
‘จาตุรนต์’ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เพื่อไทย’ร้าวหนัก!
วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
‘จาตุรนต์’ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ‘เพื่อไทย’ร้าวหนัก! ไขก๊อกพ้นปธ.ยุทธศาสตร์พรรค ‘ยศชนัน’บุกสุพรรณบุรี ซุ่มตีท้ายครัวลูกบรรหาร
“จาตุรนต์ ฉายแสง” ลาออกประธานยุทธศาสตร์เพื่อไทย ยัวะเปลี่ยนม้ากลางศึก ไม่เหมาะยุทธศาสตร์พรรค ขณะที่ “ยศชนัน-จุลพันธ์” แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย บุกสุพรรณบุรี ไม่สนบ้านใหญ่ ประกาศปักธงตีท้ายครัวลูกบรรหาร “ปลัดตุ๋ม”เปิดตัวพรรค”โอกาสใหม่’ลั่นไม่ใช่สุสานข้าราชการแต่เป็นคลังสมองของชาติ
ที่พรรคโอกาสใหม่ ที่อาคาร JW TOWER นายจตุพร บุรุษพัฒน์ หัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ เปิดตัวที่ทำการพรรคฯอย่างเป็นทางการ และเปิดตัวผู้สมัคร สส.ทั้งหมด โดยมีนายประพัฒน์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการการรถไฟ น.ส. อนุสรี ทับสุวรรณ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะแม่ทัพ กทม.นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย น.ส.รสริน ศรัณย์เกตุ บุตรสาวนายศรัณย์วุฒิ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคโอกาสใหม่ พร้อมว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อและสส.เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
โดยนายจตุพร กล่าวว่า เราอาสาตัวมาในวันนี้ไม่ใช่เพราะเราต้องการตำแหน่งหรืออะไร แต่เราต้องการเข้าไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนจริงๆ ที่ผ่านมาเราอาจจะมองว่าการทำงานทางการเมืองเป็นสิ่งที่เราเจอเป็นประจำ จะสังเกตว่าคำพูดของคนที่เป็นนักการเมืองอาจจะมีปัญหา บางครั้งพูดแล้วไม่ทำและหยุดไปเฉยๆ โดยปล่อยให้พี่น้องประชาชนมองว่าเมื่อไรจะได้เห็นสิ่งที่รับปากไว้ ซึ่งเป็นแบบนี้มาตลอด ดังนั้นวันนี้เราได้รวบรวมเพื่อนๆ พี่น้องทั้งหลายมาอยู่ในพรรค มีคนถามว่าพรรคเราเป็นที่รวมเป็นสุสานข้าราชการหรือไม่ ทำให้ตนหัวเราะ เพราะสุสานคือป่าช้าของคนตาย แต่พวกเราไม่ใช่คนตาย เราอยากเอาคนที่มีความรู้มาช่วยคนไทยจริง ๆ เราคือคลังสมองเราจึงไม่ปล่อยคนพวกนี้ไปที่เมื่อถึงเวลารับเบี้ยบำนาญ อย่างนี้ไม่ใช่ จึงเป็นที่มาของโอกาสใหม่เพื่อคนไทยทุกคน
พรรคการเมืองมืออาชีพ
นายจตุพร กล่าวต่อว่า สิ่งที่พูดคือเราต้องเอาการบริหารนำการมเอง พวกเรามีประสบการณ์ เป็นมืออาชีพ ถ้าท่านต้องการสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ต้องเลือกเราเข้าไปเยอะๆ เลือกคนเลือกพรรคเข้าไปแล้วท่านจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทย โดยนโยบายของพรรคคือ 1.การเป็นรัฐสวัสดิการเข้าไปดูตั้งแต่เกิดจนถึงขึ้นสวรรค์ ในทุกมิติซึ่งสามารถทำได้เพราะเรามีกองทุนต่างๆ จำนวนมากซึ่งสามารถนำมารวมเป็นสวัสดิการทั้งหมดให้คนไทยได้ 2.เรื่องของการจงรักภักดีและการปกป้องสถาบัน ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติและใครจะมาละเมิดอธิปไตยต้องจัดการให้ชัดเจน
3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเรื่องโลกรวน โลกร้อน ที่ทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ จะต้องมีการรับมือโดยเครื่องมือพยากรณ์ที่แม่นยำและมีแผนการอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัย 4.เรื่องเศรษฐกิจ วันนี้ทุกคนบอกว่ามีปัญหาในเรื่องการส่งออก ในสิ้นปีนี้ จีดีพีคงไม่เกิน 2 % ซึ่งจะทำอย่างไร ทั้งที่ประเทศไทยมีจุดแข็งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวที่สามารถหารายได้ให้กับประเทศได้ รวมทั้งต้องมีการปฏิรูประบบการศึกษา ให้ทุกคนจบมาแล้วมีงานทำ เพราะวันนี้การเข้าถึงโอกาสการศึกษายังไม่ครบถ้วน ที่สำคัญในเรื่องการแก้ปัญหาที่เศรษฐกิจที่วันนี้ทุกคนมีหนี้ ลองถามกันดูว่าคนหนึ่งมีหนี้คนละเท่าไร ดังนั้นเราจะแช่แข็งหนี้ แล้วค่อยแก้ปัญหาต่อไป
แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ
หัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้พรรคฯจะแก้ปัญหาในเรื่องของความเหลื่อมล้ำที่สะสมมานาน ทั้งแก้ปัญหาที่ดินป่าไม้ พื้นที่ป่าอนุรักษ์ต้องรักษาไว้เพื่อนพื้นที่สีเขียวมาสร้างปอดให้คนไทย เรามีพื้นที่ป่าที่เป็นของส่วนราชการจำนวนมาก ต้องเอาส่วนนี้มาใช้ให้เหมาะสมให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์ และคนรวยจะต้องเข้ามาช่วยคนจน เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ลมหายใจของเราต้องมีทุกโอกาสให้กับคนไทยทุกคน เรามีท้องถิ่น 8,000 แห่ง และมี8 หมื่นหมู่บ้าน ซึ่งท้องถิ่นกับหมู่บ้านต้องไปด้วยกัน การกระจาย อำนาจต้องเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เป็นเพียงวาทะกรรม
“ตอนอยู่ในระบบราชการ ผมก็ทำได้เท่าที่ทำได้ในตำแหน่งปลัดกระทรวงฯ ลองให้ผมเป็นใหญ่กว่านั้นสิ จะแก้ปัญหาให้ดู ตัวตนของพรรคโอกาสใหม่คือเราจะเปลี่ยนวาทกรรมเป็นวาระงาน คือการทำงานจะเปลี่ยนคำว่าถ้าเป็นคำว่าทำ จะเปลี่ยนส่วนตัวให้เป็นส่วนรวม เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสใหม่ที่แก้ปัญหาให้กับคนไทยทุกคน ถ้าเลือกเราวันนี้ดีขึ้นแน่”นายจตุพร กล่าว
รทสช.เปิดนโยบายพรรค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เตรียมแถลงเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และนโยบายชุดแรก ในวันที่ 22 ธ.ค.68 เวลา 13.00 น. ณ ที่ทำการพรรคฯ โดยต้องจับตาว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรครทสช.ในการเลือกตั้งครั้งจะมีเพียงนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค คนเดียวหรือไม่ เพราะในการเลือกตั้งปี 2566 พรรครทสช.มีแคนดิเดตนายกฯ 2 คน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และนายพีระพันธุ์
เพื่อไทยลงพื้นที่กรุงเก่า/สุพรรณ
วันเดียวกัน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี ทั้งประกาศนโยบายแก้น้ำท่วม
เมื่อถามว่า นโยบายจะตรงใจพร้อมสู้กับบ้านใหญ่ โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี จะสามารถปักธงพื้นที่ได้หรือไม่ นายยศชนัน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องกลไกที่ต้องทำให้เป็นไปได้ ซึ่งในส่วนพรรคเพื่อไทยได้คัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพ เพื่อมาลงพื้นที่ สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจและเข้าถึงประชาชน อีกทั้งต้องมีความสม่ำเสมอ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถชนะใจประชาชนได้
ถามย้ำว่า บ้านใหญ่ จ.สุพรรณบุรี ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ซึ่งในพื้นที่ก็มีกระแสไม่พอใจบ้าง เรื่องนี้มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะปักธงได้หรือไม่ เพราะต้องไปสู้กับพรรคแกนนำรัฐบาลขณะนี้ นายยศชนัน กล่าวว่า หากมองว่าเป็นเรื่องพรรคการเมือง ก็ถือเป็นส่วนหนึ่ง แต่เพื่อไทยก้าวข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว สิ่งที่เราพยายามทำคือการทำนโยบายเพื่อประชาชน เราจึงคัดเลือกและคัดสรรผู้สมัคร สส. ที่มีความสามารถในการนำนโยบายไปแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง และเชื่อว่าจะสามารถชนะใจประชาชนได้
ด้านนายจุลพันธ์ กล่าวเสริมว่า เราไม่ได้ดูเรื่องของบ้านเล็กบ้านใหญ่อีกต่อไป เพราะเราก้าวข้ามประเด็นเหล่านั้นแล้ว การต่อสู้กับอำนาจรัฐพวกเราชินอยู่แล้ว เพราะเราเจอบ่อย เราผ่านการถูกปฏิวัติมา และเลือกตั้ง เราก็ชนะได้ เราผ่านการเป็นฝ่ายค้าน ซึ่งมีอำนาจรัฐ เราก็ไปทำความเข้าใจกับประชาชน และชนะเลือกตั้งมาได้เช่นกัน ครั้งนี้จึงไม่ได้กลัว และไม่ได้เป็นห่วงอะไร มั่นใจในนโยบายและเชื่อมั่นในตัวบุคคล เพราะวันนี้ไปในพื้นที่ใด กระแสตอบรับนายยศชนัน ก็อยู่ในระดับที่พอใจมาก ขณะที่ตัวผู้สมัครเองก็ลงพื้นที่ต่อเนื่องทุกวัน เรายังเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในการเดินเข้าหาประชาชน
ปชป.เชิญล้างบางสีเทา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกว่า 30,000 คน ภายใต้คำถามสำคัญที่ว่า “ประเทศไทยจะไม่ทนกับอะไร?” ซึ่งคำตอบที่ได้รับนั้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวเลขสถิติ แต่คือ “เรื่องราวชีวิตจริง” ที่สะท้อนถึงความหวังและความเจ็บปวดของคนไทยในหลากหลายมิติ โดยหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ถ่ายทอดเสียงสะท้อนที่น่ารับฟัง อาทิ เสียงจากผู้ปกครองที่ส่งเสียบุตรหลานจนจบการศึกษา แต่ต้องพบกับอุปสรรคในการหางานจากระบบเส้นสายที่ทำลายโอกาสของผู้มีความสามารถ เสียงจากผู้ประกอบการที่แบกรับต้นทุนแฝงจากการทุจริตเชิงนโยบายและการเรียกรับผลประโยชน์ เสียงจากกลุ่มเปราะบางเช่น ผู้สูงอายุที่ตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Scammer)
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้มีรากเหง้ามาจากการ “ทุจริตคอร์รัปชัน” และ “ระบบอุปถัมภ์” ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาสินค้าเกษตรหรือคุณภาพการศึกษา ทั้งหมดล้วนต้องการการแก้ไขที่ต้นเหตุคือ “จริยธรรมทางการเมือง”
ร่วมมือกันสร้างการเปลี่ยนแปลง ขอเสนอแนะแนวทางที่สร้างพลังบวก ว่า นักการเมืองต้องร่วมมือกับประชาชน ใช้โอกาสจากการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสื่อสารว่าเราจะไม่ยอมรับระบบเดิมๆ อีกต่อไป เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเพียงแค่ ‘ทนหายใจ’ ไปวันๆ แต่ร่วมกันสร้างอนาคตที่มีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม
จาตุรนต์ไขก๊อกพ้นปธ.ยุทธศาสตร์
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีการขอลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ว่า ตามที่พรรคเพื่อไทยได้มีคำสั่งที่ 0008/2568 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ.2568 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ความทราบอยู่แล้วนั้น ตนรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้ทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์และได้ร่วมทำงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยดี นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้งเป็นต้นมา แต่จากการทำหน้าที่นี้มาระยะหนึ่ง พบว่าแกนนำของพรรคได้ร่วมกันวางยุทธศาสตร์ของพรรคและยุทธศาสศาสตร์ในการเลือกตั้งคืบหน้าไปมากแล้ว เมื่อการยุบสภาเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน การที่จะกำหนดกระบวนทัศน์เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ดังกล่าวขึ้นใหม่ก็ดี หรือการที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขสิ่งเหล่านั้นก็ดีในระยะกระขั้นชิดเช่นนี้ ย่อมจะทำได้ยาก
เปลี่ยนม้ากลางศึก
นายจาตุรนต์ ระบุด้วยว่า การมอบให้ตนมาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรคจึงเปรียบเสมือนเป็นการเปลี่ยนม้ากลางศึก อาจจะไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ที่พรรคได้กำหนดไว้ล่วงหน้าแล้ว ซึ่งจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี ในส่วนการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นนั้น ตนเห็นว่าหากให้แกนนำของพรรคที่ได้ทำงานร่วมกันมาอย่างใกล้ชิดในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ในการกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางของพรรคมาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์จะเป็นการเหมาะสมกว่า
นายจาตุรนต์ ระบุต่อว่า ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2568 ที่ประชุมได้มีมติอย่างท่วมทันเห็นชอบให้ส่งคำขอไปยังคณะรัฐมนตรี เพื่อให้จัดให้มีการลงประชามติโดยมีคำถามว่าประชาชนจะเห็นชอบให้มีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ซึ่งการจัดให้มีการออกเสียงประชามติครั้งนี้คงจะเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับการเลือกตั้ง การจัดทำประชามตีในครั้งนี้จะผ่านความเห็นชอบของประชาขนหรือไม่เป็นเรื่องที่มีความหมายสำคัญอย่างมากต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย ผมได้มีส่วนร่วมในการผลักดันและดำเนินการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการจัดทำรัฐธธรรมนูญฉบับใหม่มาโดยตลอด
“ผมจึงเห็นว่าผมมีความจำเป็นในในการมีส่วนร่วมชี้แจงและรณรงค์ให้การจัดทำประชามตินี้ผ่านความเห็นชอบของประชาชนผู้มีสิทธิออกเสียง ซึ่งเป็นภารกิจหนึ่งที่สำคัญของพรรคนอกจากการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งอาจจะทำให้ผมมีเวลาในการทำงานให้กับพรรคน้อยลงในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมจึงขอลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2568 นี้เป็นต้นไป”
