ย้ำชัด!เขมรต้องหยุดยิงก่อน ‘สีหศักดิ์’ยัน’รูบิโอ’ไม่ได้กดดันไทย

ย้ำชัด!เขมรต้องหยุดยิงก่อน 'สีหศักดิ์'ยัน'รูบิโอ'ไม่ได้กดดันไทย

ย้ำชัด!เขมรต้องหยุดยิงก่อน ‘สีหศักดิ์’ยัน’รูบิโอ’ไม่ได้กดดันไทย

วันศุกร์ ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.35 น.

“สีหศักดิ์”ยัน”รูบิโอ”ไม่ได้กดดันไทย ยันหยุดยิงต้องเริ่มจากกัมพูชา

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงกรณีที่ นาย Marco Rubio รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โทรศัพท์มาพูดคุย เกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า ขณะนี้หลายฝ่ายมีความเป็นห่วงว่าสถานการณ์ การสู้รบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาจะบานปลายหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ดําเนินมาสักพักหนึ่งแล้ว ทางสหรัฐอเมริกาจึงอยากทราบว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร มีโอกาสที่จะลดความรุนแรงได้อย่างไรบ้าง และมีความปรารถนาที่จะเข้ามาช่วย ซึ่งในส่วนของไทยก็ยืนยันว่าพร้อมในเรื่องของการลดความรุนแรง แต่ขณะเดียวกันการหยุดยิง เป็นเรื่องที่ฝ่ายกัมพูชาต้องเป็นผู้เสนอมาก่อน เพราะไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มเหตุการณ์ และหากกัมพูชาเริ่มมีความพร้อมที่จะเจรจาหยุดยิงก็ต้องแสดงให้เห็น โดยต้องมีการหยุดยิงก่อน เพื่อให้เห็นว่าพร้อมจริงๆ หลังจากนั้นก็ต้องมาคุยกัน ซึ่งย้ำว่าการหยุดยิงจะมาด้วยการประกาศเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จะต้องมีการกําหนดมาตรการว่าจะหยุดยิงอย่างไร และมีการตรวจสอบอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่ทหารของทั้งสองฝ่ายน่าจะต้องพูดคุยกัน

“หนึ่ง เขาต้องยื่นเรื่องเสนอมาที่เรา ว่าต้องการจะเจรจาหยุดยิง สองเขาต้องทําการหยุดยิงก่อน ให้เรามั่นใจว่าเขามีความจริงใจ และจริงจังที่จะหยุดยิง เมื่อเราคิดว่าเขามีความจริงใจแล้ว เราก็ต้อง ให้ฝ่ายทหารของทั้งสองฝ่ายมานั่งพูดคุยกัน แล้วตกลงกันถึงมาตรการการหยุดยิงว่าคืออะไรบ้าง เริ่มเมื่อไหร่ จะมีกระบวนการตรวจสอบอย่างไรบ้างว่าทุกคนปฏิบัติตามคํามั่นสัญญาการหยุดยิงไม่ได้มาด้วยการแสดงเจตนาอย่างเดียวหรือการประกาศ ต้องมาจากการพูดคุยลงในรายละเอียดว่าจะหยุดยิงอย่างไร จะหยุดยิงแบบไหน มีมาตรการที่จะเข้าไปควบคุมดูแลอย่างไรบ้าง”

นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาที่โทรมาไม่ได้กดดันไทย เพียงแต่บอกว่า มีความเป็นห่วง และความจริงแล้วทางสหรัฐอเมริกาพูดน้อยมากโดยตนเป็นคนพูดส่วนใหญ่ เพราะทราบอยู่แล้วว่าทางสหรัฐอเมริกาต้องการพูดอะไร ไม่ต้องรอให้ขยายความ และดูแล้วทางรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอยากจะฟังจากไทย และไม่ได้อยากที่จะมาทําให้รู้สึกว่ากดดันไทย ซึ่งตนได้ย้ําชัดถึงท่าทีของไทย คือต้องการลดความรุนแรง แต่ไทยทําฝ่ายเดียวไม่ได้ และและการจะหยุดยิงนั้นเป็นเรื่องที่ฝ่ายกัมพูชา ต้องเป็น ฝ่ายแสดงเจตจํานงมาที่ไทยโดยตรง ไม่ใช่ไป ติดต่อไปที่ฝ่ายที่สาม เพราะไทยเปิดประตูอยู่แล้วและเมื่อแสดงเจตนา พร้อมที่จะหยุดยิงและพูดคุยก็ควรต้องแสดงความจริงใจไปก่อนด้วยการหยุดยิง อย่างน้อยหนึ่งวันล่วงหน้า เพราะนอกจากจะเป็นการแสดงความจริงใจแล้วยังเป็นการสร้างบรรยากาศที่ดี จากนั้นให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องคือฝ่ายทหารมาพูดคุยกัน ในรายละเอียด โดยกระทรวงการต่างประเทศ พูดได้เพียงในหลักการ และการ หยุดยิงจะเกิดขึ้นได้จริงไม่ใช่มาจากการประกาศของประเทศที่สามแต่ต้องมาจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย

นายสีหศักดิ์กล่าวว่ารัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ บอกว่าดีใจที่ทราบ ถึงท่าทีของไทยเช่นนี้และตนยังบอกว่าจะมีโอกาสพูดคุยกันถึงประเด็นปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา ในห้วงที่ไปประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ ซึ่งก็หวังว่าจะมีข่าว แต่ไทยก็ควรจะต้องทราบ ว่าทางกัมพูชาพร้อมที่จะพูดคุยโดยต้องแจ้งโดยตรงมาที่ไทย จะเป็นลายลักษณ์อักษรหรือทางโทรศัพท์ก็ได้ ไม่ใช่แจ้งผ่านฝ่ายที่สาม

ส่วนกรณีที่ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนระบุคุยกับไทยแล้ว และทั้งสองฝ่ายแสดงความเต็มใจที่จะลดความตึงเครียด และบังคับใช้การหยุดยิง นายสีหศักดิ์ ยืนยันว่า ไทยยังไม่ได้รับปากเรื่องของการหยุดยิง เพียงแต่ยอมรับว่าพร้อมที่จะลดความรุนแรง และไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้อ แต่การที่จะหยุดยิง ต้องมาจากการเสนอของฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเมื่อเสนอแล้วต้องแสดงถึงความพร้อม หยุดยิง และแสดงให้เห็นถึงความจริงใจว่าพร้อมจะหยุดยิงจริงๆ จากนั้นค่อยมาพูดจากันในรายละเอียดมีข้อตกลงกัน ว่าจะหยุดยิงอย่างไร เมื่อไหร่ แบบไหน และมีมาตรการตรวจสอบอย่างไร ซึ่งการหยุดยิงไม่ได้เกิดขึ้นโดยทันที

ที่มา : สำนักข่าวไทย

Leave a comment