
‘ราเมศ’ปัด‘กลุ่มชวน’เทโหวตหนุน‘อนุทิน’เป็น‘นายกฯ’คนใหม่
วันเสาร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.50 น.
‘ราเมศ’ปัด‘กลุ่มชวน’เทโหวตหนุน‘อนุทิน’เป็น‘นายกฯ’คนใหม่ ยันยังไม่ได้คุยกับใคร-อยู่ต่างประเทศ ชี้‘นายกฯรักษาการ’ยุบสภาไม่ได้
30 สิงหาคม 2568 นายราเมศ รัตนะเชวง อดีตสส. เลขานุการนายชวน หลีกภัย อดีตประธานรัฐสภา กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันว่า ประเด็นที่มีการถกเถียงถึงอำนาจรักษาการนายกรัฐมนตรียุบสภาได้หรือไม่นั้น ในความเห็นส่วนตัวรักษาการนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถยุบสภาได้ ด้วยเหตุผลและหลักการที่สำคัญคือ ด้วยเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญเห็นชัดว่า อำนาจถ่วงดุลของฝ่ายบริหาร นายกรัฐมนตรีที่มีต่อฝ่ายนิติบัญญัติคือสภาผู้แทนราษฎรนั้น อำนาจต้องเป็นของนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมติเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร คนที่รักษาการแทนนายกรัฐมนตรีไม่ได้มาจากสภาผู้แทนราษฎรถือได้ว่าเป็นคนนอก ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีตัวจริงไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ใดๆกับฝ่ายนิติบัญญัติเลย ฉะนั้นจะมาใช้อำนาจในการยุบสภาไม่ได้ เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกรัฐมนตรีเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้นก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่จะต้องมีการเดินหน้าในสภาผู้แทนราษฎรเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวอ้างถึงกลุ่มนายชวน 4 คน จะไปสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกฯคนใหม่นั้น ยืนยันว่านายชวน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับใคร เนื่องจากอยู่ระหว่างการเดินทางไปประเทศนิวซีแลนด์ จึงไม่อยากให้มีการรายงานข่าวที่ผิดพลาด จะเกิดความเสียหายได้ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ตนในฐานะสมาชิกพรรค ก็ต้องย้ำว่าเมื่อมีระบบของพรรคอยู่ ผู้บริหารพรรคและ สส.ปัจจุบันก็มีอำนาจในการตัดสินใจ คงไม่ไปก้าวล่วง เพราะท้ายที่สุดความรับผิดชอบก็อยู่ที่ผู้บริหารพรรค และไม่มีใครคนใดคนหนึ่งตัดสินใจได้คนเดียว การเลือกนายกรัฐมนตรีก็มีหลักในการพิจารณาที่กรรมการบริหารพรรคกับ สส.ต้องตัดสินใจร่วมกัน ก็ต้องรอผลการพิจารณา
“ในหลักการของพรรคนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีนายกฯ ด้วยความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ในทางการเมือง ก็ถือว่ามีความเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ และเชื่อว่านำพาประเทศได้ดีไม่แพ้คนอื่นๆเช่นกัน ซึ่งหลักการของพรรคระบบก็จะเป็นแบบนี้” นายราเมศ กล่าว