
26 ธ.ค. 2568 13:16 น.
- ข่าว
- ต่างประเทศ
- ไทยรัฐออนไลน์
ชาวอินโดนีเซียชู “ธงขาว” วอนโลกช่วยเหลือ หลังวิกฤตน้ำท่วมอาเจะห์ รัฐบาลเยียวยาล่าช้า
ชาวจังหวัดอาเจะห์ บนเกาะสุมาตรา แสดงสัญลักษณ์ธงขาวเรียกร้องขอความช่วยเหลือ หลังน้ำท่วมใหญ่จากพายุคร่าชีวิตกว่าพันคน ร้องเรียนรัฐบาลช่วยเหลือล่าช้า ขาดน้ำสะอาด อาหาร และยารักษาโรค ขณะที่ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ปฏิเสธความช่วยเหลือต่างชาติ อ้างสถานการณ์ “อยู่ในการควบคุม” ท่ามกลางแรงกดดันให้ประกาศภัยพิบัติระดับชาติ
เป็นเวลานานหลายสัปดาห์แล้วที่ชาวบ้านในจังหวัดอาเจะห์ ซึ่งเป็นพื้นที่ทางเหนือสุดของอินโดนีเซีย พากันยก “ธงขาว” ขึ้นเหนือหลังคาบ้านที่พังทลายและตามมัสยิดต่างๆ เพื่อส่งสัญญาณความสิ้นหวังไปยังสังคมโลก หลังจากรัฐบาลกลางถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าดำเนินการช่วยเหลือล่าช้าต่อเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
พายุไซโคลนที่เกิดขึ้นได้ยากเมื่อเดือนพฤศจิกายน ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมขังยาวนาน มีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงกว่า 1,000 ราย และประชาชนหลายแสนคนต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่น โดยเฉพาะในจังหวัดอาเจะห์ซึ่งได้รับความเสียหายหนักที่สุด ประชาชนจำนวนมากยังคงเข้าไม่ถึงน้ำสะอาด อาหาร ไฟฟ้า และยารักษาโรค
ความตึงเครียดถึงขั้นทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจะห์เหนือหลั่งน้ำตาผ่านหน้ากล้องสื่อมวลชน พร้อมตั้งคำถามว่า “รัฐบาลกลางไม่รู้เลยหรือว่าเรากำลังเผชิญกับอะไรอยู่?” ขณะที่ชาวบ้านระบุว่าสภาพความเป็นอยู่ในตอนนี้ “แย่ยิ่งกว่าตอนสึนามิปี 2004” เนื่องจากในตอนนั้นความช่วยเหลือจากต่างชาติหลั่งไหลเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ในครั้งนี้พวกเขากลับถูกทอดทิ้งให้ต้อง “สู้กันเหมือนซอมบี้” เพื่อแย่งชิงอาหารที่มีอยู่อย่างจำกัด
ท่ามกลางเสียงเรียกร้องให้ประกาศเป็นภัยพิบัติระดับชาติเพื่อปลดล็อกงบประมาณฉุกเฉิน ประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต กลับปฏิเสธและยืนยันว่า “อินโดนีเซียสามารถเอาชนะภัยพิบัตินี้ได้เอง” โดยมีรายงานว่ารัฐบาลอินโดนีเซียได้สั่งตีกลับสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น ข้าวสาร 30 ตันจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ส่งมาช่วยผู้ประสบภัย โดยอ้างว่าเป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลกลาง นักวิเคราะห์มองว่าการปฏิเสธความช่วยเหลือต่างชาติเป็นความพยายามของประธานาธิบดีปราโบโวที่จะแสดงให้เห็นถึงอำนาจอธิปไตย และปกป้องภาพลักษณ์ของรัฐบาลไม่ให้ถูกมองว่าล้มเหลวในการจัดการวิกฤต
แม้คะแนนนิยมของปราโบโวจะยังคงอยู่ที่ประมาณ 78% แต่รัฐบาลของเขากำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างหนัก ทั้งจากปัญหานโยบายแจกอาหารกลางวันฟรีที่เกิดเหตุอาหารเป็นพิษจำนวนมาก และการประท้วงเรื่องค่าครองชีพก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ กลุ่มรักษ์สิ่งแวดล้อมยังกล่าวโทษว่า นโยบายการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมันที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและทำให้อุทกภัยครั้งนี้ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ปัจจุบัน พื้นที่ประสบภัยหลายแห่งยังคงถูกตัดขาดจากโลกภายนอกเนื่องจากถนนและโครงสร้างพื้นฐานถูกทำลาย ประชาชนจำนวนมากยังไม่รู้ว่าชีวิตจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้เมื่อใด ขณะที่เด็กๆ ในพื้นที่ประสบภัยยังคงไม่ได้กลับไปเรียนหนังสือ เนื่องจากโรงเรียนและตลาดต่างๆ ยังคงจมอยู่ใต้บาดาล.
ที่มา BBC