
ชำแหละ’ภูมิใจไทย’ ทำไม?มี’แคนดิเดตนายกฯ’เพียง 2 คน
วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 07.48 น.
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความระบุว่า ทำไม ภูมิใจไทย มีแคนดิเดตเพียง2คน
ถ้าใครติดตามการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทย ในกรณีการประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคการเมืองแรก ที่มีการประกาศว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีครบ3คน จากเมื่อก่อนมีเพียง1คน คือหัวหน้าพรรค นายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ต่อมานายอนุทินบอกว่า พรรคโตขึ้นมีสมาชิกมากขึ้น อยากจะมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้ครบ3คน โดยประกาศชื่อของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส และนางศุภจี สุธรรมพันธ์
หลังจากนั้นนักข่าวก็สอบถามเรื่องนี้กับนายเอกนิติ ซึ่งนายเอกนิติก็มีท่าทีบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถาม และไม่ยืนยันว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ตามการทาบทามหรือการประกาศของนายอนุทินหรือไม่ รวมไปถึงนางศุภจี สุธรรมพันธ์ ซึ่งตอนนั้นกำลังอยู่ในการไปราชการที่ต่างประเทศ เมื่อกลับมานางศุภจีก็ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม และบอกว่าไม่รู้เรื่อง เพิ่งรู้เรื่องพร้อมกับนักข่าวเช่นเดียวกัน ทำให้ทุกฝ่ายรอว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยเป็นใครกันแน่
จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2568 พรรคภูมิใจไทย นัดเปิดตัวทีมงานและนโยบายของพรรค ทุกคนก็รอคอยว่า จะมีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีครบ3คนหรือไม่ และยังเป็นรายชื่อเดิมคือ นายอนุทิน นายเอกนิติ และนางศุภจีหรือไม่ แต่ภาพที่ปรากฏบนเวที คือเป็นการประกาศทีมบริหารรองนายกรัฐมนตรี3คน ที่มาจากบุคคลภายนอก คือนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลงาน การเงินการคลัง นางศุภจี สุธรรมพันธ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานกระทรวงพาณิชย์ งานด้านการค้า และอุตสาหกรรม นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรี ดูแลงานต่างประเทศและความมั่นคง ไม่มีการประกาศชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด
ในโอกาสถัดมา นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกพรรค ได้ออกมาให้ข่าวว่า จะเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามพรรคภูมิใจไทยเพียงคนเดียว คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล แต่ล่าสุดเช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ได้มีแถลงการณ์ของพรรคภูมิใจไทย ประกาศแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค จำนวน2คน คือนายอนุทิน ชาญวีรกูล และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการการทาบทามแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยเป็นไปด้วยความขลุกขลักไม่ราบรื่น
การที่นายอนุทินต้องการที่จะโชว์ภาพเทคโนแครต หรือบุคคลภายนอกมืออาชีพ มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อดึงคะแนนเสียงของชนชั้นกลางและคนกรุงเทพนั้น ไม่ประสบความสำเร็จ รวมถึงการต้องการให้มีตัวช่วยในการดีเบตบนเวทีประชันวิสัยทัศน์ของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองต่างๆ แต่เมื่อบุคคลที่ต้องและทาบทามไว้ไม่พร้อม ในนาทีสุดท้ายจึงเห็นการไปตื๊อ ไปทาบทาม คะยั้นคะยอให้นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกคนหนึ่ง เพื่อสามารถช่วยในเวทีดีเบต เพราะลำพังนายอนุทิน ความเชี่ยวชาญความถนัดบนเวทีดีเบต ถือว่าเสียเปรียบแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคการเมืองอื่นๆหลายพรรค
ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าหากนายอนุทินต้องการได้ภาพความเป็นทีมของพรรคภูมิใจไทยครบทั้ง3คน ควรจะเสนอ 1.นายอนุทิน ชาญวีรกูล 2.นายวราวุฒิ ศิลปอาชา 3.นายไชยชนก ชิดชอบ ถ้าหากเป็น3คนนี้ ก็ถือว่าครบเครื่อง เพราะนายอนุทิน สามารถดีเบตในเรื่องการเมืองได้ นายวราวุฒิ สามารถดีเบตในเรื่องการเมือง เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการต่างประเทศได้ และนายไชยชนก สามารถดีเบตเรื่องเทคโนโลยีสมัยใหม่ และเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ได้
แต่ภาพที่ปรากฏคือ ได้มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเพียง2คน จึงทำให้เห็นว่าความพร้อมในการเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย ไม่มีความพร้อมตามที่หลายคนคาดหวังไว้