
แฉแหล่ง‘เขมร’ซื้อน้ำมันมารบกับไทย ชี้มีทั้ง‘ถูกกม.-เถื่อน-ทรานซิส’
วันอังคาร ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.46 น.
‘โฆษก กมธ.ทหาร สว.’ แฉ ‘กัมพูชา’ ซื้อ ‘น้ำมัน’ มารบกับ ‘ไทย’ จาก ‘ลาว-สิงคโปร์’ ผ่าน 3 ช่องทาง ทั้ง ‘ถูกกฎหมาย-เถื่อน-ทรานซิส’ รับเป็นเรื่องการค้าเสรีตามสิทธิ์-ไม่สามารถควบคุมได้
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ที่มีพล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม มีวาระพิจารณาสถานการณ์ทางทหารและความมั่นคง บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา กรณีการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์และการสกัดกั้นน้ำมันและยุทธปัจจัยทางทะเลของเรือไทย ที่จะเข้าไปในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง รวมถึงปัจจัยความเสี่ยงอื่นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการรักษาอธิปไตยของฝ่ายความมั่นคงในห้วงที่ผ่านมาและปัจจุบัน
ทั้งนี้ มีหน่วยงานสำคัญเข้าให้ข้อมูลต่อกรรมาธิการ อาทิ นายอาชว์ พดด้วง นายด่านศุลกากรช่องเม็ก กรมศุลกากร, นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน, น.อ.ณัฐวุฒิ งามวงศ์วาน รองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ศรชล. , นายทรงพล เทพนำโสมนัสส์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจต่างประเทศ บริษัทปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด(มหาชน) เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการ นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว. ในฐานะเลขานุการและโฆษกกรรมาธิการฯเปิดเผยว่า ทางคณะกรรมาธิการพบว่าแม้มีการสู้รบกันนานหลายเดือนแล้ว แต่น้ำมันของกัมพูชายังไม่ขาดแคลน ทั้งที่กัมพูชาซื้อน้ำมันจากไทย แต่ข้อเท็จจริงพบว่ากัมพูชาไม่ได้ซื้อน้ำมันโดยตรงจากไทย แต่ซื้อผ่านลาว วันนี้การส่งออกน้ำมันไปยังลาว ย้ายจากด่านช่องเม็กไปออกทางด่านมุกดาหาร เพราะตั้งข้อสังเกตว่าการที่น้ำมันส่งจากไทยไปลาวผ่านด่านช่องเม็กไปยังแขวงจำปาสัก จะถูกส่งไปยังกัมพูชาได้เร็ว ปลายทางคือเมืองสะตือแกรง ซึ่งเมื่อย้ายไปทางจังหวัดมุกดาหารจะส่งไปยังกัมพูชาได้น้อยลง นอกจากนี้ ยังพบหลักฐานการส่งน้ำมันจากสิงคโปร์ไปยังกัมพูชามากขึ้น คงจะแทนที่การนำน้ำมันจากไทย เป็นการซื้อโดยตรงจากสิงคโปร์ ใช้วิธีส่งทางเรือไปยังชายฝั่งของกัมพูชา โดยที่ไม่ต้องเข้ามาในน่านน้ำของไทย และอีกประเด็นคือน้ำมันไม่ใช่สินค้าควบคุม ดังนั้น การค้าน้ำมันเป็นการค้าเสรี การจะสั่งให้เป็นสินค้าควบคุมหรือไม่ส่งออกไปยังประเทศใด ๆ ได้ ต้องเป็นนโยบายของกองทัพหรือรัฐบาล หากเป็นระดับหน่วยงานไม่สามารถดำเนินการไม่ให้มีการส่งออกเองได้
นายไชยยงค์ ยังกล่าวถึงเส้นทางการค้าน้ำมันของไทยไปยังต่างประเทศหรือประเทศที่สามด้วยว่า มี 3 ช่องทาง คือ 1. ซื้อจากไทยโดยตรงตามกฎหมาย ผ่านด่านศุลกากรอย่างถูกต้อง 2. น้ำมันเถื่อนมาจากสิงคโปร์และมาเลเซียขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนในอ่าวไทยมีความยิ่งใหญ่มาก น้ำมันจากสิงคโปร์และมาเลเซียส่งไปยังลาวและส่งต่อไปยังกัมพูชาและประเทศที่สามอื่น ๆ โดยไม่ผ่านน่านน้ำไทย จะใช้น่านน้ำสากลในการที่จะผ่านไป และ 3.น้ำมันที่ทรานซิสจากไทย โดยมีผู้ค้าที่เป็นบริษัทใหญ่ส่งออกน้ำมันซื้อน้ำมันจากมาเลเซียและขอผ่านทางไทยโดยไม่เสียภาษี เพื่อไปขายให้กับประเทศที่สาม คือ ลาว เมียนมา และกัมพูชา โดยผ่านด่านศุลกากร อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งช่องทางสุดท้ายนี้ ไม่ผิดกฎหมาย เป็นการซื้อโดยตรงจากมาเลเซีย มีเอกสารขอผ่านไทยไปยังประเทศที่สาม แต่จะผิดกฎหมายก็ต่อเมื่อน้ำมันไม่ได้ส่งออกจริง แต่กลายเป็นเอามาขายในไทยแทน
“กัมพูชาสั่งน้ำมันผ่านทางผู้ค้าเอกชนในลาว เมื่อไทยส่งน้ำมันไปยังคลังในลาวก็มีการส่งต่อไปยังกัมพูชา เป็นการค้าของเอกชน ซึ่ง ปตท. ควบคุมไม่ได้ เพราะการค้าน้ำมันเป็นการค้าเสรี เมื่อซื้อแล้วก็เป็นสิทธิ์ จะอ้างว่าไปส่งที่ลาว แต่เมื่อไปถึงแล้วจะส่งไปไหน ก็เป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้” นายไชยยงค์ กล่าว


