บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงหญิงผู้ปฏิวัติภาพยนตร์ฝรั่งเศส เสียชีวิตในวัย 91 ปี

บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงหญิงผู้ปฏิวัติภาพยนตร์ฝรั่งเศส เสียชีวิตในวัย 91 ปี

29 ธ.ค. 2568 06:13 น.

บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงหญิงผู้ปฏิวัติภาพยนตร์ฝรั่งเศส เสียชีวิตในวัย 91 ปี

บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงหญิงระดับตำนาน ผู้ปฏิวัติวงการภาพยนตร์ฝรั่งเศส ก่อนจะผันตัวไปเป็นผู้อุทิศตนเพื่อสวัสดิภาพสัตว์ เสียชีวิตแล้วในวัย 91 ปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันอาทิตย์ที่ 28 ธ.ค. 2568 ว่า บริจิตต์ บาร์โดต์ นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสผู้ปฏิวัติวงการภาพยนตร์ฝรั่งเศสในยุค 1950 และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเสรีภาพทางเพศ เสียชีวิตแล้ว ขณะมีอายุ 91 ปี

มูลนิธิ บริจิตต์ บาร์โดต์ ซึ่งนักแสดงหญิงระดับตำนานรายนี้ก่อตั้ง เป็นผู้เปิดเผยข่าวร้ายในครั้งนี้ โดยทางมูลนิธิรำลึกถึงเธอในฐานะ “นักแสดงผู้มีชื่อเสียงระดับโลก” แต่ในแถลงการณ์ ไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าบาร์โดต์เสียชีวิตที่ไหนหรือเมื่อใด

ไอคอนแห่งโลกภาพยนตร์รายนี้ หรือที่คนในประเทศบ้านเกิดรู้จักกันดีในชื่อ “บีบี” (BB) มีผลงานการแสดงภาพยนตร์เกือบ 50 เรื่อง รวมถึงเรื่อง “And God Created Woman” ทว่าเธอได้ตัดสินใจอำลาวงการในปี 2516 เพื่ออุทิศชีวิตให้กับการทำงานด้านสวัสดิภาพสัตว์

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส กล่าวว่าคนทั้งชาติกำลังร่วมไว้อาลัยต่อ “ตำนานแห่งศตวรรษ” ในขณะเดียวกัน มารีน เลอ เปน นักการเมืองขวาจัดของฝรั่งเศส กล่าวว่า ฝรั่งเศสได้สูญเสีย “สตรีผู้เหนือธรรมดา ทั้งด้วยพรสวรรค์, ความกล้าหาญ, ความตรงไปตรงมา และความงามของเธอ”

อนึ่ง สามีของบาร์โดต์ที่แต่งงานกันในปี 2535 คือ แบร์นาร์ ดอร์มาล อดีตที่ปรึกษาของ ฌอง-มารี เลอ เปน อดีตนักการเมืองขวาจัดผู้ล่วงลับ ซึ่งเป็นบิดาของมารีน เลอ เปน นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบั้นปลายชีวิต ชื่อเสียงของบาร์โดต์ได้รับความเสื่อมเสีย หลังจากที่เธอมีพฤติกรรมใช้คำพูดเหยียดกลุ่มคนมีความหลากหลายทางเพศ และถูกสั่งปรับหลายครั้งในข้อหายุยงให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ

บาร์โดถูกโปรโมตอย่างหนักในฐานะสัญลักษณ์ทางเพศ
บาร์โดถูกโปรโมตอย่างหนักในฐานะสัญลักษณ์ทางเพศ

ทั้งนี้ บริจิตต์ อาน-มารี บาร์โดต์ เกิดที่กรุงปารีสในปี 2477 ในครอบครัวที่มั่งคั่งซึ่งปรารถนาจะให้เธอเป็นนักเต้นบัลเลต์ แต่ถูกค้นพบตั้งแต่วัยเยาว์หลังจากได้ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร Elle และกลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วประเทศบ้านเกิดในเวลาอันรวดเร็ว จนถูกเกลี้ยกล่อมให้เข้าสู่โลกแห่งภาพยนตร์

บาร์โดต์ได้รับบทบาทระดับตำนานมากมาย ที่โดดเด่นที่สุดคือภาพยนตร์เรื่อง “And God Created Woman” ในปี 2499 ซึ่งกำกับโดย โรเฌร์ วาดิม สามีของเธอในขณะนั้น โดยเธอรับบทเป็นสตรีที่มีความอิสระเสรีทางเพศ

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างความตกตะลึงให้กับสาธารณชนชาวอเมริกันจนถูกสั่งห้ามฉายในบางรัฐของสหรัฐฯ ในขณะที่ ซีโมน เดอ โบวัวร์ นักปรัชญาลัทธิสัจนิยมชาวฝรั่งเศส ได้ยกย่องเธอว่าเป็นไอคอนแห่ง “เสรีภาพที่สมบูรณ์แบบ”

ตลอดช่วงปลายทศวรรษ 50 และ 60 เธอได้กลายเป็นปรากฏการณ์ระดับโลกผ่านบทบาทในภาพยนตร์อย่าง The Truth ซึ่งทำให้เธอได้รับคำชื่นชมจากเหล่านักวิจารณ์ในด้านการแสดงที่มีมิติและลึกซึ้ง, Contempt ผลงานระดับมาสเตอร์พีซของ ฌ็อง-ลุก กอดาร์ และ Viva Maria! ที่เผยให้เห็นพรสวรรค์ด้านการแสดงตลกของเธอเคียงคู่กับ ฌาน มอโร

นอกเหนือจากบทบาทระดับตำนานเหล่านี้ บาร์โดต์ยังได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายในภาพยนตร์อย่าง Love on a Pillow ที่เธอรับบทเป็นตัวละครที่มีความซับซ้อนและสับสนทางอารมณ์ และ Two Weeks in September ภาพยนตร์ดราม่าโรแมนติกที่เน้นย้ำถึงความสามารถของเธอในการถ่ายทอดความอ่อนแอ

ในเรื่อง The Bear and the Doll เธอได้นำเสน่ห์ที่ขี้เล่นมาสู่บทบาทตลก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าเธอสามารถแสดงได้ทุกประเภท แม้ภาพยนตร์เหล่านี้จะได้รับความนิยมน้อยกว่าเรื่องอื่น แต่ก็ได้ตอกย้ำถึงความสามารถของเธอในการดึงดูดผู้ชมผ่านเรื่องราวที่หลากหลาย

นอกจากผลงานด้านภาพยนตร์แล้ว บาร์โดต์ยังจะเป็นที่จดจำในฐานะไอคอนแห่งโลกแฟชั่น ด้วยทรงผมสีบลอนด์ยุ่งๆ อันเป็นเอกลักษณ์ และการกรีดอายไลเนอร์ที่โฉบเฉี่ยว ซึ่งได้กลายเป็นเทรนด์ความงามไปทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากที่เธอสวมชุดเปิดไหล่ในเทศกาลหนังเมืองคานส์เมื่อปี 2496 จนกลายเป็นสไตล์ที่รู้จักในชื่อ “คอเสื้อทรงบาร์โดต์” (Bardot neckline)

บาร์โดต์ผ่านการสมรสมาทั้งหมด 4 ครั้ง และมีบุตรชายหนึ่งคนชื่อ นิโกลาส์ ซึ่งเกิดกับ ฌาก ชาร์ริเยร์ นักแสดงและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวฝรั่งเศสผู้ล่วงลับไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา นิโกลาส์ได้ฟ้องร้องมารดาของตนเองในข้อหาสร้างความเสียหายทางจิตใจ หลังจากที่เธอเขียนในหนังสืออัตชีวประวัติว่า เธอ “อยากให้กำเนิดลูกหมาตัวน้อยมากกว่า” ลูกชายของเธอเอง

บาร์โดต์ถูกทำการตลาดอย่างหนักหน่วงในภาพลักษณ์ของหญิงเจ้าสำราญ ซึ่งสร้างความอึดอัดใจให้กับเธอที่มีความทะเยอทะยานอยากจะเป็นนักแสดงที่เน้นฝีมืออย่างจริงจัง จนกระทั่งเธอได้ประกาศอำลาวงการในวัยเพียง 39 ปี ในช่วงที่ชื่อเสียงของเธอพุ่งถึงขีดสุด แล้วหันไปอุทิศชีวิตที่เหลือให้กับการดูแลสวัสดิภาพสัตว์

“ฉันมอบความสาวและความงามให้แก่ผู้ชายไปแล้ว ต่อจากนี้ฉันจะขอมอบสติปัญญาและประสบการณ์ที่มีให้แก่สัตว์โลก” บาร์โดต์เคยกล่าวเอาไว้และมันก็กลายวาทะอันโด่งดัง โดยในปี 2529 เธอก็ได้ก่อตั้งมูลนิธิ บริจิตต์ บาร์โดต์ ขึ้นมา เพื่อทำงานปกป้องทั้งสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยง

บาร์โดผ่านตัวไปเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์
บาร์โดผ่านตัวไปเป็นนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์

จากนั้นบาร์โดต์ก็หันมาบริโภคอาหารมังสวิรัติ และในปี 2556 เธอถึงขั้นเคยขู่ว่าจะขอสัญชาติรัสเซียเพื่อประท้วงแผนการที่จะฆ่าช้างที่ป่วยสองเชือกในสวนสัตว์ของฝรั่งเศส

อย่างไรก็ตาม แต่แม้จะประสบความสำเร็จในโลกภาพยนตร์และมีผลงานด้านสวัสดิภาพสัตว์มากมาย แต่บาร์โดต์ก็สร้างข้อถกเถียงมากมาย จากการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม, กลุ่มคนรักเพศเดียวกัน และกระแส #MeToo ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเธอ

นับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษที่ 90 บาร์โดต์ถูกสั่งปรับหลายครั้งในข้อหายุยงให้เกิดความเกลียดชังทางเชื้อชาติ หลังจากที่เธอแสดงความคิดเห็นผ่านทางออนไลน์และในการสัมภาษณ์เกี่ยวกับชาวมุสลิม

ในปี 2551 เธอถูกสั่งปรับเป็นเงิน 15,000 ยูโร (ราว 549,000 บาท) หลังเธอโพสต์ตัดพ้อในเว็บไซต์ของตนเองว่าชาวมุสลิมกำลัง “ทำลายประเทศของเราด้วยการยัดเยียดวิถีปฏิบัติของพวกเขา”

นอกจากนั้น บาร์โดต์ยังเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหนังสือ “A Cry in the Silence” ที่ตีพิมพ์ในปี 2546 ซึ่งเธอกล่าวหาว่า กลุ่มคนรักเพศเดียวกัน, ศิลปะสมัยใหม่, นักการเมือง และผู้อพยพ คือผู้ที่ทำลายวัฒนธรรมฝรั่งเศส

ในปี 2561 บาร์โดต์โจมตีเหล่านักแสดงหญิงที่ออกมาพูดเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศผ่านกระแส #MeToo ว่าเป็นพวก “มือถือสากปากถือศีล, น่าขำ และน่ารำคาญ”

“มีนักแสดงหญิงหลายคนที่หว่านเสน่ห์ใส่ผู้อำนวยการสร้างเพื่อให้ได้บทแสดง” บาร์โดต์กล่าวในการสัมภาษณ์กับนิตยสาร Paris Match ของฝรั่งเศส

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc

Leave a comment