
หักเหลี่ยม‘ทรัมป์-อันวาร์’ ‘จีน’ออกโรง! กาวใจหย่าศึก’ไทย-เขมร’ ส่ง‘หวังอี้’เจรจาทั้ง2ฝ่าย
วันเสาร์ ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
หักเหลี่ยม‘ทรัมป์-อันวาร์’ ‘จีน’ออกโรง! กาวใจหย่าศึก’ไทย-เขมร’ ส่ง‘หวังอี้’เจรจาทั้ง2ฝ่าย พร้อมลงพื้นที่ดูสมรภูมิรบ
รัฐบาลจีนขยับแล้ว หักเหลี่ยม “ปธน.สหรัฐ-นายกฯมาเลเซีย” ส่ง “หวัง อี้” รมว.ต่างประเทศ เป็นกาวใจเคลียร์ “สีหศักดิ์-ปรัก สุคน” หวังหย่าศึกไทย-เขมร พร้อมส่งทูตพิเศษลงพื้นที่ดูสมรภูมิรบ
นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า นายหวัง อี้ รมว.การต่างประเทศจีน หารือทางโทรศัพท์กับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรมว.การต่างประเทศกัมพูชา และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศไทย เพื่อหารือถึงสถานการณ์บริเวณชายแดน โดยเป็นการพูดคุยแยกกัน
สำหรับประเด็นสำคัญของการหารือนั้น ทั้งทางการไทยและกัมพูชา แสดงความพร้อมที่จะลดระดับความตึงเครียด และบรรลุ
ขณะที่หวังเน้นย้ำ ว่าจีนยึดมั่นในความเป็นกลางและสนับสนุนการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี พร้อมทั้งผลักดันบทบาทของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการเป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศจีนได้ส่งทูตพิเศษด้านกิจการเอเชีย ให้เดินทางเยือนทั้งสองประเทศ เพื่อทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์และเร่งฟื้นฟูสันติภาพให้กลับคืนมาโดยเร็ว
หวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้โทรศัพท์คุยกับนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายได้แจ้งความคืบหน้าล่าสุดของสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาให้ นายหวัง อี้ และแสดงความปรารถนาที่จะคลี่คลายความตึงเครียดและหยุดยิง
นายหวัง อี้ กล่าวว่า ในฐานะมิตรประเทศและเพื่อนบ้านใกล้ชิดของไทยและกัมพูชา จีนเป็นประเทศที่ไม่อยากเห็นทั้งสองฝ่ายปะทะกันมากที่สุด และเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสียชีวิตและบาดเจ็บของประชาชนของทั้งสองประเทศ ความรุนแรงของสถานการณ์การปะทะครั้งนี้เกินกว่าครั้งก่อนๆ มาก และหากยังคงดำเนินต่อไป จะไม่มีประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายและบั่นทอนความสามัคคีของอาเซียน ภารกิจเร่งด่วนในปัจจุบันคือต้องมีการตัดสินใจ หยุดยิงโดยเร็วที่สุด ลดความเสียหายให้ทันเวลา และฟื้นฟูความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
นายหวัง อี้ กล่าวว่า จีนยึดมั่นในหลักการส่งเสริมการเจรจาและความเป็นธรรมในเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา และสนับสนุนความพยายามในการไกล่เกลี่ยของอาเซียน ทูตพิเศษด้านกิจการเอเชียของกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เดินทางไปไทยและกัมพูชาเพื่อประสานงาน ฝ่ายจีนจะทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อไป รวมทั้งมีบทบาทอย่างสร้างสรรค์ในการฟื้นฟูสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา หวังว่าทั้งสองประเทศจะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพเพื่อรับประกันความปลอดภัยของโครงการและบุคลากรของจีน และเฝ้าระวังผู้ที่เผยแพร่ข่าวลือเท็จเพื่อทำลายความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนกับทั้งสองประเทศ
. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วและนายปรัก สุคน ชื่นชมท่าทีที่เป็นกลางและไม่ลำเอียงของจีนอย่างสูง รวมถึงบทบาทของจีนในการไกล่เกลี่ย ยินดีกับการเดินทางมาไกล่เกลี่ยของทูตพิเศษจีน และหวังว่าฝ่ายจีนจะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการคลี่คลายความตึงเครียดและฟื้นฟูสันติภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเคลื่อนไหวของทางการจีนหนนี้ เกิดขึ้นจากความล้มเลวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิปดีสหรัฐ นายอันวา ฮิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการแก้ไขปัญหาส่งครามไทยเขมรละลอก 2 อีกทั้งจีนต้องการสร้าบทบาทใหม่ในภูมิภาคอาเซียน
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ หารือทางโทรศัพท์กับกับนาย Marco Rubio รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับประเด็นสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ซึ่งเป็นการสานต่อจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างกัน ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 68ทั้งสองฝ่ายหารือถึงพัฒนาการสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา
ล่าสุด โดยรัฐมนตรีฯย้ำท่าทีไทยและให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการของไทย รวมถึงการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งรัฐมนตรีฯ สหรัฐฯรับทราบและแสดงความพร้อมที่จะให้การสนับสนุน โดยทั้งสองฝ่ายจะติดต่อหารือกันต่อไป.เมื่อเวลา 13.25 น.วันที่ 19 ธ.ค.68 ที่พรรคภูมิใจ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว. ต่างประเทศ พูดคุยกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา ว่า นายสีหศักดิ์ ที่ขณะนี้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ได้เขียนรายงานมา ซึ่งท่านได้โทรศัพท์หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เห็นว่ามีการนัดพูดคุยกับนายหวัง อี้ ซึ่งนายสีหศักดิ์บอกว่าจะจัดการแล้วรายงานให้ทราบ ทุกอย่างก็ยังเป็นไปในทางที่ดี เราก็ได้อธิบายเหตุผลของการดำเนินการที่เรากำลังทำอยู่ในปัจจุบัน
“และยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน ถ้าเกิดบอกว่าจะมีการหารือต้องมีการหยุดยิง ซึ่งต้องบอกฝ่ายกัมพูชาให้เป็นคนเริ่ม ให้มีการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรม จนกว่าประเทศไทยเราจะรู้สึกว่าความเป็นอันตรายต่อประเทศมันหมดไป” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามมีกระเทศที่สามที่เป็นมหาอำนาจเข้ามากดดันหรือไม่ นายกฯ กล่าวต่อว่า ตนว่ายุคนี้สมัยนี้ คำว่ากดดันคืออะไร ตนว่ากดดันคือคุณต้องไปทำอะไรผิดก่อน ทำอะไรที่ไม่เข้าท่าก่อน ทำอะไรแล้วทำให้คนอื่นเกิดความเดือดร้อนก่อน เอาเปรียบคนก่อน ถึงจะใช้ความกดดันกัน ไทยไม่ได้อยู่ในบริบทนี้เลย ความกดดันต้องไปอยู่กับประเทศผู้รุกราน ผู้ที่ไม่อยู่ในข้อตกลงที่ละเมิดสัญญาที่มีไว้ต่อกัน
นายกฯ กล่าวย้ำว่า อย่างที่เรียนผู้สื่อข่าวต้องช่วยย้ำ เรามีสัญญาอะไรกันไว้ 1.ถอนทหาร ถอนอาวุธ 2.ถอนทุ่นระเบิด 3 .ปราบปรามสแกมเมอร์ 4.จัดการบริหารเขตแดนบ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ที่สู้รบกันอยู่ ทั้ง 4 ข้อ ประเทศไทยทำครบไหม ซึ่งก็ครบ ขณะนี้มีการตอบโต้กันอยู่ สู้รบกันอยู่ ทั้ง 4 ข้อ ประเทศไทยยังดำเนินการอยู่ อย่างเต็มที่ ยกเว้นข้อ1 ที่เราถอนทหารไม่ได้ เพราะเราถูกกลั่นแกล้ง ถูกโจมตี ถูกคุกคาม ที่เหลือก็ยังดำเนินการอยู่ตามปกติ
“ถ้าใครมาบอกให้เราว่าไทยแลนด์ต้องกลับไปสู่ปฏิญญา เราอยู่ในนั้นอยู่แล้ว ให้กลับมา เรายังไม่ได้ออกจากตรงนั้นมาเลย ต้องให้กัมพูชากลับไปตามปฏิญญา แต่ตอนนี้จะต้องมีเงื่อนไขเพิ่มเติมขึ้นมา การถอนกำลัง ถอนอาวุธ ต้องให้เต็มที่เป็นที่พึงพอใจ และไว้วางใจของประเทศไทยว่าไม่เป็นอันตรายต่อประเทศ คนที่ละเมิดจะต้องแสดงท่าที เป็นผู้ถูกกำหนดมากหน่อย” นายอนุทิน กล่าว