
อ้างสื่อแปลผิด/ปัดขอเจรจาหยุดยิง ‘เขมร’พลิกลิ้น! ชี้แค่เอกสารกรอบเจรจาจีบีซี
วันศุกร์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
อ้างสื่อแปลผิด/ปัดขอเจรจาหยุดยิง ‘เขมร’พลิกลิ้น! ชี้แค่เอกสารกรอบเจรจาจีบีซี แนบเงื่อนไขตอบโต้ฉบับใหม่ หมกเม็ดทวงคืนพื้นที่สูญเสีย
“เตีย เซยฮา”รมว.กลาโหมกัมพูชา โต้กองทัพไทย ยันไม่ได้ขอหยุดยิง ชี้แค่เอกสารกรอบเจรจาจีบีซี ตามกรอบอาเซียน พร้อมแนวเงื่อนไขหมกเม็ดทวงคืนพื้นที่สู้รบ กห.สำทับซ้ำ หนังสือ“เตีย เซยฮา” มีนัยของหยุดยิง แต่ต้องไปถกในเวทีจีบีซี เสธ.ทบ.เผยเขมรยังซุกอาวุธอีกเพียบต้องตามกำจัดให้สิ้นซาก
จากกรณีกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้มีหนังสืออย่างเป็นทางการถึง รมว.กลาโหมของไทย เพื่อแสดงความประสงค์ในการเจรจาหยุดยิงผ่านกลไก GBC โดยไทยย้ำว่าต้องพิสูจน์ความจริงใจผ่าน 3 เงื่อนไขเหล็ก ก่อนลงนามสันติภาพในวันที่ 27ธ.ค.68 ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 25ธันวาคม2568 พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกัมพูชา โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก “TEA Seiha/ទៀ សីហា” ระบุว่า “สื่อมวลชนไทยบางสำนัก ทั้งสื่อทางการและไม่เป็นทางการ ได้นำหนังสือราชการฉบับหนึ่ง (ที่ส่งถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย) ไปเผยแพร่ในลักษณะเหมือนเป็นเอกสารที่หลุดรั่วออกมา ในตอนนี้ เรามีทั้ง Google Translate, ChatGPT รวมถึง Gemini ซึ่งสามารถแปลภาษาอังกฤษได้ แต่เนื้อหาที่แปลออกมากลับไม่ตรงกับความหมายที่แท้จริง ตามที่สื่อไทยได้นำไปเผยแพร่ให้ชาวไทยรับรู้แต่อย่างใด จากที่เคยสงสัย ตอนนี้ไม่สงสัยแล้ว”
“เขมร”ปัดขอเจรจาหยุดยิง
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ “สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily” ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของ นางฮุน มานา ลูกสาวนายฮุนเซน โพสต์รายงานปฏิเสธรายงานข่าวจากฝั่งไทยที่ระบุว่า พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กลาโหมของไทย เพื่อขอหยุดยิง เป็นการรายงานข่าวที่ไม่เป็นความจริง
อ้างแค่สนับสนุนการถกGBC
Kampuchea Thmey Daily ระบุว่า หนังสือที่ พล.อ.เตีย เซ็ยฮา ส่งถึง พล.อ.ณัฐพล ดังกล่าวเป็นการสนับสนุนการจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป กัมพูชา-ไทย (General Border Committee: GBC) ในวันที่ 24 ธ.ค.68 ตามแถลงการณ์ของประธานอาเซียน ซึ่งเผยแพร่ภายหลังการประชุมพิเศษรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนว่าด้วยสถานการณ์ปัจจุบันระหว่างกัมพูชาและไทย ที่จัดขึ้น ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา การยืนยันดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ฝ่ายไทยได้เผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องบางประการ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเข้าใจของสาธารณชนเกี่ยวกับท่าทีที่แท้จริงของกัมพูชาในการแสวงหาทางออกของความขัดแย้งด้วยสันติวิธี
ในหนังสือที่ส่งถึง รมว.กลาโหมไทย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานร่วม GBC ฝ่ายไทยนั้น พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ยืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของกัมพูชาในการเจรจาและแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติ ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดน
ทั้งย้ำว่าแถลงการณ์ของประธานอาเซียนได้แสดงความยินดีต่อการหารือเกี่ยวกับการกลับมาดำเนินการหยุดยิงและการยุติการสู้รบ ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนได้แสดงความหวังต่อการลดระดับความตึงเครียดในระยะเริ่มต้น ในสาระของการหารือ กัมพูชาได้เสนอให้การประชุม GBC มุ่งเน้นวาระสำคัญหลายประการ ได้แก่ การยุติการสู้รบทุกรูปแบบโดยทันที การเคารพและปฏิบัติอย่างครบถ้วน ตามข้อตกลงหยุดยิงลงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 รวมถึงแถลงการณ์ร่วมกรุงกัวลาลัมเปอร์ ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2568 และข้อตกลงอื่นๆ ที่ได้บรรลุภายใต้กรอบเดียวกัน
อีกหนึ่งวาระเร่งด่วนคือ การเอื้ออำนวยให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดนซึ่งได้รับผลกระทบ สามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาได้อย่างปลอดภัย มีศักดิ์ศรี และปราศจากการขัดขวาง พร้อมทั้งเร่งดำเนินการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี การปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมกรุงกัวลาลัมเปอร์อย่างเต็มรูปแบบ ตลอดจนการฟื้นฟูกลไกที่มีอยู่ภายใต้กรอบดังกล่าวโดยทันที รวมถึงกระบวนการกำหนดเขตแดน และความร่วมมือด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม
ประชุมGBCเป็นวันที่ 2
วันเดียวกันที่ ณ อาคารสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหลังใหม่ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี มีการประชุมกองเลขานุการคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ General Border Committee (GBC) ระดับเลขาธิการ วันที่ 2
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายไทยได้นำเสนอร่าง Joint Statement ฉบับของฝ่ายไทยไปแล้ว โดยฝ่ายกัมพูชา ได้เสนอร่างฉบับโต้ตอบ ซึ่งมีประเด็นสำคัญดังนี้ 1.เสนอให้หยุดยิงในทันทีตั้งแต่ 27 ธ.ค.68, 1900 ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท หลีกเลี่ยงการใช้อาวุธโดยไม่มีสาเหตุ รวมถึงการเคลื่อนย้ายกำลัง การลาดตระเวนและการวางลวดหนามไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย 2.การปรับกำลังไปยังที่ตั้งก่อนเกิดการปะทะ และจะกลับไปดำเนินการสำรวจและจัดทำเขตแดน โดยกลไก JBC ภายใต้ความตกลงที่มีอยู่ เพื่อให้บรรลุสันติภาพตามแนวชายแดนที่ยังยืน 3.อนุญาตให้พลเรือนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง กลับคืนสู่บ้านเรือนและการใช้ชีวิตที่ปกติ โดยไม่ถูกขัดขวาง ปลอดภัย และมีศักดิ์ศรี ตามสถานะที่เป็นก่อนเกิดความขัดแย้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะปรับกำลังออกจากพื้นที่4.ให้ใช้กลไกJBCในการแก้ไขปัญหาเขื่อนดักตะกอน ใน จ.เกาะกง ทั้งนี้ กองเลขานุการ GBC ฝ่ายไทย อยู่ระหว่างพิจารณาจัดทำร่างฉบับโต้ตอบ โดยสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของไทย เพื่อส่งให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณา ก่อนนัดหมายหารือต่อไป จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ
หมกเม็ดขอคืนพื้นที่สู้รบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนข้อที่ 3 ที่เขมรเสนอมานั้นนักวิชาการมองว่าเขมรหมกเม็ดเพื่อขอคืนพื้นที่ทางทหารต่างที่ฝ่ายไทยยึดเอาไว้
พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ เสนาธิการทหารบก กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย -กัมพูชาโดยทั่วไป ซึ่งปัจจุบันยังเป็นไปตามเป้าหมายของกองทัพที่ได้กำหนดไว้ ซึ่งขั้นตอนต่อไปก็ยังเดินไปตามแผนที่เราได้คาดการณ์ไว้เหลืออีกเพียงบางส่วน ซึ่งในพื้นที่ปฏิบัติการจะดำเนินการให้แล้วเสร็จ โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ส่วนการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย- กัมพูชา หรือ GBC จะได้ข้อยุติหรือไม่นั้นพลเอกชัยพฤกษ์ ระบุว่า คงต้องติดตาม เพราะขณะนี้เป็นเพียงการพูดคุยของฝ่ายเลขานุการ GBC เท่านั้น ซึ่งจะมีรายละเอียด ว่าสามารถตกลงอะไรกันได้บ้าง
ส่วนกัมพูชาจะยอมรับข้อเสนอของฝ่ายไทยหรือไม่นั้น พลเอกชัยพฤกษ์กล่าวว่า ขอให้รอฟังการประชุม ทั้งฝ่ายเลขานุการ GBC รวมถึง ในวันที่ 27 ธันวาคมนี้ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมทั้ง 2 ประเทศ ทั้งนี้ขอย้ำว่า ในพื้นที่หน้าที่ของเรายังคงดำเนินการอยู่ ซึ่งยังคงมีการปะทะอย่างต่อเนื่องเรายังต้องทำและปฏิบัติ และทำหน้าที่นั้นให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า 1ใน3ข้อเสนอ คือกัมพูชา ต้องประกาศหยุดยิงก่อนในฐานะผู้รุกราน ปัจจุบันนี้ได้เห็นสัญญาณนั้นแล้วหรือไม่ ภายหลังได้มีการทำหนังสือมาถึงกระทรวงกลาโหม พลเอกชัยพฤกษ์ ระบุว่า กัมพูชาได้ส่งสัญญาณมาโดยตลอด ตั้งแต่ช่วงต้นว่าคิดและอยากปฏิบัติเช่นนั้น แต่เราไม่ได้เป็นฝ่ายที่ทำให้สถานการณ์เกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วเราต้องปกป้องอธิปไตย
ต้องเชือดเขมรให้อยู่หมัด
เมื่อถามว่ากัมพูชาสงวนคำพูดหลบเลี่ยง ที่จะประกาศหยุดยิงก่อน โดยใช้วิธีการให้ไทยและกัมพูชาประกาศหยุดยิงพร้อมกัน พลเอกชัยพฤกษ์กล่าวว่า เชื่อว่าฝ่ายกัมพูชาพยายามสื่อสารกับคนในประเทศเช่นนั้น
เมื่อถามว่าเรายังยืนยันในจุดยืนว่าฝ่ายกัมพูชาต้องประกาศก่อนใช่หรือไม่ พลเอกชัยพฤกษ์ กล่าวว่า แน่นอน
เมื่อถามว่าปัจจุบันกัมพูชาอยู่ในสภาพที่สิ้นภาพแล้วหรือไม่ พลเอกชัยพฤกษ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำลายไปหลายส่วน กำลังที่อยู่บริเวณเขตอธิปไตยของเรา ตอนนี้ทำได้ 90% แต่ในพื้นที่ทางลึก ยุทโธปกรณ์ที่เขามีอยู่ ก็ยังมีอีกจำนวนมาก แต่ไม่ขอพูดถึงรายละเอียด คิดว่าเราดำเนินการตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้เป็นที่น่าพอใจ
“หนู”ชี้เหมนต้องปฎิบัติให้ได้
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ภายหลังมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC ระดับเลขานุการ ระหว่างฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ จ.จันทบุรี ว่า ขอให้รอก่อน เพราะยังเหลือการประชุมอีก 3 วัน ซึ่งการประชุมเมื่อวานเป็นเหมือนการเพิ่งเริ่มกระบวนการ ซึ่งเปรียบเหมือนการทักทายกัน แต่ผู้สื่อข่าวนำเสนอว่าเจอกันครึ่งชั่วโมง และเดินกลับออกจากที่ประชุมหน้าเรียบเฉย ตนมองว่า ใครจะหัวเราะได้ทั้งวัน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นเพราะฝั่งกัมพูชากังวลเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับทันทีว่า “ไม่มีหรอกครับ ซึ่งการประชุมก็จัดขึ้นที่บริเวณเขตแดน โดยต่างคนต่างมีท่าทีที่ดี และสถานที่จัดการประชุมทุกฝ่ายก็เห็นพ้องต้องกัน ซึ่งไทยยืนยันอยู่แล้วว่าไม่ไปกรุงกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียพยายามให้เหตุผล ตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นปัญหาในระดับทวิภาคี หากไม่มีมีความจำเป็นเร่งด่วนอะไร ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนทวิภาคี คือไทยและกัมพูชาคุยกันแค่ 2 ประเทศ ส่วนความคาดหวังกับผลการประชุมไว้อย่างไร นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ขอให้รอผลการประชุมออกมาก่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้ฟังกรอบ ข้อเสนอฝั่งไทยจากตัวแทนที่ไปประชุม ส่วนขั้นตอนและวิธีเจรจา ต้องให้เป็นเรื่องของหน้างาน
รูปปั้นถูกทำร้ายเทียบขาขาดไม่ได้
สำหรับกรณีที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของอินเดีย ออกแถลงการณ์ตำหนิกรณีกองทัพไทย รื้อถอนรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู (นักรบแปดมือ) ในพื้นที่ช่องอานม้าเป็นการกระทำที่ไม่เคารพ และทำร้ายความรู้สึกของผู้ศรัทธา เนื่องจากมองว่าเป็นพระวิษณุ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องของการเจรจาในทวิภาคี ดังนั้นเป็นเรื่องของ สมช. ที่จะต้องพูดคุยกันในระดับทวิภาคี เพราะฉะนั้นเราต้องไม่หวั่นไหวกับอะไรที่อยู่นอกกรอบ
ส่วนเรื่องรูปปั้นดังกล่าวนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รูปปั้นดังกล่าว หากเทียบกับชีวิตทหาร อวัยวะ แขนขาขาด ก็ขอให้คิดต่อกันเอง “รูปปั้นที่ถูกทำร้าย หากเทียบกับขาทุกขาที่ทหารเราเสียไป และไปเปรียบเทียบกับการลบหลู่ เรื่องนี้ผมไม่เอาไปเทียบหรอกครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
อยู่ที่การปฎิบัติจริง
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่กระทรวงกลาโหม กัมพูชามีหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยประสงค์เจรจาหยุดยิงผ่านกลไก (GBC) ต่อมาเปลี่ยนว่าไม่ใช่เอกสารขอเจรจาหยุดยิง ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การกระทำทุกอย่างไม่ได้อยู่บนหนังสือ แต่เป็นเรื่องของการตอบโต้ที่ประเทศไทยถูกประเทศอื่นรุกรานโจมตี ซึ่งไทยก็ต้องตอบโต้ ตามกฎของการตอบโต้ อย่างในเรื่องของการเจรจาที่วันนี้จะเป็นการประชุม GBCต่ออีก หากประชุมเสร็จสิ้นต้องยึดตามผลของการประชุมที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาทั้ง 2ฝ่าย หาการเจรจาเรียบร้อย รมว.กลาโหมทั้งสองฝ่ายจะเดินทางไปลงนาม ซึ่งตนหวังว่า หากการลงนามในครั้งนี้เกิดขึ้น ประเทศกัมพูชาจะรักษาสัญญาสักที จะได้ไม่ต้องมีปัญหาอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก
ทบ.แจงจดหมายจากเขมร
ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง หนังสือที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชาส่งมาถึงกระทรวงกลาโหมไทย มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับการขอหยุดยิงหรือไม่นั้นว่า ประเด็นหยุดยิงหรือไม่หยุดยิง ทางฝ่ายกัมพูชาได้ชี้แจงและนําเสนอไปแล้วในช่วงของการประชุม รมว.ต่างประเทศอาเซียนที่ผ่านมาก็ได้เสนอประเด็นนี้มาก่อนหน้านี้แล้วว่า อยากให้หยุดยิงในเวลา 22.00 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม แต่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า จะพูดคุยเช่นนั้นได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่มีรายละเอียดใดๆ
คงประสงค์ให้หยุดยิง
ล่าสุด จึงมีหนังสือของพล.อ.เตีย เซยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าในตัวหนังสือไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าเป็นการหยุดยิง แต่มีนัยรายละเอียดคือ ฝ่ายกัมพูชามีความประสงค์อยากให้หยุดยิง แต่ต้องไปพูดคุยในเวทีจีบีซี สำหรับตัวหนังสือที่ออกมาเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม เป็นการส่งมาทางเดียว ไม่ได้มีการหารือรายละเอียดกับฝ่ายไทยก่อนหน้านี้