ม.กรุงเทพ จัดตั้ง ‘สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลฯ’ พัฒนาด้านความมั่นคงปลอดภัย นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล กฎหมาย ไอที

ม.กรุงเทพ จัดตั้ง ‘สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลฯ’ พัฒนาด้านความมั่นคงปลอดภัย นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล กฎหมาย ไอที

ม.กรุงเทพ จัดตั้ง ‘สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลฯ’ พัฒนาด้านความมั่นคงปลอดภัย นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล กฎหมาย ไอที

วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) จัดตั้ง “สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลและความปลอดภัยไซเบอร์” (Institute of Digital Forensics and Cyber Security) ร่วมกับ P&P Law Firm และ Cyber Forensic and Investigation (CFI) ร่วมด้วยพันธมิตรเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลก ได้แก่ Magnet Forensics (USA) และ MSAB (Sweden) ในการสนับสนุนโปรแกรม AXIOM และ XRY เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทย

ผศ.ดร.อรรยา สิงห์สงบ รองอธิการบดีสายวิชาการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กล่าวถึงแรงผลักดันหลักในการจัดตั้งสถาบันแห่งนี้เกิดจากการตระหนักว่า อาชญากรรมไซเบอร์ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นภัยคุกคามที่เกิดขึ้นแล้วทุกวัน” ประเทศไทยกำลังเผชิญความเสี่ยงทางไซเบอร์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในทุกมิติ ทั้งด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสิทธิส่วนบุคคล แต่ยังขาด “กลไกกลาง” ที่บูรณาการองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยี นิติวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ และกฎหมายเข้าด้วยกันอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ Mr. Idris Rozaili, Solution Manager จาก Magnet Forensic กล่าวเพิ่มเติมในความร่วมมือครั้งนี้ว่า หัวใจสำคัญที่ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพมีความหมายอย่างยิ่ง เพราะสะท้อนให้ถึงความสำคัญของการมีผู้คนที่มีความรู้ ความสามารถ และได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสมในการต่อสู้กับอาชญากรรมในยุคดิจิทัล ทาง Magnet Forensics มุ่งมั่นที่จะให้การเข้าถึงเครื่องมือ ความสามารถ และวิธีการต่างๆ แก่นักศึกษาและนักวิจัย เพื่อให้สามารถเรียนรู้และฝึกฝนทักษะที่จำเป็น เพราะสิ่งนี้คือการลงทุนในอนาคตของความยุติธรรมและความปลอดภัยของสังคม

สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลและความปลอดภัยไซเบอร์ ไม่ได้เป็นเพียงห้องแล็บทดลอง แต่จะทำหน้าที่เป็น หน่วยขับเคลื่อนกำลังคนและความเชื่อมั่นทางดิจิทัลของประเทศ” โดยมีภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ 1.การพัฒนาองค์ความรู้ ด้าน Digital Forensics & Cybersecurity เชื่อมโยงกับกฎหมายพยานหลักฐานดิจิทัล 2.การสนับสนุนภาครัฐและเอกชน ในการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของอาชญากรรมทางไซเบอร์และความสามารถในการเข้าถึงองค์ความรู้ในการสืบสวน ตรวจสอบ วิเคราะห์ และพิสูจน์หลักฐานทางดิจิทัล 3.การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ ระหว่างมหาวิทยาลัย ภาคเอกชน พันธมิตรเทคโนโลยี และหน่วยงานความมั่นคง ตลอดจนการขยายความร่วมมือและเครือข่ายในต่างประเทศ

Mr. Graeme Pyper, Vice President Sales APAC จากบริษัท MSAB เผยว่า เป็นโอกาสสำคัญสำหรับการพัฒนาเส้นทางอาชีพในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสายงานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กฎหมาย หรือการสร้างสรรค์คุณค่าให้แก่สังคม “เทคโนโลยีที่เรามอบให้นั้นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคม” โดยผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยีชั้นนำและได้รับความรู้ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรชั้นนำต่างๆ เมื่อก้าวเข้าสู่สายอาชีพจริง

ในยุคดิจิทัล ความมั่นคงไม่ใช่เพียงเรื่องของรัฐอีกต่อไป แต่เป็น “ทักษะสำคัญของคนทำงานทุกสาขา” สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลและความปลอดภัยไซเบอร์ จะทำหน้าที่เป็นแหล่งพัฒนาทักษะ (Upskill – Reskill – New Skill) ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ได้แก่ นักศึกษาในสายไอที วิศวกรรม และนิติศาสตร์ บุคลากรภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนที่ต้องการยกระดับความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์

ผศ.ดร.อรรยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือนี้ไม่ได้มุ่งเพียงแค่การฝึกอบรมเท่านั้น แต่เป็นการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีทั้งความรู้ทางเทคนิคและความเข้าใจทางกฎหมาย เพื่อขับเคลื่อนความมั่นคงและความยุติธรรมของประเทศอย่างยั่งยืน” หลักสูตรการเรียนการสอนจะเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Magnet AXIOM และ MSAB XRY เพื่อพัฒนาบุคลากรที่มีองค์ความรู้และทักษะความเชี่ยวชาญ พร้อมใบประกาศนียบัตรที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล นอกจากนี้ยังจะมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการจริงร่วมกับพันธมิตร เพื่อสร้าง “Digital Forensic Legal & Security Talent Pool” ที่มีคุณภาพให้กับประเทศ

.ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ Partner, จากบริษัท P&P Law Firm กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลและความปลอดภัยไซเบอร์ ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนและถ่ายถอดองค์ความรู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อส่งเสริมทักษะการวิเคราะห์เชิงลึกและการจัดการพยานหลักฐานที่ซับซ้อน รวมถึงสนับสนุนให้บุคลากรได้รับการรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Professional Certification) ที่รับการยอมรับในระดับโลก

เราเชื่อมั่นว่าบุคลากรที่มีคุณภาพคือรากฐานที่สำคัญที่สุด” การผนึกกำลังครั้งนี้จะช่วยสร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานที่มีทักษะความเป็นเลิศ พร้อมรับมือกับความท้าทายของอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน อนาคตอีก 3-5 ปี สถาบันฯตั้งเป้าที่จะเป็นมากกว่า “ศูนย์อบรม” แต่จะเป็น “ศูนย์ความเชื่อมั่นดิจิทัลของประเทศ” ที่มีบทบาทสำคัญในการยกระดับความสามารถของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ forensic & cybersecurity ทั่วประเทศ

ณัฐพงษ์ ลิ้มแดงสกุล Executive Director จากบริษัท CFI ได้กล่าวไว้ว่า ในโลกยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของทุกส่วนในชีวิตของเรา ความท้าทายในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และอาชญากรรมในโลกดิจิทัลก็ได้ทวีความซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้นเป็นเงาตามตัว “พยานหลักฐานดิจิทัล” (Digital Evidence) ได้กลายเป็นกุญแจสำคัญในการคลี่คลายคดี และเป็นหัวใจหลักในการแสวงหาความจริงในกระบวนการยุติธรรม ดังนั้น ศาสตร์ด้าน นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล” (Digital Forensics) จึงไม่ได้เป็นเพียงสาขาวิชาเฉพาะทางอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นกลไกที่ขาดไม่ได้ในการสร้างความมั่นคงและความน่าเชื่อถือให้กับสังคมดิจิทัลของเราและด้วยการสนับสนุนจากผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้าน Digital Forensics อย่าง Magnet Forensics และ MSAB ยิ่งส่งเสริมให้การจัดตั้งสถาบันฯ ในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การพัฒนาหลักสูตรสำหรับ “ผู้เชี่ยวชาญ” ในด้าน Digital Forensics เท่านั้น แต่เรากำลังร่วมกันสร้างรากฐานที่มั่นคงของ “อนาคต สำหรับกระบวนการยุติธรรมทางดิจิทัลของประเทศไทย

สถาบันการพิสูจน์หลักฐานดิจิทัลและความปลอดภัยไซเบอร์จะทำหน้าที่เป็นจุดเชื่อมต่อของภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษาใน ecosystem ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมสนับสนุนระบบยุติธรรมไทยด้วยมาตรฐานสากลด้านพยานหลักฐานดิจิทัล เพื่อสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนและภาคธุรกิจในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลที่ปลอดภัยและโปร่งใส นอกจากนี้ ยังมีวิสัยทัศน์ในการเป็น Regional Hub ด้าน Digital Forensics และ Cybersecurity ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อยกระดับขีดความสามารถของภูมิภาคในการรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ไร้พรมแดน

Leave a comment