคุณสมาชิกที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี2569ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายและแผนความมั่นคงแห่งชาติและการดำเนินงานตามภารกิจของหน่วยรับงบประมาณให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงความจำเป็นความต้องการในพื้นที่และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณและผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการสำหรับข้อคิดเห็นคำแนะนำข้อเสนอแนะและขอความห่วงใยที่สบายชี้เสนอแนะตลอดระยะเวลาการประชุมรัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะนำไปประกอบการปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการใช้งบประมาณมากที่สุด
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ตนขอบคุณกมธ.วิสามัญทุกคนที่เสียสละเวลาและร่วมกันพิจารณางบประมาณรายจ่ายฉบับนี้อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ส่วนข้อสังเกตของกมธ.ฯที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ รัฐบาลจะนำไปประกอบต่อการปรับปรุงดำเนินงานเพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
มั่นใจใช้งบตรงตามวัตถุประสงค์
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ตนขอให้ความมั่นใจว่า นโยบาย มาตรการและงบประมาณที่ได้ผ่านการพิจารณาในครั้งนี้ จะนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนดโดยรัฐบาลจะทำการดูแลเพื่อการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าว มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และบรรลุสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อขับเคลื่อนประเทศภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลและความมุ่งมั่นของสมาชิกทุกคน
จากนั้นประธานที่ประชุม ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และสั่งปิดประชุมในเวลา22.57น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โหวตผ่านวาระ 3 ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ด้วยคะแนน 257 ต่อ 230 งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง ไม่มี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น
จากการตรวจสอบพบว่า เสียงเห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นของพรรคร่วมรัฐบาล ภายใต้เสียงที่ปริ่มน้ำนั้น โดยพรรคเพื่อไทย (พท.)ลงมติปกติ แม้กระทั่งนายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ก็ลงมติเห็นด้วย ขณะที่นายไชยา พรหมา สส.หนองบัวลำภู และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมขณะนั้นงดออกเสียง ส่วนร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ ไม่พบการลงมติใดๆ
ขณะที่พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)ลงมติเห็นด้วย มีเพียงนางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี ที่ไม่พบการลงมติใด
ส่วนพรรคกล้าธรรม (กธ.)พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) และพรรคประชาชาติ (ปช.) เห็นด้วย ยกเว้นนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ไม่พบการลงมติใดๆ
ฝ่ายค้านโหวตคว่ำ-8สส.งูเห่าหนุน
สำหรับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ก่อนหน้านี้พรรคประชาชน (ปชน.) พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และพรรคเป็นธรรม (ปธ.) ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2569 แต่จากการตรวจสอบพบว่า พรรคปชน.ลงมติไปในทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นด้วย มีเพียงน.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ที่ลงมติเห็นด้วย
ขณะที่พรรคภท.ลงมติไม่เห็นด้วยยกพรรค มีเพียง 1 เสียงที่สวนมติพรรคคือน.ส.ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์ ลงมติเห็นด้วย โดยก่อนหน้านี้น.ส.ประภา เป็น 1 ใน 3 สส.ที่โหวตสวนมติพรรคหนุนพรรคพท.ให้ถอนร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทำให้พรรค ภท. ต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้พักการทำกิจกรรมพรรคไว้ก่อน
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)19 เสียง ส่วนใหญ่โหวตไม่เห็นด้วย มีเพียงน.ส.กาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร และนายอนันต์ ผลอำนวย สส.กำแพงเพชร ที่ลงมติเห็นด้วย ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ไม่พบการลงมติ
สำหรับพรรคไทยสร้างไทย(ทสท.) 6 เสียง พบว่ามี 3 เสียงที่ลงมติเห็นด้วย ได้แก่นางรำพูล ตันติวณิชชานนท์ สส.อุบลราชธานี นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ สส.บัญชีรายชื่อ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร
ขณะที่พรรคเป็นธรรม 1 เสียง นายกัณวีร์ สืบแสง ลงมติไม่เห็นด้วยสอดคล้องกับจุดยืนพรรคร่วมฝ่ายค้าน
พท.ขอบคุณสภาโหวตผ่านงบ69
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร (สส.) โหวตเห็นชอบร่างงบประมาณปี 2569 ด้วยมติ 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง ว่า ต้องขอบคุณ สส.ทุกท่านที่ได้อภิปรายให้ข้อสังเกต ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์กับคณะกรรมาธิการวิสามัญฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอด3 วันร่วมกันพิจารณา และมีมติเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีรวมทั้งเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯที่ได้เสนอต่อสภาฯเพื่อให้หน่วยงานต่างๆสามารถนำงบประมาณแผ่นดินไปใช้ในการพัฒนาประเทศ และให้บริการประชาชน รวมทั้งนำข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯไปเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆในการจัดทำงบประมาณในปีต่อไป
“ขอขอบคุณ สส.ที่ช่วยกันโหวตผ่านงบประมาณ ปี2569ฉลุย เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างโปร่งใส คุ้มค่า เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน”นายอนุสรณ์ กล่าว
โวเสียงรบ.ปริ่มน้ำไม่เป็นอุปสรรค
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่าแม้เสียงพรรคร่วมรัฐบาลจะปริ่มน้ำ แต่ไม่เป็นปัญหาในการพิจารณากฎหมายและการผ่านงบประมาณปี 2569ซึ่งก่อนหน้านี้มีความพยายามของบางฝ่าย ที่จะโหวตคว่ำงบประมาณปี 2569 โดยอาจเห็นว่ารัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำ จำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลมีมากกว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านไม่มาก จึงมีความพยายามที่จะโหวตคว่ำงบประมาณ แต่เมื่อที่ประชุมสภาฯโหวตเห็นชอบร่างงบประมาณ ก็เป็นสิ่งยืนยันว่า เสียงปริ่มน้ำไม่ได้เป็นปัญหาและอุปสรรคในการพิจารณากฎหมาย และการผ่านร่างงบประมาณ จำนวนเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลที่หายไปก่อนหน้านี้ ถูกแทนที่ด้วยคุณภาพและประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น
เชื่อ’อิ๊งค์’จะกลับมานำรบ.จัดการงบ
นายอนุสรณ์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงกรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เข้าสภามาเกาะติด ติดตามการพิจารณางบประมาณ 2569ในสภาฯทั้ง 3วันติดต่อกันว่าน.ส.แพทองธารในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ความสำคัญ และใส่ใจในภารกิจของสภาผู้แทนราษฎรมาโดยตลอด ในการพิจารณากฎหมายสำคัญก็จะเข้ามาติดตามการทำงานของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยอย่างใกล้ชิดด้วยตัวเอง งบประมาณ3,78ล้านล้านบาท โหวตผ่านฉลุย
“ส.ส.พรรคเพื่อไทยเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานอย่างเต็มที่ของน.ส.แพทองธารเชื่อว่าจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่นายกฯ เป็นหัวหน้ารัฐบาล ทำงานรับใช้ประเทศชาติและประชาชนต่อไป” นายอนุสรณ์ กล่าว
รทสช.ชี้งบ69ผ่านเดินหน้าไม่สะดุด
นายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพรรครวมไทยสร้างชาติ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2569ว่า ขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยเฉพาะเสียงข้างมากที่โหวตเห็นชอบงบประมาณปี 2569ครั้งนี้ เนื่องจากเป็นกฎหมายสำคัญในการขับเคลื่อนบริหารราชการแผ่นดินให้ประเทศเดินหน้าต่อ ไม่สะดุด ซึ่งก็ต้องขอขอบคุณฝ่ายค้านที่ตั้งข้อสังเกตท้วงติงในเรื่องต่างๆ ตนเชื่อว่าทุกกระทรวงรับข้อมูลดังกล่าวของฝ่ายค้านเพื่อปรับการใช้งบประมาณ ให้สอดคล้องกับแผนงานและเกิดประโยชน์คุ้มค่าสูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน
แนะรัฐบาลคุมเข้มใช้จ่ายป้องโกง
นายธนกรฝากถึงรัฐบาลว่าขอให้มีการกำชับในการเบิกจ่ายงบประมาณทุกหน่วยงานทุกกระทรวงให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ให้มีช่องการทุจริตเด็ดขาด หากโครงการใดเสี่ยงที่จะมีประโยชน์ทับซ้อนหรือการจัดซื้อจัดจ้างไม่เป็นธรรมเอื้อประโยชน์ผู้ใด ต้องรีบดำเนินการระงับยับยั้งและแก้ไขปัญหาให้เด็ดขาดทันที ป้องกันการทุจริต ไม่ให้มีการใช้งบประมาณแผ่นดินในทางที่ไม่ถูกต้องได้
“เมื่อกฎหมายงบประมาณปี 2569 ผ่าน ความเห็นชอบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีที่ประเทศจะขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป หากหลังจากนี้เกิดวิกฤตทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เชื่อว่ากลไกการบริหารงานราชการในการเบิกจ่ายงบประมาณต่างๆจะไม่ทำให้สะดุด โดยขอฝากรัฐบาล ช่วยเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศและรับมือเศรษฐกิจต่างประเทศโดยเฉพาะกำแพงภาษีสหรัฐฯให้เกิดความรอบด้าน ลดผลกระทบต่อผู้ประกอบการ เกษตรกรและพี่น้องประชาชนคนไทยให้น้อยที่สุด” นายธนกร ระบุ