
เริ่มแล้ว หลายพรรคเคลื่อนไหว เมื่อรู้ผลเบอร์ตัวเลขของพรรค
วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 12.12 น.
หลังจากการจับสลากหมายเลขพรรคดำเนินมาในช่วงเช้าของวัน (28 ธ.ค. 2568) ณ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดเป็นสถานที่รับสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และให้พรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่จะแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 28 – 30 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.30 น. และวันที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 08.30 – 16.00 น.
คนดังจากหลายพรรคการเมืองก็เริ่มเคลื่อนไหวทันทีเมื่อรู้ว่าพรรคของตัวเองได้หมายเลขอะไร กลายเป็นสีสันทางการเมืองที่นักข่าวหลายสำนักต่างก็รุมสัมภาษณ์สอบถามผลการจับหมายเลขที่เกิดขึ้น
’ยศชนัน‘ ชูเบอร์ 9 ก้าวไปข้างหน้ากับพรรคเพื่อไทย ‘สุริยะ’กราบขอปชช.เลือกพท. ตั้งเป้า 200ที่นั่ง
.jpg)
วันที่ 28 ธ.ค.68 เวลา 11.15 น. ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ เซ็นทาราศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวภายหลังจับเบอร์เสร็จ ว่า เบอร์ 9 เป็นเบอร์พรรค ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่เราจะพาพรรคของเรา ร่วมกับพี่น้องประชาชน ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน ความขัดแย้งต่าง ๆ เราก็ต้องก้าวผ่านไปให้ได้ ปีหน้าฟ้าใหม่ เราสามารถมารวมตัวกัน และทำเพื่อพี่น้องประชาชนได้ นโยบายพร้อม คนพร้อม เบอร์พร้อมครับ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันกับพรรคเพื่อไทย เลือกทั้งพรรค เลือกทั้งคน
ผู้สื่อข่าวถาม ได้เบอร์เดียวกับที่คุณทักษิณเคยได้ รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ตอบว่าได้เบอร์เดียวกับครั้งก่อนที่เคยได้เบอร์ 9 อยู่ครั้งหนึ่ง ถ้าจำไม่ผิด ซึ่งก็เป็นเลขมงคลอยู่แล้ว เบอร์ 9 เป็นการนำประเทศให้ก้าวหน้า เราพร้อมที่จะก้าวเดินไปด้วยกัน พร้อมกับพี่น้องประชาชน นี่ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ส่วนเบอร์ 9 จะทำท่าอะไรนั้น นายจุลพันธ์ ขอไปคิดก่อน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม มองว่าการได้เลขนี้ เป็นจังหวะที่ดีสำหรับพรรคเพื่อไทย ในการเดินไปสู่ชัยชนะ ฝากถึงประชาชน ขอให้ไม่ต้องเป็นห่วง พรรคเพื่อไทยจะดูแลพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เรื่องนโยบายต่าง ๆ เรามุ่งเน้นมาโดยตลอด ทั้งบุคลากรและผู้สมัคร สส. เขต ที่ลงพื้นที่ไปเมื่อวาน ก็มีความพร้อมมาก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ตั้งเป้าไว้ที่ 200 ที่นั่ง เพราะฉะนั้นขอกราบพี่น้องประชาชน ช่วยเลือกพรรคเพื่อไทย เพื่อสร้างประเทศชาติ เหมือนที่พรรคเพื่อไทยเคยทำมาตลอดในอดีต พรรคเพื่อไทยทำได้ครับ ขอฝากผู้สมัคร สส. เขต ของพรรคเพื่อไทยทั่วประเทศ และกากบาทพรรคเพื่อไทย เบอร์ 9 เราจะยกเครื่องประเทศไทยไปพร้อมกัน
จากนั้น 3 แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียงทันที โเยขึ้นรถแห่ออกจากเซ็นทารา ไปพบปะมวลชนที่สวนหย่อมเคหะทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ และ แฟลตเคหะทุ่งสองห้อง เขตดอนเมือง
++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++
“พีระพันธุ์” ถูกใจเบอร์ 6 หลังได้หยิบเป็นคนสุดท้าย ไม่กลัวคนสับสนกับเบอร์ 9

เมื่อเวลา 11.35 น. วันที่ 28 ธ.ค. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เปิดเผยภายหลังจับได้เบอร์ 6 ว่า ถูกใจหรือไม่ถูกใจก็ต้องถูกใจ แต่ประหลาดใจตรงที่ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เลือกพรรค รทสช.เป็นพรรคสุดท้ายโดยไม่ต้องจับเบอร์ เหลือเบอร์เดียว ตรงกับ 6 นโยบาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลว่า คนจะสับสนเลข 6 เป็น 9 หรือไม่ นายพีระพันธุ์ ขำก่อนจะตอบว่า คนไทยฉลาด ไม่สับสน ไม่กลัว
++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++
“ธรรมนัส” แฮปปี้ได้เบอร์ 42 ชี้เลขยิ่งมากยิ่งดี คนจำที่ตัวคนไม่ใช่เบอร์ ประกาศเดินหน้าตั้งเวทีใหญ่ 17 จังหวัด ไม่หวั่นถูกเมินร่วมรัฐบาล ย้ำทำการเมืองสร้างสรรค์ไม่ทะเลาะใคร
.jpg)
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.68 เวลา 11.20น. ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดเผยภายหลังการจับหมายเลขพรรค ซึ่งได้รับหมายเลข 42 ว่า ส่วนตัวชอบหมายเลขนี้ ไม่กลัวคนจำยาก เพราะคนจำธรรมนัส ไม่ได้รู้สึกเครียด ไม่ว่าจะได้หมายเลขอะไรก็ถือว่าเป็นเลขมงคล เมื่อตอนสมัครสส.ครั้งแรก ตนก็ได้หมายเลข 15 สมัยที่ 2 ได้ 6 และวันนี้ก็ได้เบอร์ 42 พร้อมพูดติดตลกว่า มันน่าจะได้เยอะขึ้น ซึ่งพรรคใหญ่ๆได้หมายเลข 2 หลักกันทั้งนั้น ส่วนท่าที่จะใช้ชูหมายเลขพรรคก็ง่ายมาก โดยร.อ.ธรรมนัส ได้ชูนิ้วข้างขวา 4 นิ้ว และนิ้วข้างซ้าย 2 นิ้ว ปิดหน้าตัวเอง และค่อยๆเลื่อนมือออก พร้อมย้ำว่าได้เบอร์อะไรก็แฮปปี้ เบอร์ยิ่งมากยิ่งดี
เมื่อถามว่า การได้เบอร์ 2 หลักจะทำให้คนจำเบอร์ยากขึ้นหรือไม่ ?
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนจำนฤมล ปวีณา ธรรมนัส ไม่ว่าประชาชนวัยไหน ก็รู้จักตนเองพรรคเราไม่ได้คำนึงว่าเป็นพรรคใหญ่พรรคเล็ก แต่สำหรับพรรคเรามีตัวตนอยู่แล้ว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส่วนการหาเสียงหลังจากนี้ก็จะมีการจัดเวทีใหญ่ใน 17 จังหวัด โดยอยู่ระหว่างการปรึกษาหารือว่าจะจัดเวทีแรกที่จังหวัดไหน
ส่วนกรณีที่หลายพรรคจะไม่จับมือร่วมรัฐบาลกับพรรคกล้าธรรม ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า จะมีกี่พรรคก็รู้ๆอยู่ ซึ่งต้องขอบคุณที่ทำให้ตน และพรรคกล้าธรรมดังขึ้น เราเลือกที่จะไม่ทะเลาะกับใคร เราก้าวข้ามความขัดแย้งอยากให้การเมืองไทยเป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ เจอหน้ากันก็สวัสดีทักทาย เวลาปราศรัยก็ว่ากันไป
++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++
“รวมไทยสร้างชาติ” คิกออฟสู้ศึกเลือกตั้ง คว้า “เบอร์ 6” ชู “6 เสาหลัก” แก้วิกฤต-พลิกโฉมประเทศไทย
.
28 ธันวาคม 2568 – พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ประเดิมความพร้อมศึกเลือกตั้งใหญ่ ‘พีระพันธุ์’ นำทีมผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อ ร่วมจับหมายเลขประจำพรรค ชูนโยบาย ‘เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ’
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายชัชวาลล์ คงอุดม เลขาธิการพรรค, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค เข้าร่วมพิธีจับสลากหมายเลขรับเลือกตั้ง สส. บัญชีรายชื่อ โดยผลปรากฏว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ “หมายเลข 6” สำหรับการหาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศ
.jpg)
นายพีระพันธุ์ เปิดเผยภายหลังการจับหมายเลขว่า หมายเลข 6 ถือเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับภารกิจหลัก 6 ด้านที่พรรคจะเข้าไปแก้ปัญหาให้ตรงจุด เพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤต นั่นคือ “พิทักษ์เอกราช พิฆาตคนชั่ว กอบกู้เศรษฐกิจฐานราก ทุบค่าพลังงาน สร้างสังคมคุณภาพ และ หนุนเกษตรทำเงิน” ซึ่งประกอบด้วย กลุ่มนโยบายด้านความมั่นคง กลุ่มนโยบายด้านพลังงาน กลุ่มนโยบายด้านเศรษฐกิจ กลุ่มนโยบายด้านสังคม รวมไปถึงกลุ่มนโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
“เบอร์ 6 คือสัญลักษณ์ของการแก้จุดตายประเทศ เราไม่ได้มาเพื่อเล่นการเมือง แต่มาเพื่อรื้อถอนโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรม โดยเฉพาะเรื่องค่าพลังงานและเศรษฐกิจฐานราก เพื่อสร้างสังคมที่มีคุณภาพและเป็นธรรมให้กับคนไทยทุกคน” นายพีระพันธุ์ กล่าว
หลังเสร็จสิ้นขั้นตอนการจับหมายเลข นายพีระพันธุ์และผู้สมัคร สส. แบบบัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมุ่งหน้าไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (วงเวียนใหญ่) เพื่อทำพิธีสักการะขอพรเสริมสิริมงคล และประกาศเจตนารมณ์ในการกอบกู้วิกฤตชาติ พร้อมถือเป็นจุดคิกออฟ (Kick-off) เริ่มต้นการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ
นายพีระพันธุ์ ได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยนโยบายที่มั่นคงและชัดเจน พร้อมย้ำเตือนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศให้ลงคะแนนกาเบอร์ 6 เพื่อส่งพรรครวมไทยสร้างชาติไปแก้วิกฤตพลิกโฉมประเทศอย่างเด็ดขาดและเป็นรูปธรรม
++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++++++++ ++++
“อนุทิน” บอกได้เบอร์ 37 เด็ดที่หนู ไม่มีปัญหา เน้นนโยบาย-ผลงาน ขณะที่กลุ่มสนับสนุนพรรคการเมืองโชว์เถื่อน ปาขวดน้ำปริศนาปลิวข้ามหัว ขณะเดินขึ้นรถ
เวลา 11.18 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ ภายหลังการจับสลากเบอร์บัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย ที่ได้เบอร์ 37 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทบ ระบุว่า ถ้าได้เลขตัวเดียวก็ดี สื่อสารง่ายแต่ก็ไม่เป็นไร เน้นที่นโยบาย

เมื่อถามพรรคใหญ่ก็ได้เบอร์ 2 หลักกันเยอะ ?
นายอนุทิน กล่าวว่า “ก็ไล่ๆ กันมา”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้เบอร์ 37 มีเลข 7 เด็ดตรงไหน ?
นายอนุทินตอบว่า “เด็ดตรงหนู”
เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะวางแผนลงพื้นที่หาเสียงอย่างไร ?
นายอนุทิน กล่าวว่า หาเสียงด้วยนโยบาย ด้วยความมั่นใจ รวมถึงผลงาน เลข 37 ถือว่าเป็นเบอร์พรรค แต่ผู้สมัครแต่ละคน ก็จะมีเลขเป็นของตัวเองแต่จากการตรวจสอบผู้สมัครพรรคภูมิใจจะได้เลขตัวเดียว ส่วนใหญ่ก็เป็นเบอร์เดียวอยู่ ดังนั้น สามารถบอกประชาชนได้ ถ้าเป็นภูมิใจไทยเน้นที่เบอร์ 37 ไม่น่ามีปัญหา

ในช่วงการหาเสียงได้มีการกำชับ ผู้สมัครอย่างไรหรือไม่ ในเรื่องกติกาต่าง ๆ ?
นายอนุทิน กล่าวว่า ได้ออกระเบียบข้อมูลปฏิบัติ ให้กับผู้สมัคร สส.ทุกคนในพรรคภูมิใจไทยแล้ว
เมื่อถามว่า ดูเหมือนปาร์ตี้ลิสต์มีคนรุ่นใหม่เข้ามาด้วย ?
นายอนุทิน กล่าวว่า เบอร์ 1 ก็ใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศ ระหว่าง ที่นายอนุทิน ออกจากอาคารสถานที่รับสมัคร มีผู้สนับสนุนพรรคภูมิใจไทยตะโกนให้กำลังใจ
นอกจากนี้ยังมีผู้สนับสนุนของพรรคการเมืองอื่น ๆ ต่างโห่ไล่ และสาดน้ำใส่คณะของนายอนุทิน ก่อนที่นายอนุทินจะรีบเดินออกไปขึ้นรถกลับไปที่ทำการพรรคภูมิใจไทย