บ.ทองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง นำเทคโนโลยี VR บำบัดจิตใจ ‘NeuroSight’ สนับสนุนทีม MCATT รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ดูแลสุขภาพจิตผู้อพยพ

บ.ทองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง นำเทคโนโลยี VR บำบัดจิตใจ ‘NeuroSight’ สนับสนุนทีม MCATT รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ดูแลสุขภาพจิตผู้อพยพ

บ.ทองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง นำเทคโนโลยี VR บำบัดจิตใจ ‘NeuroSight’ สนับสนุนทีม MCATT รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ดูแลสุขภาพจิตผู้อพยพ

วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 17.05 น.

ในช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการทหารกับกัมพูชา ส่งผลให้มีผู้อพยพหลบหนีจากพื้นที่การสู้รบเข้ามาในศูนย์อพยพจำนวนมากกว่า 100,000 คน วิกฤตด้านสุขภาพจิตของผู้ประสบภัยสงครามกำลังทวีความรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน บริ ษัททองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง ได้เร่งส่งมอบเครื่องมือเทคโนโลยี Virtual Reality(VR) สำหรับการบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพจิต “NeuroSight” ให้กับทีมเยียวยาจิตใจ MCATT (Mental Health Crisis Assessment and Treatment Team) โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อช่วยดูแลผู้ที่ประสบความเครียด บาดแผลทางใจ และวิตกกังวลจากสถานการณ์สงคราม

พญ.ธีรธร ทองก้อนใหญ่ กรรมการบริษัททองก้อนใหญ่ โฮลดิ้ง จำกัด กล่าวว่า “สถานการณ์ความขัดแย้งทางทหารระหว่างไทยและกัมพูชาในขณะนี้ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสียทางกายภาพ แต่ยังทิ้งบาดแผลทางจิตใจที่ลึกซึ้งแก่ประชาชนที่ต้องหลบหนีออกจากพื้นที่สงคราม ผู้อพยพกว่า 100,000 คนที่หลั่งไหลเข้ามาในศูนย์อพยพล้วนประสบกับความบอบช้ำทางจิตใจ บางคนเห็นความรุนแรง สูญเสียคนที่รัก หรือถูกคุกคามต่อชีวิต สภาวะเหล่านี้นำไปสู่ความเครียดเฉียบพลัน (Acute Stress Disorder) อาการบาดเจ็บทางใจจากเหตุการณ์รุนแรง (Trauma) และความวิตกกังวลที่รุนแรง

ปัญหาสุขภาพจิตในสถานการณ์สงครามเป็นวิกฤตเงียบที่มีความรุนแรงไม่แพ้การขาดแคลนอาหารหรือยารักษาโรค หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและทันท่วงที อาจนำไปสู่ปัญหาระยะยาว เช่น โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) ภาวะซึมเศร้า และการทำร้ายตนเอง เราจึงได้นำเครื่องมือ NeuroSight (นิวโรไซต์) ซึ่งเป็นเทคโนโลยี VR ที่ได้รับการพัฒนาเฉพาะสำหรับการบำบัด ฟื้นฟู และดูแลผู้ที่ประสบภัยสงครามมาสนับสนุนทีมแพทย์และนักจิตวิทยา เพื่อให้การช่วยเหลือที่มีประสิทธิภาพและทันท่วงทีแก่ผู้อพยพในวิกฤตครั้งนี้”

พญ.ธีรธร กล่าวถึง เทคโนโลยี NeuroSight หรือ นวัตกรรมการบำบัดจิตใจด้วย VR ต่อว่า NeuroSight เป็นเครื่องมือที่ผสมผสานเทคโนโลยี Virtual Reality เข้ากับหลักการทางจิตวิทยาและประสาทวิทยาศาสตร์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเสมือนจริงที่ช่วยในการผ่อนคลาย ลดความ เครียด และฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยมีคุณสมบัติสำคัญ ได้แก่

การบำบัดด้วยสภาพแวดล้อมเสมือนจริง: สร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและผ่อนคลาย ช่วยลดอาการวิตกกังวลและความเครียดเฉียบพลัน

โปรแกรมการฝึกจิตและสติ : ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้เทคนิคการจัดการอารมณ์และความเครียดด้วยตนเอง

การติดตามและประเมินผล : วัดและบันทึกผลการบำบัด เพื่อปรับแต่งแผนการดูแลให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ใช้งานง่ายและรวดเร็ว: สามารถให้บริการได้หลายคนในเวลาจำกัด เหมาะสมกับสถานการณ์ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ พญ.ธีรธร ได้แสดงความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับความจำเป็นเร่งด่วนในวิกฤตสงคราม ว่า การสู้รบระหว่างไทยและกัมพูชาได้สร้างวิ กฤตด้านมนุษยธรรมครั้งใหญ่ ด้วยจำนวนผู้อพยพที่มากกว่า 100,000 คนซึ่งหลั่งไหลเข้าสู่ศูนย์อพยพ ความต้องการด้านการดูแลสุขภาพจิตมีสูงเป็นประวัติการณ์ ผู้อพยพส่วนใหญ่ประสบกับ บาดแผลทางจิตใจจากการเห็นความรุนแรง การสูญเสียบ้าน ทรัพย์สิน และคนที่รัก ,ความกลัวและความไม่มั่นคงต่อชีวิต จากสถานการณ์สงครามที่ยังคงดำเนินอยู่, ความเครียดเฉียบพลันและวิตกกังวลรุนแรง จากการต้องอพยพอย่างกะทันหัน และความไม่แน่นอนในอนาคต ไม่ทราบว่าจะสามารถกลับบ้านได้เมื่อไหร่ ขณะที่ทรัพยากรบุคลากรด้านสุขภาพจิตในศูนย์อพยพมีอยู่อย่างจำกัด เทคโนโลยี NeuroSight จึงเข้ามาเป็นเครื่องมือช่วยเสริมประสิทธิภาพของทีมแพทย์ ช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะในสภาวะที่การดูแลทางจิตใจต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน

นพ.โกศล วราอัศวปติ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี ระบุว่า “ในสถานการณ์สงคราม ผู้อพยพที่เข้ามาต่างประสบกับบาดแผลทางใจที่รุนแรง หลายคนมีอาการหวาดกลัว นอนไม่หลับ หรือมีภาพเหตุการณ์รุนแรงย้อนกลับมาในหัว NeuroSight ช่วยให้เราสามารถให้การบรรเทาและดูแลเบื้องต้นแก่ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่มีผู้ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวนมากพร้อมกัน เครื่องมือนี้ช่วยลดภาระของทีมแพทย์ในสภาวะที่ทรัพยากรมีจำกัด และทำให้ผู้อพยพได้รับการดูแลที่รวดเร็วและมีคุณภาพ แม้ในสถานการณ์วิกฤต”

แม้ว่า NeuroSight จะช่วยบรรเทาปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ พญ.ธีรธร เน้นย้ำอย่างจริงจังว่า “สิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในวิกฤตสงครามครั้งนี้มีขนาดใหญ่และซับซ้อนเกินกว่าที่เครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่งหรือองค์กรใดองค์กรหนึ่งจะรับมือได้เพียงลำพัง ความต้องการด้านสุขภาพจิตในศูนย์อพยพมีมากกว่าทรัพยากรที่มีอยู่หลายเท่าตัว ยังคงต้องการการสนับสนุนอย่างเร่งด่วนจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็น นักจิตวิทยาและนักจิตแพทย์เพิ่มเติม เจ้าหน้าที่สุขภาพจิตผู้มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ประสบภัยสงคราม เทคโนโลยีและเครื่องมือทางการแพทย์ ทรัพยากรทางการเงินเพื่อขยายโครงการ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ การดูแลสุขภาพจิตของผู้อพยพสงครามไม่ใช่เรื่องที่สามารถรอได้ เพราะยิ่งปล่อยให้ล่าช้า บาดแผลทางใจจะยิ่งลึกและยากต่อการรักษา เราต้องการความช่วยเหลือตั้งแต่วันนี้ เพื่อให้สามารถดูแลสุขภาพจิตของผู้อพยพทุกคนได้อย่างครอบคลุม มีศักดิ์ศรีและยั่งยืน”

Leave a comment