‘เพื่อไทย’โวพาประเทศไปข้างหน้า ‘ยศชนัน’บอกทุจริตไม่จบไม่เลิก ‘สุริยะ’มั่นใจกวาด 200 สส.

‘เพื่อไทย’โวพาประเทศไปข้างหน้า ‘ยศชนัน’บอกทุจริตไม่จบไม่เลิก ‘สุริยะ’มั่นใจกวาด 200 สส.

‘เพื่อไทย’โวพาประเทศไปข้างหน้า ‘ยศชนัน’บอกทุจริตไม่จบไม่เลิก ‘สุริยะ’มั่นใจกวาด 200 สส.

วันพฤหัสบดี ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.14 น.

‘เพื่อไทย’เปิดตัวผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์-เขตทั่วประเทศ ‘จุลพันธ์’ชูสามเสาหลักพาประเทศไปข้างหน้า ‘สุริยะ’ย้ำเลือกตั้งครั้งนี้พร้อมมากที่สุด จะได้ สส. 200 คน ‘ยศชนัน’ลั่นยาเสพติด-ทุจริตไม่จบไม่เลิก ขอเลือกพท.ทั้งคนทั้งพรรค

25 ธันวาคม 2568 ที่พรรคเพื่อไทย จัดกิจกรรม “เพื่อไทยทำได้ ทำให้ไทยยิ่งใหญ่ เลือกพรรคเพื่อไทย” เปิดตัวผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อรวม 500 คน โดยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการการการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ มีแกนนำพรรคเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง ทั้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงอง เลขาธิการพรรค

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองเดียวที่นำเสนอนโยบายเชิงโครงสร้าง เพื่อพัฒนาประเทศแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และปรับแผนให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า เราจะต่อสู้กับพลังที่ฉุดรั้งประเทศให้ถดถอย เช่น เรื่องความขัดแย้งทางการเมือง ความไม่มีเสถียรภาพของรัฐบาล และปัญหาของนิติรัฐนิติธรรม เพื่อก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้พรรคเพื่อไทยขอเสนอตัวเป็นพลังร่วมกับประชาชนในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ผ่าน 3 เสาหลักในการออกแบบนโยบาย คือ 1.ด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงและนิติรัฐนิติธรรม ด้านเศรษฐกิจจะขับเคลื่อนประเทศให้เจริญเติบโตด้วยจีดีพีไม่น้อยกว่า 5% 2.ด้านความมั่นคง พรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านการทหาร ความมั่นคงด้านไซเบอร์และความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม และ 3.ด้านนิติรัฐนิติธรรม การธำรงไว้ซึ่งหลักการของประชาธิปไตย จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทย ให้ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ประเทศไทยรุมล้อมด้วยวิกฤต ทั้งด้านการเมือง วิกฤตรัฐธรรมนูญ วิกฤตในเรื่องความแตกแยกในสังคม วิกฤตปัญหาชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน วิกฤตในเรื่องของจีโอโพลิติกส์ และวิกฤตด้านเศรษฐกิจปากท้อง การเลือกตั้งครั้งนี้จึงมีความสำคัญมาก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของประเทศไทย พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเปลี่ยนแปลง เมื่อกลับมาเป็นรัฐบาล เราไม่เคยละทิ้งเกษตรกร จึงนำเสนอนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องแบบรับความผันผวนของราคา พร้อมด้วยนโยบายพักหนี้เกษตรกร และตั้งเป้าหมายราคาสินค้าเกษตรหลัก เช่น ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ข้าวเปลือก 10,000 บาทต่อตัน ยางพารา 70 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวโพด 7.25 บาทต่อกิโลกรัม และมันสำปะหลัง 3 บาทต่อกิโลกรัม

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า และเราจะทำให้ประชาชนเข้าถึงสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานในราคาที่เหมาะสม ค่าไฟจะต้องไม่เกิน 3.70 บาทต่อหน่วย พรรคเพื่อไทยทำได้แน่นอน เรื่องยาเสพติดเราจะสานต่อ นโยบาย Seal Stop Safe  และทำนโยบาย 1 จังหวัด 1 ศูนย์บำบัด เพื่อดูแลผู้ติดยา รวมทั้งยกระดับความมั่นคงในทุกมิติ ทั้งความมั่นคงทางทหาร ความมั่นคงไซเบอร์ เพื่อแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ เรื่องอาชญากรข้ามชาติ ปัญหาสแกมเมอร์ เรายกระดับความปลอดภัยของธุรกรรมออนไลน์ โดยให้ธนาคารและผู้ประกอบการโทรคมนาคมมีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย เราจะตั้งกองทุนเพื่อคืนเงินให้แก่ผู้ถูกหลอกจากมิจฉาชีพทุกประเภท เราจะขึ้นบัญชีดังอาชญากรข้ามชาติ และแสวงหาความร่วมมือจากนานาชาติในการปราบอาชญากรรมออนไลน์และการค้ามนุษย์

“สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเสนอวันนี้ไม่ใช่คำสัญญา แต่คือความพร้อมของพวกเราในการลงมือทำ พวกเราที่จะพาประเทศไทยไปข้างหน้าพวกเราคือพรรคเพื่อไทย มีแต่พรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่ทำได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

ด้านนายสุริยะ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้เลือกแค่คน แต่เป็นการเลือกทิศทางประเทศ ในฐานะ ผอ.เลือกตั้งและคนทำงานการเมือง 25 ปี ยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เราพร้อมมากที่สุดตั้งแต่เคยทำการเลือกตั้งมา เราสร้างทีมงานประจำเขต ทำงานเชิงยุทธศาสตร์ ผู้สมัครทุกวันลงพื้นที่ด้วย DNA เพื่อไทย รับฟังความกังวลของประชาชนแล้วหาทางออกให้ มีการอบรมการปราศรัยให้ผู้สมัครให้ตรงประเด็นชัดเจน อบรมการสื่อสารการเมืองแบบใหม่บนโซเชียล และหลังบ้านเรามีการประเมินการทำงานด้วยผลโพลเพื่อวัดกระแส โดยนำมาหารือร่วมกับคณะกรรมยุทธศาสตร์ปรับแผนทำงานสำหรับแต่ละพื้นที่ พร้อมกันนี้ แคนดิเดตเบอร์1 นายยศชนันจะเดินสายพบสื่อ ดีเบตด้านนโยบาย รอบนี้ทำการบ้านมาอย่างดี พร้อมสานต่อนโยบายที่ทำไว้ได้ทันที และช่วงโค้งสุดท้ายจะมีการเปิดนโยบายเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม การเมืองยุคใหม่แข่งทุกวัน เราไม่รอกระแส แต่สร้างความเชื่อมั่นด้วยผลงานและความพร้อม

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เราต้องรัดกุมด้านกฎหมายเลือกตั้ง เรารู้ดีว่าถูกจ้องจับผิดพรรคเราโดยเฉพาะ เพราะคิดว่าพรรคเราจะมาที่หนึ่ง จึงต้องการทำให้เราเสียจังหวะ แต่พรรคเพื่อไทยไม่กลัว เพราะเราทำงานบนกติกา มีทีมกฎหมายดูแลให้ถูกต้องโปร่งใส ขอให้ทุกท่านมุ่งมั่นทำงานต่อไป การทำงานหนักไม่เคยทำร้ายใครทางการเมือง ถ้าเราอยู่ในกติกาวัดผลตัวเองตลอด รู้ว่าอะไรได้ผลอะไรต้องปรับปรุงแล้วเดินหน้าต่อ ที่สำคัญห้ามประมาท ต้องทำงานเต็มที่ อย่าย่อท้อ ทำงานอย่างหนักเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน และขอความร่วมมือประชาชนหากพบพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายเลือกตั้ง ให้ส่งเรื่องมาที่พรรคเพื่อไทย เราพร้อมตรวจสอบเพื่อให้การเลือกตั้งสุจริตและเป็นธรรม จากนี้พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าปราศรัยทุกภูมิภาคอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อม และในฐานะผู้อำนายการเลือกตั้งยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้ สส.ไม่ต่ำกว่า 200 คน

ด้านนายยศชนัน กล่าวว่า วันนี้เป็นภาพที่ทำให้ตนนึกถึงเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา ตอนที่ได้รับโอกาสลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.เขต 3 จ.เชียงใหม่ในนามพรรคเพื่อไทย จากวันนั้นถึงวันนี้อุดมการณ์ของพวกเราไม่เคยเปลี่ยน พรรคเพื่อไทยหัวใจคือประชาชน 45 วันหลังจากนี้พรรคอื่นๆอาจจะมองว่าเป็นการเลือกตั้ง แต่สำหรับเราคือวันแห่งความหวังของประชาชน วันนี้ปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมายทั้งเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ ปัญหาโลกร้อน รวมถึงปัญหาการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างเฉียบพลัน สิ่งที่เราต้องทำมี 4 เรื่อง คือแก้ปัญหาที่สาเหตุ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส เพื่อคนจนและคนรากหญ้า ส่งเสริมเครื่องยนต์เศรษฐกิจเดิม ให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้มากขึ้น ใช้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจมาขยายโอกาสใหม่ๆ ในทุกมิติ และหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องสร้างความเชื่อมั่นและสร้างคน ซึ่งการสร้างความเชื่อมั่น อธิปไตยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด หลักนิติธรรม ยาเสพติด ไม่จบไม่เลิก ทุจริตคอร์รัปชั่นไม่จบไม่เลิก สแกมเมอร์ไม่จบไม่เลิก

“อยากให้ทุกคนเชื่อใจ เชื่อมั่นว่าเราต้องทำได้ เราไม่ได้เดินเพียงลำพัง เรามีพี่น้องพรรคไทยรักไทยกลับมา เรามีผู้มากประสบการณ์ที่ยังอยู่กับเรา รวมกับสายเลือดใหม่ที่เข้ามาในพรรคเพื่อไทย เราเหมือนกับยืนอยู่บนบ่าของยักษ์ใจดีตัวหนึ่ง เพื่อช่วยให้พวกเราสามารถเห็นความหวังของคนไทยได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าลูกหลานของเราจะเกิดที่ไหน เขาจะต้องเติบโตขึ้นมาอย่างเท่าเทียมกัน ร่วมกันสร้างประเทศที่ดีให้ลูกหลานของเราอีกครั้งด้วยสองมือของเรา นับถอยหลังสู่วันแห่งความหวัง 8 ก.พ. สู้ไปด้วยกัน เพื่อไทยทำได้ ทำให้ไทยยิ่งใหญ่ เลือกพรรคเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรค” นายยศชนัน กล่าว

Leave a comment