ชำแหละ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ 4 พรรคหลัก สะท้อนบุคลิก มุมคิด ภาพลักษณ์

ชำแหละ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ 4 พรรคหลัก สะท้อนบุคลิก มุมคิด ภาพลักษณ์

ชำแหละ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ 4 พรรคหลัก สะท้อนบุคลิก มุมคิด ภาพลักษณ์

วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 07.55 น.

ชำแหละ‘ปาร์ตี้ลิสต์’ 4 พรรคหลัก สะท้อนบุคลิก มุมคิด ภาพลักษณ์

23 ธันวาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ชำแหละ ปาร์ตี้ลิสต์ 4 พรรคหลัก” ระบุว่า…

ชำแหละ ปาร์ตี้ลิสต์ 4 พรรคหลัก

หลังจากคณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.) ประกาศกำหนดให้มีการยื่นใบสมัคร สส.ระบบบัญชีรายชื่อ หรือปาร์ตี้ลิสต์ ต่อคณะกรรมการเลือกตั้ง ในวันที่ 28 ธันวาคม 2568 ทำให้พรรคการเมืองหลายพรรค ประกาศรายชื่อ สส. ในระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยเรียงตามลำดับตัวอักษร ซึ่งยังไม่ได้จัดลำดับ สส. ในระบบบัญชีรายชื่ออย่างเป็นทางการ

ตอนนี้มีพรรคการเมืองประกาศรายชื่อ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคละ 100 คน เพื่อทำไพรมารี่โหวตตามกฎหมายพรรคการเมือง ซึ่งพรรคที่ประกาศรายชื่อเป็นพรรคแรก คือ พรรคประชาธิปัตย์ , พรรคประชาชน , พรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ตามลำดับ

ซึ่งผมจะขออนุญาตวิเคราะห์รายชื่อสส.ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คนของแต่ละพรรค ซึ่งสื่อให้เห็นบุคลิกของพรรคการเมืองแต่ละพรรคว่ามีแนวความคิด หรือมีพื้นฐานความคิดต่อการเสนอรายชื่อสส.ปาร์ตี้ลิสต์ สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของพรรคอย่างไร

1.พรรคประชาธิปัตย์

ถือว่าเป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุด การจัดรายชื่อ สส.ระบบบัญชีรายชื่อ สอดคล้องกับบุคลิกของพรรค เมื่อเป็นพรรคเก่าแก่ มีสมาชิกผู้อาวุโส มีอดีตรัฐมนตรี มีอดีตสส.เป็นจำนวนมาก การจัดบัญชีสส.ระบบบัญชีรายชื่อ จึงเห็นรายชื่อของผู้อาวุโสทางการเมือง อดีตรัฐมนตรี อดีตสส.เป็นจำนวนมาก มีผู้สมัครสส.ของพรรคในอดีต ที่ไม่อยากลงในเขตเลือกตั้ง โดยเงื่อนไขหรือปัจจัยต่างๆนานา

แต่สุดท้ายเมื่อกระแสของพรรค หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาเป็นหัวหน้าพรรค ทำให้คะแนนนิยมในระบบบัญชีรายชื่อสูงขึ้น จึงทำให้อดีตรัฐมนตรี อดีตสส.หรืออดีตผู้สมัครในอดีต เสนอตัวลงในระบบบัญชีรายชื่อเป็นจำนวนมาก

จึงทำให้เห็นรายชื่อของสส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ เน้นหนักไปทางอดีตสส.และอดีตรัฐมนตรีเป็นส่วนใหญ่

2.พรรคประชาชน

ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ และประสบความสำเร็จการเลือกตั้ง 2 ครั้ง และได้รับเลือกตั้งหรือสส.ระบบบัญชีรายชื่อเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้ประสงค์จะสมัครในระบบบัญชีรายชื่อหลายคน

พรรคมีวิธีการคัดผู้เหมาะสมลงสมัครใน สส.ระบบบัญชีรายชื่อ โดยเน้นคนรุ่นใหม่เป็นหลัก ซึ่งจะเห็นความหลากหลายของกลุ่มที่ลงสมัครใน สส.ระบบบัญชีรายชื่อ เช่น กลุ่มอาชีพกลุ่มNGO ภาคประชาสังคม กลุ่มหลากหลายทางเพศ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มผู้ใช้แรงงาน นักธุรกิจรายย่อย กลุ่มธุรกิจรายใหญ่ กลุ่มนักวิชาการ ฯลฯ

จึงทำให้เห็นภาพส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาชน ค่อนข้างหลากหลายและโดยภาพรวมแล้วเป็นคนรุ่นใหม่

3.พรรคเพื่อไทย

ได้ประกาศรายชื่อส.ส. บัญชีรายชื่อ 100 คน ถ้าดูภาพรวมของรายชื่อ สส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย จะเห็นว่าแม้จะเน้นคนรุ่นใหม่เพื่อแข่งขันกับพรรคประชาชน แต่คนรุ่นใหม่ที่อยู่ในระบบบัญชีรายชื่อส่วนใหญ่ จะเป็นลูกหลานของอดีตแกนนำพรรค อดีตสส. อดีตรัฐมนตรี อดีตนายทุน รวมไปถึงการมีรายชื่อของอดีตสส. อดีตแกนนำ ทั้งพ่อทั้งลูก หรือบางคนพ่ออยู่อีกพรรค ฝากลูกมาอยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย

จึงเห็นภาพรวมของ สส.ปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคเพื่อไทยในลักษณะเป็นลูกของอดีตแกนนำ อดีตรัฐมนตรี และอดีตนักการเมืองของพรรคเพื่อไทยเป็นส่วนใหญ่

4.พรรคภูมิใจไทย

ประกาศรายชื่อส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่วนใหญ่จะเป็นบิ๊กเนม จะเป็นผู้มีชื่อเสียง ตัวแทนบ้านใหญ่เป็นส่วนใหญ่ ประกอบกับพรรคภูมิใจไทยได้ดูด สส.บ้านใหญ่ และดูดนักการเมืองจากพรรคการเมืองอื่นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ตัวแทนของกลุ่มที่ดูดมาขอสมัครลงในระบบบัญชีรายชื่อ จึงทำให้เห็นรายชื่อบ้านใหญ่ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทยหลายบ้าน ซึ่งยังไม่ได้จัดลำดับความสำคัญของรายชื่อในสส.บัญชีรายชื่อเลย

จึงทำให้เป็นปัญหาของพรรคภูมิใจไทย เพราะรายชื่อแต่ละคนแย่งกันอยู่ในลำดับต้นๆของระบบบัญชีรายชื่อ ต้องเหยียบกัน ต้องขี่กันด้วยซ้ำ ซึ่งจะทำให้การจัดลำดับบัญชีเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ทั้งหมดนี้เป็นรายชื่อที่ประกาศออกมา 100 รายชื่อของแต่ละพรรค และสามารถสื่อให้เห็นแนวความคิด บุคลิกของพรรคว่า พรรคมีแนวทางในการคัดสรร หรือในการเลือกคนมาอยู่ในระบบบัญชีรายชื่ออย่างไรบ้าง

Leave a comment