
ต๊ะ นารากร มั่นใจ ได้แน่ เขต 1 เชียงใหม่ พร้อมเป็นกระบอกเสียงให้ประชาชน
วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.57 น.
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น.ส.นารากร ติยายน (ต๊ะ) ให้สัมภาษณ์ ถึงการลงสมัครเลือกตั้ง สส.เชียงใหม่เขต 1 ว่า ตนพึ่งตัดสินใจในการลงสมัคร สส. หลังจากที่มีการยุบสภา ซึ่งคิดมาเป็นปีที่จะมีการลงเล่นการเมือง เพราะที่ผ่านมาเคยไปสมัคร สว. มาแล้วแต่ตกรอบ เราเห็นเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ทั้งการฮั้ว สว. การทุจริตต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของสแกมเมอร์ ซึ่งตนก็เคยโดนสแกมเมอร์หลอก จึงเป็นโอกาสที่เราจะได้ไปทำงานที่จะผลักดันในเรื่องของการทุจริตคอรัปชั่นต่างๆ รวมไปถึงเห็นแคมเปญพรรคประชาธิปัตย์ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่อง “การเมืองสุจริต” ซึ่งตรงใจว่า ถ้าเราไม่การเมืองให้สุจริต เราจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เราจะปรับระบบต่างๆของประเทศไทยที่เดินต่อไม่ได้ ตนจต้องเริ่มต้นจากการเมืองที่สุจริตก่อน จึงตัดสินใจมาร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เรามีการวางแผนอย่างไรบ้าง น.ส.นารากร กล่าวว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่โดยเฉพาะเขต 1 ที่แข่งกันดุเดือดมาก และคนที่ชนะหลายๆครั้งที่ผ่านมาด้วยคะแนนสูงเป็นคนเก่งมีความสามารถ ส่วนตนมองจุดยืนของตัวเอง ไม่ได้มองคู่แข่ง ถ้าเราตัดสินใจมาลงการเมืองแล้ว ต้องมองว่าเป้าหมายเราคืออะไร อยากจะไปพัฒนาท้องถิ่นของเรา เพราะจังหวัดเชียงใหม่เป็นบ้านเกิดของตนเอง โดยสิ่งที่หล่อหลอมมาเป็น นารากร ติยายน ทุกวันนี้คือ จ.เชียงใหม่ จึงเป็นความตั้งใจที่จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่

“เรามีความตั้งใจแล้วก็มาดูว่ามีพรรคการเมืองไหนสามารถทำให้เป้าหมายและจุดยืนของเราเป็นจริงได้จึงมาลงที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่วนคู่แข่งน่ากลัวไหมน่ากลัว เพราะแข่งขันกันดุเดือด แต่คนเชียงใหม่อาจจะเคยเลือกคนอื่นมาก่อน ถือเป็นโอกาสดีที่เราเป็นคนใหม่ของการเมืองแต่เราไม่ใช่คนหน้าใหม่ ในสื่อมวลชนไทย ลองให้โอกาสคนการเมืองใหม่ ๆ แต่ไม่ใช่คนหน้าใหม่ แต่เป็นคนที่ตั้งใจและมีเป้าหมาย” น.ส.นารากร กล่าว
เมื่อถามว่าในพื้นที่เสียงตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง เจ้าตัวได้ตอบว่า การลงพื้นที่ครั้งสุดท้ายเมื่อตอนที่สมัคร สว. ซึ่งการลงพื้นที่หาประชาชนจริง ๆ ยังไม่ได้ไปวันนี้ โดยหลังจากที่มีการลงสมัคร สส.เสร็จสิ้น ก็จะมีการไปพูดคุยว่าคนเชียงใหม่ต้องการอะไร อยากให้ทำอะไรให้ แต่ไม่สัญญาว่าสิ่งที่เราไปพูดไปคุยนั้นทำได้ทุกเรื่อง เพราะการทำงานการเมือง การที่จะพัฒนาปรับเปลี่ยนอะไรต้องมีปัจจัยหลายๆอย่าง เรารู้ว่าประเทศไทยของเราเป็นรัฐราชการ ก็ต้องอาศัยข้าราชการที่มาช่วยกันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุด และจะไม่เปลี่ยนจุดยืนของตัวเองที่เป็นมา 30 กว่าปี

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถปักธงในพื้นที่ได้ น.ส.นารากร กล่าวว่า มั่นใจเพราะตอนนี้คนไทยต้องการการเปลี่ยนแปลง เราเห็นนักการเมืองเมื่อเข้าไปอยู่ในสนามการเมืองมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในกลุ่ม ในขณะที่ประชาชนเรามีอำนาจแค่วันเดียวคือวันเลือกตั้ง ได้แต่มีการวิพากษ์วิจารณ์ ประชาชนควรจะมีอำนาจในการตรวจสอบ และสิ่งที่จะทำอีกอย่างคือการเพิ่มอำนาจของประชาชนให้มากขึ้น และเรานี่แหละที่จะเป็นคนเสียงดังในการตรวจสอบตะโกนร้องเรียนให้ประชาชนเอง


