‘Thailand SRI Index 2025’ เข็มทิศนำทางเศรษฐกิจเล่มใหม่ ยกระดับการแข่งขัน – พัฒนาดัชนีระบบ ววน.

‘Thailand SRI Index 2025’ เข็มทิศนำทางเศรษฐกิจเล่มใหม่ ยกระดับการแข่งขัน - พัฒนาดัชนีระบบ ววน.

‘Thailand SRI Index 2025’ เข็มทิศนำทางเศรษฐกิจเล่มใหม่ ยกระดับการแข่งขัน – พัฒนาดัชนีระบบ ววน.

วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และธนาคารโลก (World Bank) คิกออฟความร่วมมือครั้งสำคัญในงาน ทิศทางวิจัย x นวัตกรรมไทย 2569 : Thailand SRI Index 2025’ มุ่งพัฒนา ‘ดัชนีระบบ ววน.ของไทย’ ให้เป็นเข็มทิศนำทางเศรษฐกิจเล่มใหม่ของประเทศ ที่ไม่เพียงกำหนดเป้าหมายการลงทุนด้านนวัตกรรมได้อย่างแม่นยำ แต่ยังเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงยุทธศาสตร์ระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาคมวิจัย ให้ก้าวไปในทิศทางเดียวกัน 

โดย .สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เปิดเผยว่า การจัดทำ SRI Index 2025 หรือ ดัชนีวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไทย 2568 ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สกสว. สอวช. และธนาคารโลก เพื่อเปรียบเทียบพัฒนาการ วิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อน และติดตามความก้าวหน้าจากปีที่ผ่านมา ผ่าน 5 เสาหลัก ได้แก่ 1.ผลกระทบจากนวัตกรรม 2.ความร่วมมือและการเชื่อมโยง 3.การใช้ประโยชน์จากผลงาน 4.ผลผลิตทางปัญญา และ 5.การลงทุนด้าน ววน. โดยภาพรวมคะแนนสุขภาพระบบ ววน. ของไทยปีนี้อยู่ที่ 7.77 ปรับตัวลดลงเล็กน้อยเพียง 0.04 จากปัจจัยภายนอก ซึ่งแม้จะถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ประเทศไทยยังมีศักยภาพที่จะผลักดันให้ดียิ่งขึ้นไปอีก

สำหรับก้าวต่อไปในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ปี 2569 คือ เงินทุนงานวิจัยกำลังคนผลลัพธ์ ให้สอดประสานกัน โดยมีวาระเร่งด่วน คือ การส่งเสริมนักวิจัยรุ่นใหม่ ด้วยการเปิดกว้างโอกาสและสร้างเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับการจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐานด้านการวิจัย และการขยายความร่วมมือกับต่างประเทศ โดยเฉพาะในมิติของกองทุนและทุนวิจัยร่วม เพื่อให้ผลงานวิจัยถูกนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงตามเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ

สอดคล้องกับ นายแซงบู คิม รองประธานฝ่ายดิจิทัลและAI ธนาคารโลก ที่ระบุว่า การที่ภาครัฐมีหน่วยงานอย่าง สกสว. ถือเป็นจุดแข็งสำคัญ เพราะ สกสว. มีบทบาทในการเชื่อมโยงระบบวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกับการพัฒนาเศรษฐกิจจริง ผ่านการกำหนดทิศทางการลงทุนวิจัย การออกแบบทุนที่เน้นการใช้ประโยชน์ และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างนักวิจัย ภาคเอกชน และหน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลตลาดต่างๆ บทบาทเช่นนี้ช่วยให้ผลงานวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัลไม่หยุดอยู่ในห้องทดลอง แต่ถูกนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ และแพลตฟอร์มใหม่ที่สร้างตลาดและโอกาสการจ้างงานในเศรษฐกิจดิจิทัล

ด้าน .สมปอง คล้ายหนองสรวง ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า ระบบ ววน. ไทย วันนี้ไม่ใช่เพียงเครื่องมือทางนโยบาย แต่ คือรากฐานความมั่นคงที่เปลี่ยน “ความรู้ ให้เป็น คุณค่า” เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน การผนึกกำลังร่วมกันระหว่าง สกสว. สอวช. ธนาคารโลก รวมถึงพลังของ 9 PMU จึงเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของไทยให้ทัดเทียมเวทีโลก ซึ่งผลลัพธ์จากการดำเนินงาน จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยวางรากฐานสำหรับอนาคตของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรมของประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืน

Leave a comment