ระวัง แดด ฝุ่น ลม ตัวการ ‘ต้อเนื้อ’ เสี่ยงสายตาเอียงและมองไม่ชัดถาวร

ระวัง แดด ฝุ่น ลม ตัวการ ‘ต้อเนื้อ’ เสี่ยงสายตาเอียงและมองไม่ชัดถาวร

ระวัง แดด ฝุ่น ลม ตัวการ ‘ต้อเนื้อ’ เสี่ยงสายตาเอียงและมองไม่ชัดถาวร

วันอังคาร ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.33 น.

แสงแดด ฝุ่น ลม อาจดูเป็นเรื่องเล็ก แต่รู้หรือไม่ว่าปัจจัยเหล่านี้ล้วนทำให้เกิด “ต้อเนื้อ” ภาวะที่เยื่อบุตาขาวลามเข้ามากระจกตา หากปล่อยไว้ อาจกระทบต่อการมองเห็นได้จริง

แพทย์หญิงพิมพ์พิสาข์ วุฑฒิชัยพันธ์ จักษุแพทย์ชำนาญการด้านโรคจอประสาทตาและวุ้นตา โรงพยาบาลเวชธธานี อินเตอร์เนชั่นแนล อธิบายว่า ต้อเนื้อคือภาวะที่ผังผืดของเยื่อบุตางอกจากเยื่อบุตาขาวแล้วลามเข้าหากระจกตา มักเริ่มจากด้านหัวตา พบได้ในผู้ที่โดนแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ลมหรือฝุ่นอย่างเรื้อรัง หากลุกลามมากหรือบังการมองเห็น ทำให้ตาแดง ระคายเคือง หรือเกิดภาวะสายตาเอียงได้

หลายคนมักสับสนระหว่างต้อเนื้อและต้อลม ซึ่งทั้ง 2 โรคมีความแตกต่างกันดังนี้ ต้อลม (Pinguecula): ก้อนนูนสีเหลืองบนเยื่อบุตาขาว ไม่ล้ำเข้ากระจกตา ส่วนต้อเนื้อ (Pterygium): คือต้อลมที่ล้ำเข้ากระจกตา มีโอกาสรบกวนการมองเห็น

 ในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่การแพทย์ปัจจุบันคาดว่าเกิดจากตัวกระตุ้นบางอย่าง เช่น ลมร้อน ลมแห้ง ฝุ่นควัน มลภาวะ และรังสียูวี โดยตัวกระตุ้นดังกล่าวจะไปรบกวนเซลล์ต้นกำเนิด ทำให้เซลล์นั้นพัฒนาเป็นเยื่อบุตาขาวที่ผิดปกติ เกิดเป็นก้อนผังผืดบริเวณเยื่อบุตาขาวหรือกระจกตา

อาการของโรคต้อเนื้อสามารถมองเห็นได้จากภายนอก ได้แก่ ก้อนเป็นพังผืดสีขาวเหลืองหรือสีชมพูอ่อนๆ มีเส้นเลือดฝอยกระจายอยุ่ทั่วทั้งพังผืด อยู่ที่บริเวณหางตาหรือหัวตา ตาแดง ระคายเคือง ตาแห้ง แสบเคือง เหมือนมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในดวงตาเมื่อขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้ดวงตาอักเสบ บางครั้งอาจเกิดแผลในกระจกตาหรือทำให้เกิดการติดเชื้อที่ดวงตาได้

จักษุแพทย์จะตรวจวินิจฉัยด้วยสลิตแลมป์ (slit-lamp) เพื่อประเมินตำแหน่ง ขนาด และผลกระทบต่อกระจกตาหรือต่อสายตา เพื่อวางแผนดูแลและติดตามการลุกลามของต้อเนื้อ

การรักษาต้อเนื้อ แบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่  1) รักษาแบบไม่ผ่าตัด จักษุแพทย์จะพิจารณาใช้ในกรณีที่ต้อเนื้อยังไม่ล้ำเข้ากลางกระจกตา และยังไม่กระทบการมองเห็น โดยจะใช้ยาหยอดตาลดอักเสบหรือน้ำตาเทียม เพื่อลดระคายเคือง รวมถึงแนะนำปรับพฤติกรรม เช่น แว่นกันแดดเลนส์ป้องกันรังสี UV, สวมหมวกปีกกว้าง, หลีกเลี่ยงการเผชิญกับฝุ่นและลมโดยตรง

2) รักษาแบบผ่าตัด  จักษุแพทย์จะพิจารณาใช้ในกรณีต้อเนื้อล้ำเข้ากลางกระจกตาหรือเริ่มรบกวนการมองเห็น มีการเอียงของกระจกตา, อักเสบซ้ำ, หรือเหตุผลด้านความสวยงาม โดยการผ่าตัดมักใช้เวลาโดยเฉลี่ย 10–30 นาที และกลับบ้านได้วันเดียว แบ่งเป็น 2 เทคนิคการผ่าตัดเล็ก ได้แก่ เทคนิค Conjunctival Autograft (CAG) คือการตัดต้อเนื้อออกและ “ปลูกถ่ายเยื่อบุตาของผู้ป่วยเอง” เพื่อปิดแผล เทคนิคนี้จากข้อมูลรายงานพบว่าอัตรากลับมาเป็นซ้ำน้อย และเทคนิค Amniotic Membrane Transplantation (AMT) คือการใช้เยื่อหุ้มรกปิดแผล

การดูแลหลังผ่าตัด คือ หยอดยาลดอักเสบ ยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่ง หลีกเลี่ยงขยี้ตา ว่ายน้ำ หรือสัมผัสฝุ่นลมใน 2–4 สัปดาห์แรก ใส่แว่นกันแดดเมื่อออกแดด มาตรวจตามนัดเพื่อลดความเสี่ยงกลับเป็นซ้ำและประเมินแผล  

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบหลังผ่าตัดมีดังนี้  ตาแดง ระคายเคืองชั่วคราว, แผลหายช้า ติดเชื้อ (พบได้น้อย) กลับเป็นซ้ำ โดยเฉพาะในผู้สัมผัส UV ต่อเนื่อง หรือมีแผลหดดึง

แม้ต้อเนื้อจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจส่งผลต่อคุณภาพการมองเห็นได้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งการใช้แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง และลดการสัมผัสสิ่งระคายเคือง เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยถนอมสายตาได้ในระยะยาว

Leave a comment