สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ

สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ

สีหศักดิ์ ถึงมาเลเซียแล้ว พร้อมย้ำเงื่อนไขหยุดยิง 3 ข้อ

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.03 น.

22 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ เตรียมชี้แจงในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เช้าวันนี้ ถึงสาเหตุของความตึงเครียดและการสู้รบครั้งใหม่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งมีที่มาจากการละเมิดและไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงใน Joint Declaration ว่าด้วยความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ที่ผู้นำทั้งสองประเทศลงนามร่วมกันเมื่อช่วงปลายเดือน ต.ค.

นายสีหศักดิ์ เดินทางมาถึงประเทศมาเลเซียช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา เพื่อร่วมประชุมมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ตามคำเชิญของนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน โดยมีรายงานว่า หลังเดินทางถึงที่พักโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้มีการหารือกับ พล.อ.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว รองเสนาธิการทหาร ตัวแทนจากกระทรวงกลาโหม เพื่อกำหนดกรอบการชี้แจงและทำความเข้าใจกับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในการประชุมเช้านี้ คาดหลังการประชุมนายกฯ มาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนจะออกแถลงการณ์ชี้แจงผลการประชุม

กระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำจุดยืนของรัฐบาลว่า การหยุดยิงครั้งใหม่จะต้องอยู่บนสามเงื่อนไข ได้แก่ กัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน เนื่องจากเป็นฝ่ายโจมตียิงทหารไทยก่อนในพื้นที่ผลาญหินแปดก้อน เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ก่อนเกิดการสู้รบครั้งใหม่ในวันถัดมา การหยุดยิงต้องมีความต่อเนื่อง และกัมพูชาจะต้องแสดงความจริงใจ รวมถึงให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่วางทำร้ายทหารไทยในพื้นที่ชายแดน

ทุ่นระเบิด PMN-2 ที่กัมพูชาลักลอบวางและทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ชายแดน ถือเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การสู้รบครั้งแรก เมื่อวันที่ 24 ก.ค. หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดที่ช่องอานม้า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. และต่อมาเมื่อวันที่ 10 พ.ย. ทหารไทยรายที่ 7 เหยียบกับระเบิดจนขาขาด บริเวณห้วยตามาเรีย บนเขาพระวิหาร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตัวปราสาทพระวิหาร เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นสาเหตุให้นายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ประกาศยุติการดำเนินการตามแถลงการณ์ร่วม 4 ข้อ ที่ผู้นำทั้งสองประเทศตกลงกันเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ระหว่างการประชุม ASEAN Summit ที่มาเลเซีย ล่าสุด ทหารนาวิกโยธินไทยเหยียบกับระเบิดจนขาขาดเป็นรายที่ 8 เมื่อวานนี้ บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านจังหวัดตราด

ข้อตกลงในแถลงการณ์ร่วม 4 ข้อ กำหนดกรอบแนวทางที่ทั้งไทยและกัมพูชาต้องปฏิบัติร่วมกันในประเด็นการถอนอาวุธหนัก การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์อาชญากรรมออนไลน์ และการจัดระเบียบชายแดนในพื้นที่หนองจานและหนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย จะชี้แจงถึงความจริงใจของไทยที่มีต่อกัมพูชาในเรื่องสันติภาพ พร้อมย้ำจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาพิพาท และชี้แจงถึงสาเหตุของความรุนแรงที่นำไปสู่การสู้รบเมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์ทหารไทยถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 3 นาย บริเวณผลาญหินแปดก้อน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูมะเขือ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. โดยย้ำว่าการเผชิญหน้าในพื้นที่ชายแดนเกิดจากการละเมิดข้อตกลงของฝ่ายกัมพูชา

มีรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจากเมียนมาจะไม่เข้าร่วมการประชุมในวันนี้ และหากมีข้อเสนอจากที่ประชุมให้มีการหยุดยิง จะยังไม่มีการตกลงใดๆ ในประเด็นดังกล่าว โดยจะเป็นหน้าที่ของกองทัพและฝ่ายความมั่นคงไทยในการพิจารณาร่วมกัน

การสู้รบครั้งแรกระหว่างวันที่ 24–28 ก.ค. มีสาเหตุจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดในพื้นที่ช่องอานม้า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. เป็นเหตุให้อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 พล.ท.บุญสิน ผาดกลาง ประกาศปิดชายแดนและปิดปราสาทตาเมือนธมในช่วงบ่ายของวันเดียวกัน ก่อนจะเกิดการปะทะกันที่ปราสาทตาเมือนธมในเช้าวันที่ 24 ก.ค.

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ประธานอาเซียน แสดงความคาดหวังว่าการพูดคุยของผู้นำไทยและกัมพูชาในเช้าวันนี้ จะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้ง ลดความตึงเครียด และนำไปสู่การหยุดยิงเพื่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

อันวาร์ อิบราฮิม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กล่าวถึงการโทรศัพท์หารือเมื่อวานนี้กับ นายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล และฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อหาแนวทางที่ดีที่สุดในการคลี่คลายความตึงเครียดในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จากการสู้รบตลอดช่วง 15 วันที่ผ่านมา

“ข้าพเจ้าได้เน้นย้ำถึงความสำคัญที่ไทยและกัมพูชาต้องยึดมั่นในแนวทางการเจรจา พูดคุยแก้ไขปัญหา บนพื้นฐานของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน เพื่อยุติความตึงเครียด และรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค”

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนวาระพิเศษในวันนี้ ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เป็นเวทีหารืออย่างสร้างสรรค์สำหรับทั้งสองฝ่าย ในการเจรจาอย่างเปิดเผย และใช้สันติวิธีในการแก้ไขความขัดแย้ง เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายที่ยั่งยืนและเป็นธรรม

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงความคาดหวังว่าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันนี้ จะมีส่วนช่วยผลักดันให้ทั้งไทยและกัมพูชากลับไปปฏิบัติตามข้อตกลงในแถลงการณ์ร่วมที่ทั้งสองฝ่ายลงนามรับรองร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและสันติภาพในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ

Leave a comment