
‘เท้ง’โยน’อนุทิน-สีหศักดิ์’ตอบ ‘กัน จอมพลัง’เปิดเสียงผีชายแดน ละเมิด กม.ระหว่างประเทศหรือไม่
วันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 11.31 น.
“เท้ง”โยน”อนุทิน-สีหศักดิ์”ตอบ “กัน จอมพลัง”เปิดเสียงผีชายแดน ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ ห่วงไทยถูกมองให้การสนับสนุนทำเสียเปรียบเวทีระหว่างประเทศ
เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ กัน จอมพลัง อินฟลูเอนเซอร์ นำเครื่องเสียงไปเปิดเสียงผีและเครื่องบินรบ รวมถึงฉายหนังกลางแปลงยุคที่ชาวกัมพูชาเข้ามาลี้ภัยในประเทศไทย ว่า ตนเองเชื่อว่าประชาชนทุกคนที่เป็นคนไทยอยากจะช่วยเหลือการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา
ส่วนเรื่องเสียงสะท้อนที่ออกมาว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ตนเองคิดว่าเป็นหน้าที่ของรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีโดยตรง ที่จะทำอย่างไรให้ประชาชนทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือ กัน จอมพลัง ก็ตาม ที่อยากจะช่วยเหลือคนไทย ให้ประเทศไทยมีความได้เปรียบจากประเทศกัมพูชา หรือช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ในการบริหารจัดการให้ทุกความช่วยเหลือ ทำให้ทุกการช่วยเหลือมีแต่การยกระดับทำให้ประเทศไทยเข้มแข็งขึ้น ไม่ได้ทำให้ไทยเพลี่ยงพล้ำหรือเสียเปรียบในเวทีโลก
ทั้งนี้ การปล่อยคลิปเสียงผี จะปลุกกระแสชาตินิยมจนทำให้ควบคุมไม่ได้มากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ ยืนยันว่า ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ปฏิเสธไม่ได้ว่าบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา จ.สระแก้ว เป็นพื้นที่ที่ประกาศกฎอัยการศึก การที่มีภาคประชาชนเข้าไปดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งก็มีบางส่วนมีข้อห่วงใยว่าจะเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะส่งผลกระทบทางด้านจิตวิทยาต่อพลเรือนฝั่งตรงข้ามโดยตรง จึงปฏิเสธได้ว่าหน่วยงานความมั่นคงและรัฐบาลจะต้องเป็นผู้มีความรับผิดชอบโดยตรง เพราะเป็นพื้นที่ควบคุม
เมื่อถามว่า จะทำให้การต่างประเทศของไทยเดินหน้ายากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องถามไปยังนายกรัฐมนตรี หรือ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพราะพื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่อัยการศึก การที่รัฐบาลปล่อยให้มีการดำเนินการแบบนี้ ถึงแม้จะเป็นการดำเนินการที่มีเจตนาดี จะถือว่าหน่วยงานภาครัฐประเทศไทยให้การสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวที่อาจจะละเมิดต่อกฎหมายระหว่างประเทศหรือไม่ แล้วจะทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบในเวทีการต่างประเทศหรือไม่ ซึ่งคำถามนี้เชื่อว่าเป็นคำถามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ต้องตอบให้ชัด