ดีเดย์ 27 ธันวาคม รับสมัคร สส.เขต รับเบอร์แล้วแห่ได้ แต่ห้ามจัดมหรสพ

ดีเดย์ 27 ธันวาคม รับสมัคร สส.เขต รับเบอร์แล้วแห่ได้ แต่ห้ามจัดมหรสพ

ดีเดย์ 27 ธันวาคม รับสมัคร สส.เขต รับเบอร์แล้วแห่ได้ แต่ห้ามจัดมหรสพ

วันเสาร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ดีเดย์27ธันวาคม รับสมัครสส.เขต รับเบอร์แล้วแห่ได้ แต่ห้ามจัดมหรสพ

กกต.กทม.ซ้อมเสมือนจริง ก่อนวันรับสมัครเลือกตั้ง สส.แบ่งเขต พร้อมแล้วกว่า 90% ส่วน กกต.ชุดใหญ่ประกาศ 5 แนวทางจัดการเลือกตั้ง สส. พื้นที่ 7 จังหวัดสู้รบ ชายแดนไทย-กัมพูชา สรุป 6 วันลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า-นอกราชอาณาจักร คนลงทะเบียนแล้วกว่า 5 แสนคน ประชุมเตรียมพร้อมประชามติ“ณรงค์”ลั่นจัดการเลือกตั้งพร้อมประชามติเป็นความสำเร็จของคนไทยทั้งประเทศ “แสวง”ยืนยันเลือกตั้ง 8 ก.พ.วันเดียวทั่วประเทศ แม้ชายแดนไทย–กัมพูชายังตึงเครียด เตรียมวางแผนแบ่งโซนสีจัดเลือกตั้ง ระบุหน่วยไหนกระทบเลื่อนลงคะแนนหน่วยนั้น พร้อมประสานฝ่ายมั่นคงประเมินสถานการณ์รายวัน

เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กรุงเทพมหานคร ได้มีการอบรมเจ้าหน้าที่พร้อมซักซ้อมระเบียบขั้นตอน และข้อกฎหมายการรับสมัครรับเลือกตั้ง สส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เสมือนจริง ในพื้นที่ กทม.ซึ่งมีทั้งหมด 33 เขต ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ที่จะปฏิบัติงานในวันที่ 27 – 31 ธ.ค.68 ที่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทย-ญี่ปุ่น เขตดินแดง กรุงเทพฯ โดยมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ซึ่งด้านนอกเป็นพื้นที่ทำงานของสื่อมวลชน และพื้นที่ด้านในอาคารเป็นพื้นที่สำหรับการรับสมัคร โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการนำโต๊ะเก้าอี้มาจัดเรียงพักคอยสำหรับผู้สมัครที่มาก่อนเวลา 08.30 น.ตามผังที่กำหนดไว้ ซึ่งผู้สมัครที่มาก่อนเวลาดังกล่าวจะถือว่ามาพร้อมกัน

พร้อมได้ย้ำเตือนเจ้าหน้าที่ในการเข้มงวดเรื่องการตรวจสอบสิทธิ์ในการสมัคร หลังทราบว่า มีรองหัวหน้าพรรคหนึ่ง ไม่ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อม ทำให้ขาดสิทธิ์การรับสมัครในครั้งนี้ รวมไปถึงตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ว่า เป็นสมาชิกพรรคการเมืองครบ 30 วันจนถึงวันเลือกตั้งหรือไม่ ตลอดจนคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่กฎหมายกำหนด

สำหรับหัวหน้าพรรคการเมือง, กรรมการบริหารพรรค และแกนนำพรรค รวมถึงบรรดากองเชียร์ จะไม่อนุญาตให้เข้ามาภายในพื้นที่ด้านล่างของอาคาร จะอนุญาตให้อยู่บนอัศจรรย์ด้านบนเท่านั้น หรืออยู่ถายนอกอาคารเท่านั้น และกำชับเรื่องการงดส่งเสียง หรือการรบกวนผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส่วนผู้สมัครจะอนุญาตให้มีผู้ติดตามเข้ามาในพื้นที่ได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น

ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ แสงคำเลิศ ผอ.กกต.กรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้สำนักงาน กกต.กทม.มีความพร้อมทั้งในส่วนของอาคารสถานที่ วัสดุอุปกรณ์ และบุคลากร และได้ประชุมซักซ้อมขั้นตอนอย่างละเอียด และได้เห็นวัสดุ อุปกรณ์ของจริง และมีการซักซ้อมหน้างาน หรือซักซ้อมเสมือนจริง เพื่อให้การเลือกตั้ง หรือการรับสมัครเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถือว่าวันนี้มีความพร้อม 80 – 90% ที่เหลือขึ้นอยู่กับวันรับสมัคร 27 ธ.ค.นี้ โดยในการนัดหมายเจ้าหน้าที่ผู้ดำเนินการรับสมัครตั้งแต่เวลา 05.00 น.เพื่อให้เกิดความพร้อมที่จะรับสมัครรับเลือกตั้งในเวลา 08.30 น.เป็นต้นไป ย้ำว่า ในช่วงของการจับหมายเลขนั้นจะไม่มีการถ่ายทอดสด แต่อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพได้ตามความเหมาะสม

“ผู้สมัครเมื่อได้เบอร์แล้ว ได้ย้ำเตือนว่า ห้ามจัดให้มีมหรสพ หรือการรื่นเริงโดยเด็ดขาด สามารถขึ้นแห่ได้ แต่ไม่ให้มีมหรสพดนตรี หรือกลองยาว” ว่าที่ร้อยตรี สัมพันธ์ กล่าว และว่า ตนเองได้กำชับไปแล้วว่าให้ค่อยทำไปทีละขั้นตอน ไม่ต้องรีบ ทุกขั้นตอนให้มีการบันทึกตามแบบ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนวุ่นวาย

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่อง แนวทางดำเนินการการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งที่มีสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา สาระสำคัญกำหนดให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเขตเลือกตั้งและผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งในจังหวัดจันทบุรี ตราด บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว สุรินทร์ และอุบลราชธานี ที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ความไม่สงบในบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง โดย

1.การปิดประกาศ หรือระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อได้ปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวกในการตรวจสอบแล้ว ให้ดำเนินการประกาศ ในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใดที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถเข้าถึงได้โดยสะดวกด้วย หากไม่สามารถปิดประกาศ ณ ที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง หรือสถานที่ที่ประชาชนสะดวก ในการตรวจสอบได้ ให้ถือว่าการประกาศในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือระบบหรือวิธีการอื่นใด เป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

2.กรณีจัดส่งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในทะเบียนบ้านพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ไปยังเจ้าบ้านในเบื้องต้น ให้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หากไม่สามารถจัดส่งได้ ให้รายงานให้กกต.ทราบและให้เก็บรักษาเอกสารดังกล่าวไว้ในที่ปลอดภัยจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุดลง แล้วจึงจัดส่ง เอกสารดังกล่าวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

3.จัดให้มีเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในศูนย์อพยพลงทะเบียน ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง ภายในระยะเวลา ตามประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง กำหนดวัน และเวลายื่นคำขอลงทะเบียนใช้สิทธิออกเสียง ลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง โดยขอความร่วมมือให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนน ก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้งที่มีความปลอดภัยและอยู่ใกล้เคียงกับเขตเลือกตั้ง ที่เกิดสถานการณ์ความไม่สงบ และในวันออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้งให้ประสานหน่วยงานของรัฐ จัดพาหนะรับส่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ณ ที่เลือกตั้งกลาง นอกเขตเลือกตั้งดังกล่าวด้วย

4.การจัดหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้งที่อยู่ในเขตเลือกตั้ง หากยังมีสถานการณ์ความไม่สงบ ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งพิจารณาเปลี่ยนแปลงเขตของหน่วยเลือกตั้งและที่เลือกตั้ง ที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งสามารถเดินทางได้สะดวกและปลอดภัย โดยหน่วยเลือกตั้ง และที่เลือกตั้งดังกล่าวต้องอยู่ในเขตเลือกตั้ง ตามมาตรา 30 วรรคสาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561และที่แก้ไขเพิ่มเติม

5.ภายใน 7วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ให้ประสานนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น จัดให้มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้ความช่วยเหลือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในศูนย์อพยพที่ไม่ได้ ไปใช้สิทธิเลือกตั้งลงทะเบียนแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย

สำนักงาน กกต. สรุปยอดจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิออกเสียงคะแนนก่อนวันเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้งและนอกราชอาณาจักร รวม 6 วันของการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ระหว่างวันที่ 20-25 ธันวาคม 2568 รวมจำนวน 526,639 คน พบว่ามีผู้ขอลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในเขตเลือกตั้ง จำนวน 1,226 คน /มีผู้ขอใช้สิทธิ เลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตจำนวน 482,460 คน และมีผู้ขอลงคะแนนออกเสียงนอกราชอาณาจักรจำนวน 42,953 คน

สำหรับการเปิดให้ประชาชนที่มีกิจธุระจำเป็นไม่สามารถไปออกเสียงเลือกตั้งในวันที่ 8 กุมภาพันธ์หรือประชาชนที่อยู่นอกราชอาณาจักร รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ไปปฏิบัติการในวันเลือกตั้งสามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2568 – 5 มกราคม 2569 สำหรับประชาชนที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว เปลี่ยนใจหรือไม่สะดวกจะไปใช้สิทธิในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2569 เนื่องจากไม่สามารถออกเสียงประชามติล่วงหน้าได้ สามารถยกเลิกการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าได้เพื่อจะได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งพร้อมกับการออกเสียงประชามติ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569

นายณรงค์ กลั่นวารินทร์ ประธานกรรมการการเลือกตั้ง พร้อมนายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ นายณรงค์ รักร้อย และนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ กรรมการการเลือกตั้ง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการประจำศูนย์อำนวยการและประสานงานการเลือกตั้ง สส. และการออกเสียงประชามติซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานสนับสนุนต่างๆเข้าร่วมประชุม นายณรงค์ ประธานกกต.กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ได้ทุ่มเทและให้การสนับสนุนในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการออกเสียงประชามติครั้งนี้ พร้อมระบุว่าการจัดการเลือกตั้งสส.และการออกเสียงประชามติเป็นภารกิจสำคัญของประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกเสียงประชามติวันเดียวกับวันเลือกตั้งส.สซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 69 ถือเป็นครั้งแรกของประวัติศาสตร์ประเทศไทย กกต.และพนักงานกกต.ไม่สามารถจัดทำประชามติและเลือกตั้งออกมาให้สมบูรณ์แบบได้ จะต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วน ตนมั่นใจว่าด้วยความทุ่มเทการทำงานและการสนับ สนุนอย่างเข้มแข็งของทุกคนจะทำให้การเลือกตั้งสส.และการออกเสียงประชามติเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม และชอบด้วยกฎหมาย

“ความสำเร็จของการจัดการเลือกตั้งและการประชามติที่จะมีขึ้นไม่ใช่ความสำเร็จของสำนักงานกกต.เพียงลำพังแต่เป็นความสำเร็จจากความเสียสละและความตั้งใจ ทุ่มเท ร่วมกันของทุกคนและถือเป็นความสำเร็จของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ขอให้พลังความร่วมมือครั้งนี้เป็นแรงขับเคลื่อนให้ประชาธิปไตยของประเทศไทยมั่นคงและเป็นที่เชื่อมั่นของประชาชนสืบไป”

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) กล่าวถึงการออกแนวทางการจัดการการเลือกตั้งในจังหวัดที่ติดอยู่กับชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบว่าได้มีการประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาไปแล้ว เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์ชายแดนยังไม่เรียบร้อย เราจึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ.2569ให้ได้ เพื่อจัดการเลือกตั้งในวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักร ถึงแม้เราจะเตรียมความพร้อมในส่วนของเจ้าหน้าที่กกต.และเครือข่ายไปแล้ว ก็ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และพรรคการเมืองด้วยว่าหากเกิดสถานการณ์เช่นนี้เราจะเดินไปด้วยกันอย่างไรเพื่อให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ทั้งนี้ เราก็ต้องออกระเบียบให้เป็นไปตามเงื่อนไขกฎหมายที่กำหนดไว้ทั้งการติดป้ายประกาศหาเสียง การทำหนังสือแจ้งเจ้าบ้าน ซึ่งจะต้องทำให้ครบในส่วนของรูปแบบการเลือกตั้งกฎหมายได้ให้หลายวิธีการ เช่น พื้นที่สีขาวเป็นพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะระหว่างชายแดนไทย – กัมพูชา ก็เลือกตั้งไปตามปกติ พื้นที่สีเหลืองเป็นพื้นที่ที่มีผู้อพยพแต่มีจำนวนไม่มาก ก็อาจจะตั้งหน่วยเลือกตั้งใหม่นอกหน่วยเลือกตั้งเดิม แต่อยู่ในเขตเลือกตั้งนั้นเพื่อประชาชนเดินทางสะดวก และสุดท้ายพื้นที่สีแดงถ้าเลือกตั้งไม่ได้จริงๆก็จะใช้ตามมาตรา 102 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสส.เลื่อนการเลือกตั้งเฉพาะหน่วยเลือกตั้งนั้นออกไปก่อน เหมือนกรณีเกิดพายุ อุทกภัย ถ้าทำแบบนี้ก็จะทำให้การเลือกตั้งเป็นวันเดียวกันทั่วราชอาณาจักรและไม่กระทบใคร แต่ถ้าประชาชนอยู่นอกพื้นที่มากกว่า 75% ก็อาจจะต้องรณรงค์ให้ประชาชนลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า แล้วออกมาใช้สิทธิในวันนั้น ซึ่งทั้งหมดเราทำตามกฎหมาย และกฎหมายให้ช่องทางให้หมดแล้ว เพียงแต่ว่าเราจะเลือกรูปแบบไหนขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในวันนั้น

“ทำทุกอย่างให้เป็นปกติตามที่กฎหมายได้ให้อำนาจ ซึ่งเราก็ทำให้เป็นหน่วยปกติไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร เราก็ไม่อยากอธิบายว่าทำไมเราต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะบางครั้งคนอาจจะไม่เข้าใจ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าถ้าผู้มีสิทธิเลือกตั้งอยู่ในหน่วยเกิน 75% เราก็จะเลือกตั้งตามปกติ ซึ่งหน่วยจำนวนไม่มาก เราจะต้องดูจากวันที่ 11 ม.ค.2569 ที่จะมีการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)และสมาชิกอบต.ก่อน เนื่องจากมีกว่า 51 อบต.ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ปะทะชายแดน ซึ่งเราจะขอประเมินสถานการณ์ก่อน ส่วนจะมีการจัดรถรับส่งให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิที่หน่วยเลือกตั้งนั้น เรื่องนี้เป็นการอำนวยความสะดวกโดยใช้รถของสำนักงานกกต.เอง”

เมื่อถามว่ามีการทำแผนรับมือในพื้นที่ที่ยังมีเหตุไทย-กัมพูชาปะทะกันอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ตนคุยกับ ผอ.กกต.จังหวัด โดย ผอ.กกต.จังหวัด ได้คุยกับฝ่ายมั่นคงในจังหวัด ซึ่งก็มีการประเมินอยู่ทุกวัน โดยฝ่ายความมั่นคงก็ให้ความสนใจในกระบวนการเลือกตั้งอยากให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถ้าเราจะเลื่อนวันลงคะแนนเราก็ทำได้เลย ถ้าเกิดเหตุเหมือนกับการเลือกตั้งซ่อม สส.ที่ศรีสะเกษ

ส่วนถ้าสถานการณ์การสู้รบยังเป็นแบบนี้อยู่ เราจะยังไม่ต้องมีการเลื่อนเลือกตั้งจากวันที่ 8 ก.พ.2569 ออกไปใช่หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า เรายืนยันว่าเป็นวันที่ 8 ก.พ.2569 อยู่แล้ว แต่ถ้าเลื่อนเหมือนตอนที่เจอพายุหรือเหตุจำเป็นแบบนั้นสามารถเลื่อนในวันเลือกตั้งได้เลย หรือถ้ามีเหตุปะทะกันในพื้นที่ไหนหน่วยไหน ถ้าเลือกไม่ได้ก็จะเลื่อนหน่วยนั้น

เมื่อถามอีกว่าคนที่ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว แต่จะต้องออกเสียงประชามติในวันที่ 8 ก.พ. 2569 เขาสามารถยกเลิกได้หรือไม่ เนื่องจากเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนให้ออกมาใช้สิทธิ 2 วัน นายแสวง กล่าวว่า มีระเบียบให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการลงทะเบียนได้ โดยให้ทำก่อนภายใน 30 วัน คือในช่วงที่มีการเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.2568 – 5 ม.ค.2569

Leave a comment