
‘กมธ.แก้รธน.’ปรับใหม่ ให้สิทธิ‘นักวิชาการ’สมัครเป็น‘ผู้ร่างรธน.’ได้ ไม่ต้องลาออกจากต้นสังกัด
วันพุธ ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 20.31 น.
เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันรัฐสภา (สมัยวิสามัญ) เป็นพิเศษ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่..) พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ ในวาระสอง หลังจากที่ที่ประชุมพักการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง ได้กลับมาพิจารณา โดย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะประธาน กมธ.ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงผลการหารรือว่า กมธ.มีมติให้เพิ่มวรรคสี่ ในร่างมาตรา 256/4 โดยกำหนดข้อยกเว้นในส่วนของลักษณะต้องห้ามต้องไม่เป็นข้าราชการหรือมีตำแหน่งเงินเดือนประจำ และเป็นพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้ปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ไม่ให้นำมาบังคับใช้กับผู้สมัครเป็น กมธ.ร่างรัฐธรรมนูญในส่วนของนักวิชาการในสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ ได้กำหนดลักษณะเดียวกันกับ กมธ.รับฟังความคิดเห็นด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาได้ตั้งข้อสังเกตว่า ที่ กมธ.ปรับแก้ไขนั้น อาจเปิดช่องให้นักวิชาการที่เป็นเครือข่ายมีโอกาสได้เข้ามาเป็นผู้ร่างรัฐธรรมนูญโดยไม่ต้องลาออกจากตำแหน่งวิชาการ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลือกปฏิบัติ เมื่อเทียบกับตำแหน่งอื่นที่มีระเบียบ และข้อกำหนดให้ต้องพ้นจากตำแหน่งมาแล้ว
ทั้งนี้ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะ กมธ.ชี้แจงว่า กรณีที่ กมธ.บัญญัติลักษณะต้องห้ามให้ข้าราชการที่ตำแหน่งและเงินเดือนประจำเข้าสมัคร เพราะในองค์กรมีระเบียบปฏิบัติว่าต้องขออนุญาต อีกทั้งระยะเวลาการทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่กำหนดเวลา 360 วันนั้น อาจทำให้กระทบต่อการทำงานได้
อย่างไรก็ดี เมื่อสมาชิกรัฐสภาอภิปรายแล้วเสร็จ แต่ยังติดใจจึงต้องขอมติเพื่อตัดสิน โดยมติข้างมากเห็นชอบกับเนื้อหาที่ กมธ.เสียงข้างมากแก้ไข