‘อนุทิน’ลั่น‘จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา’ พร้อมเป็นนายกฯ ภท.เสนอชื่อแคนดิเดตคนเดียว ‘เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์’คัมแบ๊ก

‘อนุทิน’ลั่น‘จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา’ พร้อมเป็นนายกฯ ภท.เสนอชื่อแคนดิเดตคนเดียว ‘เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์’คัมแบ๊ก

‘อนุทิน’ลั่น‘จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา’ พร้อมเป็นนายกฯ ภท.เสนอชื่อแคนดิเดตคนเดียว ‘เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์’คัมแบ๊ก

วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘อนุทิน’ลั่น‘จะทำให้ดีและยิ่งใหญ่กว่าที่ผ่านมา’
พร้อมเป็นนายกฯ
ภท.เสนอชื่อแคนดิเดตคนเดียว
‘เอกนิติ-ศุภจี-สีหศักดิ์’คัมแบ๊ก
‘ธรรมนัส’โต้เดือดซัด‘อภิสิทธิ์’
‘บิ๊กป้อม’จ่อวางมือเลิกการเมือง

“อนุทิน”นำทัพภูมิใจไทย โชว์วิชั่นสู้เลือกตั้ง 2569 ประกาศลั่นได้เป็นรัฐบาล“เอกนิติ-สีหศักดิ์-ศุภจี”นั่งรองนายกฯ บอกแคนดิเดตไม่สำคัญ-ไม่บังคับใจลั่น “ผมเป็นนายกฯ” ด้านกก.บห.ปชป.มีมติรับรองจุดยืนพรรคไม่ร่วมรัฐบาล“กล้าธรรม”มัด“อภิสิทธิ์’เป็นหัวหน้ายาว 4 ปี ไม่ว่าผลเลือกตั้งเป็นอย่างไร “พปชร.”ขยับ“ตรีนุช’ขึ้นแท่นแคนดิเดตนายกฯอันดับ 1 หลัง“ลุงป้อม”ถอนตัว เนื่องจากปัญหาสุขภาพ“ธีระชัย”อันดับ 2 พร้อมส่งชิงสส.เขต 200 เก้าอี้ ยัน“ประวิตร”ยังนั่งหัวหน้าพรรค

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 ที่โรงละครอักษรา ศูนย์การค้าคิง เพาเวอร์ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จัดการประชุมพรรคและแถลงนโยบายในการเลือกตั้ง นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมแกนนำพรรค อาทิ นายชาดา ไทยเศรษฐ์, นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รวมถึงแกนนำกลุ่มต่างๆ ที่เพิ่งเข้ามาอยู่พรรคภูมิใจไทย อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นายสนธยา คุณปลื้ม, นายสุชาติ ชมกลิ่น แกนนำรัฐบาลที่ถูกจับตาว่าจะเป็นแคนดิเดต นายกฯ พรรคภูมิใจไทย มาร่วม อย่างพร้อมหน้าทั้ง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.คลัง, นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ และว่าที่ผู้สมัคร สส.ทั้ง 500 คน มาร่วมประชุมอย่างคึกคัก

‘หนู’อ้อนขอเลือก‘ภท.’คะแนนพุ่ง

โดย นายอนุทิน กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเรารู้สึกว่าประชาชนตั้งความคาดหวังไว้สูงกับการทำงานของพรรค เราไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากความพร้อมสูงสุดในทุกๆ ด้าน พรรคภูมิใจไทยวันนี้มีประสบการณ์ ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว ไม่ใช่เด็กละอ่อนอีกต่อไป กล้าเสนอคำว่าพูดแล้วทำพลัส เพราะมีความพร้อมสูงสุดทุกด้าน การเลือกตั้งมา 3 ครั้ง พรรคเติบโตขึ้นเสมอ การเลือกตั้งที่กำลังจะถึง กราบขอโอกาสประชาชนอย่าทำให้กราฟพรรคภูมิใจไทยตกต่ำ แต่ขอให้พุ่งขึ้นเต็มที่
เพื่อสร้างความเจริญให้ประเทศได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ เรามีความสามารถในการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างมีเอกภาพ เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับข้าราชการ กองทัพ ภัยของประเทศในวันนี้ หลักๆ มี 4 ด้าน คือเศรษฐกิจ สังคม ภัยพิบัติและภัยความมั่นคง คนไทยปัจจุบันเกิดความกลัวสารพัด แต่สิ่งที่ตนไม่อยากให้คนไทยต้องกังวลเลย คืออย่ากลัวเสียอธิปไตยของประเทศ พรรคภูมิใจไทยจะทำให้ความหวาดระแวง ความกลัวของท่าน เปลี่ยนมาเป็นความมั่นคง มั่งคั่ง และเชื่อมั่น ทำให้ประเทศปลอดจากภัยคุกคาม เสริมสร้างศักยภาพกองทัพให้เข้มแข็ง พรรคภูมิใจไทยจะเปิดโอกาสทหารอาสาเพื่อรับใช้ชาติอย่างสมัครใจ และมีอนาคต เราจะเปลี่ยนคำว่าทหารเกณฑ์เป็นคำว่าทหารอาสา เพื่อจะได้มีทหารที่ตั้งใจ เต็มใจเข้ามาปกป้องอธิปไตยดินแดนของเรา โดยจะเปิดรับสมัครทหารอาสา 1 แสนคน ให้พวกเขาได้รับราชการเป็นทหาร4 ปี เงินเดือน 12,000 บาท จะทำให้ประเทศมีกำลังพลที่เข้มแข็งเพื่อปกป้องแผ่นดิน

ดันคนละครึ่งพลัส-ปราบสแกมเมอร์

นายอนุทินกล่าวต่อว่า ด้านเศรษฐกิจสองสามเดือนที่ผ่านมาเรามีนโยบายควิกบิ๊กวิน มาให้ประชาชน ทำโครงการคนละครึ่งพลัส ที่ยังติดประชาชนอยู่คนละ 2,400 บาท ขอให้ตนได้มีโอกาสกลับมาชำระหนี้ให้ แน่นอนว่าโครงการนี้จะกลับมาแบบไม่ธรรมดาเพราะมีคำว่าพลัสกลับมาด้วย รวมถึงจะทำให้สินค้าที่ประทับตราเมดอินไทยแลนด์ เป็นสินค้าที่ทรงพลังที่ทั่วโลกต้องการ และที่ผ่านมาเราทำให้เป็นแล้วว่า เราเป็นฝ่ายตรงข้ามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ผู้ค้ายาเสพติด ปราบสแกมเมอร์ เพื่อดูแลประชาชนไม่ใช่แค่คนไทยเพราะเรื่องนี้เป็นภัยคุกคามทั่วโลก สามเดือนที่ผ่านมาเราได้แสดงผลงานได้เป็นที่ประจักษ์ เศรฐกิจดีขึ้น ราคาข้าว มันสำปะหลัง มีราคาสูงขึ้น เราได้นำประเทศไทยกลับคืนสู่เวทีโลก รักษาเกียรติภูมิของประเทศ ถ้าประชาชนให้โอกาส ให้เวลามากกว่านี้พรรคภูมิใจไทยจะทำได้ดีกว่านี้

‘สีหศักดิ์-ศุภจี-เอกนิติ’นั่งรองนายกฯ

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ตนขอพิสูจน์ว่าพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะตนเดินไปไหน หูได้ยินเสียงประชาชนเสมอ ขอให้เลือกพรรคภูมิใจไทยกลับมา ท่านได้ตนเป็นนายกฯ ถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยกลับมา ตนจะให้นายสีหศักดิ์ เป็นรองนายกฯและรมว.กต.เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ นางศุภจี จะไม่เพียงเป็นรมว.พาณิชย์ แต่จะเป็นรองนายกฯกำกับการพาณิชย์ การอุตสาหกรรมและการค้า นายเอกนิติจะยังเป็นรองนายกฯและรมว.คลัง คุมการคลังของแผ่นดิน ดูวินัยการเงินการคลัง ดูค่าเงินบาท นโยบายทางเศรษฐกิจ สิ่งเหล่านี้พรรคภูมิใจไทย ไม่เคยมีมาก่อนแต่วันนี้มีแล้ว จะทำงานครอบคลุมถ้าทำไม่ได้พรรคภูมิใจไทย ไม่พูด เมื่อก่อนมีข้อจำกัดแต่วันนี้ไม่มีข้อจำกัด นอกจาก 3 คนที่กล่าวมา ยังมีคนมีความรู้ความสามารถที่ตนเชิญเข้ามาแม้จะมาจากส่วนอื่นในรัฐบาลที่แล้ว แต่วันนี้ตนไปขอให้มาร่วมงานกับภูมิใจไทย เพื่อประเทศไทย

“ท่านไม่ต้องห่วง สามท่านนั้นมาแน่ แม้ว่าเดี๋ยวคนจะบอกว่า เขาไม่เป็นแคนดิเดตนายกฯหรือ แต่ไม่สำคัญเพราะผมเป็นนายกฯ แต่ผมอาจเผื่อเหลือเผื่อขาดให้ท่านบ้าง เราไปบังคับจิตใจคนไม่ได้ พวกเราในห้องนี้เป็นนักการเมือง คุ้นชินกับการรับแรงปะทะ รับฟังเสียงตำหนิของคนที่เราไม่รู้จัก แต่สามท่านนี้อาจยังไม่ชินแต่เดี๋ยวก็ชิน แต่เที่ยวนี้ขอให้ท่านได้ทำสิ่งที่ท่านสบายใจ จะได้กลั่นผลงานที่ประชาชนประทับใจให้ประเทศของเรา ไม่มีความกังวลไม่มีเอ๊ะไม่มีเฮัย แต่มีแต่คำว่าสู้ เมื่อเขาได้สั่งสมประสบการณ์ทางการเมืองสักระยะ โดยอภิปรายไม่ไว้วางใจแน่ แล้ววันนั้นเขาจะเป็นส่วนหนึ่งของเรา วันนี้มองเขาเป็นคนนอกไม่ได้แล้ว เขาอาจไม่ชินระบบแต่การทำงานเขาคือคนใน เป็นเพื่อนร่วมงานของเราและผมให้คำยืนยันว่าเราทำได้ดีกว่ายิ่งใหญ่กว่า สำเร็จกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา”นายอนุทิน กล่าว

จีดีพีโต3%-มาตรการ10พลัสฟื้นศก.

จากนั้น นายเอกนิติ กล่าวว่า หลังรัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อ 30 กันยายน เศรษฐกิจกิจไทยก็ดิ่งเหว จากจีดีพี 3.2 เปอร์เซ็นต์ ลดเหลือ 1.8 เปอร์เซ็นต์ ก่อนจะลดเพิ่มจนเหลือ 1.2 เปอร์เซ็นต์ ถ้าไม่ทำอะไรเลยเศรษฐกิจจีดีพีจะเหลือ 0.3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนายอนุทิน บอกว่า มีเวลาสี่เดือนให้ตนไปออกนโยบายเศรษฐกิจมา จึงเกิดนโยบายควิกบิ๊กวิน ด้วยนโยบาย คนละครึ่งพลัส เที่ยวดีมีคืน ฯลฯ ที่ใช้เวลา 73 วันก็สามารถทำได้ และช่วยให้เศรษฐกิจไทยพ้นจากรถติดหล่ม ตนได้รับโจทย์ว่า เมื่อไทยพ้นจากการติดหล่มแล้วจะไปต่ออย่างไร ซึ่งถ้าพรรคภูมิใจไทย ได้ทำต่ออีกสี่ปี ระหว่างปี 2569-2572  ตนตั้งใจจะทำให้เศรษฐกิจไทยจีดีพีเกิน 3 เปอร์เซ็นต์ พลัส ทั้งนี้ นโยบาย เศรษฐกิจ 10 พลัส ประกอบด้วย 1.เติมชีวิตให้คนตัวเล็กแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เติมชีวิตให้คนตัวเล็ก 13 ล้านราย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ พลัส คนละครึ่งพลัส พันธบัตรรัฐบาล ออมพลัส ค่าไฟไม่เกิน 3 บาทต่อหน่วย เริ่มต้น 200 หน่วยแรก ปิดหนี้ไว ไปต่อได้ (เอเอ็มซี), 2. แมดอินไทยแลนด์ เอสเอ็มอี พลัส เติมทุนให้ ค้ำประกันไว สู้ได้ทุกที่ ผู้สูงวัยพลัส ทักษะดี มีงาน มีเงิน มีคนดูแล 3. ลงทุนพลัส เพิ่มการลงทุน รัฐร่วมทุน กระตุ้นโตยาว 4.ผลิตได้ ขายออก พลัส ผลิตของ ที่ใช่ ขายของที่คนชอบ ตอบโจทย์ทุกคน 5. เทรด พลัส ค้าขายฉลาด อัปเกรดการผลิต 6. เศรษฐกิจสีเขียว พลัส เพราะรักษ์โลกคือทางรอด และเป็นทางรวยอย่างยั่งยืน 7.ดิจิทัลเอไอ พลัส เอไอถึงมือ งานถึงตัว เงินถึงบ้าน 8. การศึกษาเท่าเทียม พลัส เรียนฟรี มีจริง มีงานเรียนฟรีทุกที่ทุกเวลา 9. สูงวัยพลัส ทักษะดี มีงาน มีเงิน มีคนดูแล 10. ไทยแลนด์ พลัส รัฐฉับไว เศรษฐกิจใหม่ คนไทยแฮปปี้

‘ศุภจี’เปิดสารพัดนโยบายพรรค

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ในฐานะดรีมทีมของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขึ้นแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการสู้ศึกเลือกตั้งปี 2569 เป็นคนสุดท้ายตอนหนึ่งโดยเริ่มต้นถามว่า “ตอนนี้เลยเวลาเที่ยงแล้ว หิวกันหรือยัง หิวหน่อยก็ดีจะได้ช่วยไปกินข้าว ให้ราคาข้าวจะสูงขึ้น ตอนนี้ข้าวเปลือกขาวอยู่ราคาเกิน 8,000 บาท ข้าวหอมมะลิเราแตะ 18,000 บาท ทั้งหมดที่ทำมาไม่ได้ใช้เงิน แต่ใช้วิธีบูรณาการหาช่องทางหาตลาดในการที่จะบรรลุเป้าหมาย ให้สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ หรือเพิ่มราคาสินค้าการเกษตรได้” ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้ฟังหลายๆ ท่านพูดในหลายเทรดอาจจะจำได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ขอให้จำในเรื่องของ “เทรดพลัส”สำหรับภาคอุตสาหกรรมในอนาคต คือการมุ่งสร้าง New S-Curve อาทิ การท่องเที่ยว ที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งเราต้องเน้นการท่องเที่ยวที่มีมูลค่าสูง การแก้ไขปัญหาการท่องเที่ยวต้องอยู่ที่การสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยให้คนที่เข้ามาดังนั้น เราต้องช่วยกันในลักษณะบูรณาการ ซึ่งปัจจุบันเราก็พยายามทำอยู่ อย่าง World Medical/Senior Living หัวใจสำคัญคือคนไม่ต้องเข้ามาเยอะ แต่อยู่กับเราให้นานขึ้น และใช้มากขึ้นนี่คือสิ่งที่เราจะสนับสนุนอย่างความยั่งยืน

นางศุภจี ยังกล่าวถึงการสนับสนุนการเป็น Multicaster อาทิ ฮาลาล หากประเทศไทยสามารถผลักดันตัวเองให้เป็นฮาลาลฮับในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็จะสามารถต่อยอดได้ธุรกิจได้ นอกจากนี้ ยังมีต่างชาติให้ความสนใจ ในเรื่องของการถ่ายทำภาพยนตร์โดยที่สหรัฐอเมริกา มาเปิดวิทยาเขตร่วมกันกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรกซึ่งสิ่งเหล่านี้เราอยากจะผลักดัน นอกจากนี้ ยังชูนโยบาย รัฐฉับไว อนุมัติไว ไม่มีกั๊ก เป็นความตั้งใจ ที่จะทำให้รวดเร็ว ฉับไว ลดความซ้ำซ้อนของกฎหมาย ลดความยืดเยื้อ ความไม่ทันสมัย พร้อมโปร่งใสเป็นธรรมเปิดเผยข้อมูล

กอด‘ศุภจี’-ลั่น‘มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน’

หลังแถลงนโยบายพรรคภูมิใจไทยของ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ได้เชิญ นายอนุทิน กลับขึ้นบนเวทีอีกครั้ง ก่อนที่ นายอนุทินจะบอกว่าขอกอดหน่อย แล้วเข้าไปสวมกอดนางศุภจี พร้อมระบุว่า เหนื่อยไหมครับ เพราะจากวันนี้ไปทุกคนจะเหนื่อยเป็นพันเท่า ซึ่งตนมั่นใจว่า ทุกท่านต้องการเหนื่อย มีความสุขในการทำงานอย่างหนัก ถ้าจะเหนื่อยเพื่อชาติ เพื่อประชาชน พวกเราอยากเหนื่อยมากๆ อยากเหนื่อยแสนสาหัส เพื่อให้ประชาชนหายเหนื่อย นายอนุทิน ระบุอีกว่า การนำเสนอนโยบายพรรค ที่ผ่านมาตัวแทนทุกคนคิดเองทำเอง ไม่มีทีมงาน เดินทางกลับบ้านเวลาตี 2 วันนี้ จึงเป็นนกเค้าแมวทั้งหมดแล้ว อีกทั้ง ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอความปรารถนาให้กับประชาชน ตนขอรับรองว่าประชาชนจะพ้นจากความกังวล ความหวาดกลัวในทุกเรื่อง เมื่อพรรคภูมิใจไทยได้กลับเข้าไปเป็นรัฐบาลรับใช้ประเทศไทย

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า มีคำถามระหว่างการแถลงบนเวทีจากโซเชียลมีเดียว่า“นำคนเก่งมาหมดเลย แล้วมึงจะเป็นนายกรัฐมนตรีทำไม” คำตอบของตน คือเป็นนายกฯ เพื่อที่จะให้คนเก่งเหล่านี้ได้มาทำงานด้วยกัน เพราะเชื่อว่าไม่มีใครตื๊อเก่งเท่า ซึ่งเราจะรวมพลังกันกับพรรคพวกทั้ง ฝ่ายการเมือง ฝ่ายข้าราชการประจำ ภาคเอกชน สร้างบ้านแปลงเมืองให้ไทยมีอนาคตที่สดใส มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

ยัน‘หนู’แคนดิเดตนายกฯคนเดียว

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคว่า ตามที่นายอนุทิน ประกาศว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคมี นายอนุทิน เป็นแคนดิเดต
เพียงหนึ่งเดียว ส่วน นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ และนางศุภจี  สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้อย่างแน่นอน เมื่อถามว่า หมายความว่าจะใช้ชื่อนายเอกนิติ นายสีหศักดิ์ และนางศุภจี พูดตอนหาเสียงได้เลยใช่หรือไม่ ว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลทั้ง 3 คนจะกลับมา นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายอนุทินประกาศไปแล้วว่าถ้าได้เป็นนายกฯ ทั้ง 3 ท่านจะกลับมาเป็นรองนายกฯคุม 3 ด้าน

‘กล้าธรรม’ซัด‘อภิสิทธิ์’ปลุกแตกแยก

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ โฆษกพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกรณี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศบนเวทีดีเบตว่า จะไม่ร่วมงานกับพรรคกล้าธรรม หลังการเลือกตั้งปี 2569 ว่า ท่าทีดังกล่าวสะท้อนแนวคิดทางการเมืองที่มุ่งสร้างความแตกแยกมากกว่าแสวงหาความสามัคคีเพื่อร่วมกันทำงานให้ประเทศเดินหน้า ตนเชื่อว่าประชาชนยังจดจำบทเรียนทางการเมืองในอดีตได้เป็นอย่างดี ทั้งกรณีการเรียกร้องให้เกิดการปฏิวัติ การบริหารประเทศที่นำไปสู่วิกฤตความขัดแย้งและความสูญเสียกลางเมืองหลวง รวมถึงปัญหาการจัดการที่ดิน ส.ป.ก.4-01 ที่ถูกตั้งคำถามถึงการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุน ตลอดจนความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ จากการบริหารจัดการหนี้และทรัพย์สินของชาติ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นการขายทรัพย์สินของคนไทยให้ต่างชาติในราคาต่ำกว่ามูลค่า

“พรรคกล้าธรรมขอยืนยันจุดยืนว่า เราพร้อมทำการเมืองเชิงสร้างสรรค์ ยึดผลประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นศูนย์กลาง เชื่อว่าประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินจากผลงานและแนวทางที่แท้จริงในการเลือกตั้ง เราไม่ใช่การเมืองที่สักแต่พูดสวยหรูเพื่อขายฝัน แต่เป็นการเมืองที่ลงมือทำจริงเพื่อประเทศและประชาชน ผลเลือกตั้งครั้งนี้ยังเป็นเรื่องของอนาคต ซึ่งผมมองว่าพรรคปชป.ไม่น่าจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ดังนั้นการที่ออกมาระบุว่า จะจับมือกับพรรคนั้นไม่จับกับพรรคนี้ พรรคประชาธิปัตย์คงไม่ใช่ผู้กำหนดทิศทางการเมือง” โฆษกพรรคกล้าธรรม กล่าว

ปชป.จ่อเปิดตัว3แคนดิเดตศุกร์นี้

ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) วาระสำคัญเป็นการขอมติจากที่ประชุม เพื่อจัดลำดับแคนดิเดตนายกฯของพรรค คาดว่า อันดับ 1.คือ นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ 2.นางการดี เลียวไพโรจน์ และ 3.นายกรณ์ จาติกวณิช

โดย นายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคปชป.กล่าวหลังประชุมว่า พรรคมอบหมายให้เลขาธิการพรรค ดำเนินการคัดสรรและจัดส่งให้กก.บห.พิจารณาทางออนไลน์ คาดว่าจะพิจารณาเสร็จในวันที่ 25 ธ.ค.นี้ และจะเปิดตัวแคนดิเดตทั้ง 3 คน ได้ในวันศุกร์ที่
26 ธ.ค. ส่วนนโยบายพรรคทั้งหมด จะเปิดอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังวันรับสมัคร สส.นอกจากนี้ ที่ประชุมกก.บห.ยังมีมติตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณีพรรคได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน หากพบผู้สมัครของพรรคกระทำการผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น ซื้อเสียง หรือพฤติกรรมอื่นๆ สามารถแจ้งเบาะแสได้ทุกช่องทางการสื่อของพรรคและตรวจสอบพบว่ามีความจริง พรรคจะยุติ และไม่สนับสนุนผู้สมัครคนดังกล่าวอีก
ต่อไป

มติไม่จับมือ‘กล้าธรรม’-‘มาร์ค’หน.4ปี

นายพงศกร กล่าวว่า กรรมการบริหารพรรคยังมีมติรับรองเจตนารมณ์ของนายอภิสิทธิ์ ที่ได้ประกาศไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม (กธ.) ให้เป็นจุดยืนของพรรค รวมถึงมีมติรับรองให้นายอภิสิทธิ์ เป็นหัวหน้าพรรคจนครบวาระ 4 ปี เนื่องจากนายอภิสิทธิ์ มีเจตนารมณ์ต้องการฟื้นฟูพรรค ซึ่งต้องใช้เวลา และหลักการ ดังนั้น ไม่ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาเป็นอย่างไร จะไม่ลาออกจากตำแหน่ง อยู่จนครบวาระ เพื่อดำเนินการตามสัจจะที่ได้มอบไว้กับพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ เมื่อถามว่า พรรคส่งผู้สมัครไม่ครบ 400 เขต จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลอย่างไร นายพงศกร กล่าวว่า อาจส่งไม่ครบ แต่ก็ให้ได้มากที่สุด และเมื่อถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะดึงคะแนนจาก 42% ที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด มาเป็นใช่หรือไม่ นายพงศกร บอกว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอโอกาส ให้การเมืองสุจริตเป็นทางเลือก

พปชร.ดัน‘ตรีนุช’ขึ้นแคนดิเดตนายกฯ

ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค พปชร.กล่าวหลังประชุมกก.บห.ว่า ที่ประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการเสนอชื่อผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต รวมถึงแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ในส่วนแคนดิเดตนายกฯ เนื่องด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ขอถอนตัว เปลี่ยนให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.แรงงาน ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นแคนดิเดตนายกฯแทน ส่วนแคนดิเดตนายกฯ คนที่ 2 คือ นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล รองหัวหน้าพรรค ที่ประชุมได้พิจารณาส่งผู้สมัคร สส.แบ่งเขต 200 กว่าเขต ส่วนผู้สมัครสส.บัญชีรายชื่อ กก.บห.มอบหมายให้หัวหน้าพรรคเป็นผู้พิจารณาจัดลำดับ โดยต้องรอหัวหน้าพรรคจัดลำดับก่อน ส่วนใครอยู่ลำดับใดนั้น ขอรอเพราะถึงอย่างไรวันที่ 28 ธ.ค. เราต้องเปิดทั้งหมดอยู่แล้ว

‘ลุงป้อม’ยังนั่งหน.รอรับรองผู้สมัคร

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร ยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยังเป็นอยู่ เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีกระแสข่าวว่า จะวางมือ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เอาอย่างนี้แล้วกันว่า ตอนนี้ท่านยังอยู่ เพราะจะต้องเซ็นหนังสือรับรองผู้สมัครสส.แบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ ถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตร บอกเหตุผลที่ถอนตัวจากการเป็นแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ท่านมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ตอนนี้สุขภาพท่านไม่ค่อยดี เมื่อถามอีกว่า ที่มีกระแสข่าวจะวางมือที่ยังอยู่เพียงแค่รับรองเอกสาร รวมถึงจะมอบหมายให้ น.ส.ตรีนุช เป็นหัวหน้าพรรคแทนเลยใช่หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตรงนี้สื่อวิเคราะห์กันไปเอง ไม่ใช่พรรคพูด ขอบคุณที่เป็นห่วงสุขภาพ พล.อ.ประวิตร ซึ่งก็ยอมรับว่า สุขภาพท่าน มีปัญหาจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่า ยืนยันได้หรือไม่ว่า เสถียรภาพพรรคมีความแข็งแกร่ง พร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่า พปชร.มีความเข้มแข็ง แน่นอน แต่วิถีของเราก็เป็นแบบเราซึ่งเราอาจจะไม่เหมือนพรรคอื่น แต่ยืนยันว่า พรรคเราเข้มแข็งแบบเรา ขอให้รอดูต่อไป อีกไม่นานก็เห็นไม่ว่าจะเป็นการสมัคร สส.แบบแบ่งเขต ในวันที่ 27 ธ.ค.และแบบบัญชีรายชื่อในวันที่ 28 ธ.ค.ที่เราจะไปสมัคร รอดูแล้วกัน ยืนยันเรื่องของแคนดิเดต นายกฯ ของพรรค พปชร.อันดับ 1 คือ น.ส.ตรีนุช และอันดับ 2 คือ นายธีระชัย

‘ธรรมนัส’ซัด‘มาร์ค’พูดเอาหล่อ

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรมว.เกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวถึงกรณีมีผู้นำบางพรรค ประกาศไม่เอาพรรค กล้าธรรม ว่า มารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน ตั้งแต่ปี 2562 ตนมาดูแลพี่น้องประชาชนในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับนายเฉลิมชัย หลายๆเรื่องเราทำแล้วเกิดประโยชน์ และแก้ปัญหาเก่าๆ เช่น ปัญหาไข่ไก่ ที่ยุคผมไม่มีปัญหา ผู้บริโภค ผู้เลี้ยงไม่เดือดร้อน ไม่ต้องเอางบหลวงไปจ้าง 70-80 ล้าน เพื่อจ้างให้ฝรั่งมาศึกษา แล้วเอาไข่ไก่ไปชั่งกิโลขายซึ่งตนเข้ามาแก้ปัญหา ใครคิดทำได้บ้างนี้

นอกจากนี้ยังแก้ปัญหาเรื่องที่ดินส.ป.ก.ที่ยุคใครไปทำให้ที่ดินของรัฐไปตกอยู่กลุ่มทุนทำให้รัฐบาลต้องเจ๊ง ยุบสภาหนีเพราะเรื่องนี้ ยุคไหนทำเราสูญเสียดินแดน ยุคไหนทำโรงพักกลายเป็นสุสาน

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า “เวลาจะเลือกตั้งที คุณหล่อพูดจาเพราะ แต่ผลงานเคยทำอะไรให้กับชาติบ้านเมืองบ้าง ผมไม่ต้องการที่จะมีวิวาทะกัน ผมว่าการที่ตัดสินใจจะร่วมตั้งรัฐบาลกับพรรคใดพรรคหนึ่งต้องให้พี่น้องประชาชนตัดสินใจว่าเลือกหรือไม่ ถ้าคุณมีสส.อยู่ในมือเกิน25 คน ค่อยมาคุยกัน

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ตนไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ บ้านเก่าของพี่น้องที่จะมาอยู่กับผม ความวิบัติของพรรคนั้นเป็นอย่างไร เวลาคุณประกาศ และถึงเวลากรรมการบริหารของพรรคไม่เห็นด้วย จนต้องลาออกไป เกิดอะไรขึ้นกับพรรคที่เป็นสถาบันที่อยู่กับประเทศไทยมานาน ไม่ต้องให้ผมพูดมากกว่านี้ ผมสร้างบ้านของผมไม่กี่วัน บ้านใหญ่โต เพราะเขาชอบที่พูดน้อยทำมาก ไม่ต้องพูดเอาหล่อเพราะทุกคนอดีตแก้ไม่ได้ แต่ต้องทำปัจจุบันและอนาคตให้ดี คนบางคนภาพหล่อภาพสวย เดี๋ยวจะรู้ว่าอดีตคุณ ไม่ธรรมดาเหมือนกัน หรือปัจจุบันคุณไปทำผิดศีลธรรมอะไรเดี๋ยวสังคมจะประจานคุณ”

Leave a comment