
ปชป. ไม่ได้ดีแต่พูด สาทิตย์ ซัดกลับ ธรรมนัส ไม่เคลียร์ตัวเองโยงเอี่ยวเรื่องเทา ๆ
วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 14.03 น.
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 25 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาตอบโต้กรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ออกมาสวนกลับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมว่าดีแต่พูดทั้งที่ตอนเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับประเทศว่า การเสนอจุดยืนทางการเมืองเป็นเรื่องที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องมี และในสถานการณ์การเมืองที่ความเชื่อมั่นต่อการเมืองของประชาชนตกต่ำลง เพราะกังวลเรื่องการเมืองสีเทา ทุกพรรคการเมืองจำเป็นต้องมีจุดยืน ซึ่งนายอภิสิทธิ์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จึงเป็นพรรคแรกที่ประกาศจุดยืนทางการเมืองว่าไม่สามารถทำงานกับพรรคกล้าธรรมได้ ไม่ได้มีประสงค์จะสร้างความขัดแย้งหรือแตกแยก และไม่ใช่เรื่องที่จะไปเปิดวิวาทะกันพรรคกล้าธรรม
นายสาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อนายอภิสิทธิ์เปิดไปแล้วเช่นนี้ พรรคอื่นก็สามารถที่จะกำหนดจุดยืนตัวเองได้ และถ้าพรรคกล้าธรรมจะประกาศจุดยืนว่าไม่สามารถร่วมทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ได้เราก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา และไม่ใช่เป็นเรื่องที่ต้องโกรธกัน ดังนั้นที่คุณธรรมนัสตั้งโต๊ะแถลงยืดยาว
.jpg)
“จริงๆแล้วสิ่งที่ผมอยากฟังที่สุดคือจะเคลียร์ตัวเอง เรื่องที่หลายฝ่ายเกิดความสงสัยในความคลุมเครือไม่โปร่งใสในเรื่องการมีสีเทาๆ เข้ามาเกี่ยวข้องได้อย่างไรบ้าง ในประเด็นใดบ้างซึ่งยังได้ยินไม่ชัด มีแต่คำวิพากษ์วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์เช่นเรื่องดีแต่พูด ซึ่งเราก็พูดแต่เรื่องดีไม่ใช่ดีแต่พูด” นายสาทิตย์ กล่าว
อีกทั้งยังกล่าวเสริมอีกว่าเรื่องนี้คงไม่ถือเป็นวิวาทะและไม่ตอบโต้อะไร แต่ก็เตรียมข้อเท็จจริงที่จะชี้แจงไว้แล้ว เพราะสิ่งที่กล่าวหาเป็นเรื่องที่เกิดต่างกรรมต่างวาระ และย้อนรอยถอยหลังกลับ20-30 ปีแล้วจับมาพูดแบบสับสนมาก ตนยังยืนยันว่าจุดยืนของการไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมของนายอภิสิทธิ์เป็นมติพรรคประชาธิปัตย์แล้ว และจะเป็นจุดยืนที่ท้าทายเกมอำนาจทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าไม่ใช่คลุมเครือ อ้ำอึ้งหรือกั๊ก เพื่อจะรอร่วมรัฐบาล แต่จุดยืนของพรรคการเมืองที่จะยืนหยัดอยู่ในการเมืองที่สุจริตจำเป็นต้องประกาศจุดยืนว่าเป็นอย่างไร
.jpg)
“ก็ดีที่พรรคประชาชนที่อ้ำอึ้งในตอนแรก ก็ออกมาพูดชัดเจนขึ้นว่าจะไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมเช่นเดียวกัน และเห็นคุณธรรมนัสอ้างถึงคุณอนุทินว่า สมมุติว่าไม่มีใครเอาก็ไปร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย อันนี้ก็อยากฟังเหมือนกันว่าภูมิใจไทยจะตอบอย่างไร” นายสาทิตย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ออกมาระบุว่าการที่ออกมาพูดว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไม่จับมือกับพรรคกล้าธรรมเป็นการเสียมารยาท นายสาทิตย์ กล่าวว่าต้องแยกระหว่างจุดยืนทางการเมืองกับมารยาททางการเมืองจากกัน การไปบลูลี่คนอื่นว่าฟันน้ำนมยังไม่หักนี่คือมารยาททางการเมือง
.jpg)
เมื่อถามอีกว่า ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าการที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศอย่างนี้เพราะไม่พอใจเพราะสส.ของพรรคย้ายไปอยู่พรรคกล้าธรรมจำนวนมาก นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นเลย เพราะสส.เก่าของพรรคประชาธิปัตย์ย้ายไปหลายพรรค และเราไม่ได้พูดถึงพรรคอื่นเลย ดังนั้นในความคิดของนายอภิสิทธิ์กับพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจจุดยืนเรื่องนี้โดยไม่มีเรื่องการเมืองใดๆและความแค้น เข้ามาเกี่ยวข้อง
“ลองกลับไปดูการเมืองยุคปี35 ที่เกิดเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ ยุคนั้นเรียกว่าเทพ-มาร ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้จะใกล้เคียง เพราะคนต้องการการเมืองสุจริต แต่ในยุคนั้นเขาต้องการการเมืองที่ต้องปฏิรูป ไม่ต้องการนักการเมืองที่ไม่ชัดเจน ไม่โปร่งใส ฉะนั้นจากวันนี้ไปผมขอเรียกร้องประชาชนว่าขอให้ติดตามถ้อยแถลงทางการเมืองกับจุดยืนของแต่ละพรรคผ่านช่องทางต่างๆ เพราะการเมืองเราจะสร้างภาพหรือนโยบายอย่างใดก็ได้ แต่จุดยืนทางการเมืองและอุดรการณ์ต่างหากที่จะชี้ว่าพรรคการเมืองนั้นฟังเสียง และเคารพความคิดเห็นประชาชนแค่ไหน“
.jpg)
ส่วเรื่องที่ร.อ.ธรรมนัสเตรียมจะฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทนั้นนายสาทิตย์กล่าวว่าการฟ้องกันทางการเมืองก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เรามั่นใจในจุดยืนที่จะประกาศทางการเมืองว่าไม่ใช่เรื่องที่จะหมิ่นประมาทหรือใส่ร้ายใคร เพราะไม่ได้บอกว่าเขาผิดในเรื่องใด แต่เป็นเพราะความไม่โปร่งใส คลุมเครือ เทาๆ เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในเจตนารมณ์ของจริยธรรมทางการเมืองในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว
.jpg)