
ยศชนัน ลุยหาเสียงวัดเกาะ เปิดนโยบายใหม่ สัปดาห์แรกต้นปี
วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 09.05 น.
30 ธ.ค. 2568 เวลา 07.00 น. ที่ตลาดวัดเกาะ เขตสายไหม นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะประชาชน ตลาดวัดเกาะ เขตสายไหม ช่วยผู้สมัคร สส.กทม. นางสาวรัตติกาล แก้วเกิดมี เขต 11 เบอร์ 7 และ นายภูร์ผา ไทยแท้ เขต 12 เบอร์ 12 มีทีมบริหารพรรคร่วมลงพื้นที่ ตลอดเส้นทางเดินผ่าน ได้มีประชาชน พ่อค้าแม่ค้า แฟนคลับพรรคเพื่อไทย ขอจับมือให้กำลังใจ ถ่ายภาพ และมอบดอกไม้ พวงมาลัยดอกดาวเรือง ต้อนรับเป็นกันเองและอย่างคักคัก หลังจากเดินพบปะแล้วได้ร่วมนั่งรับประทานอาหารเช้า กาแฟ ไข่ลวก และร่วมวงพูดคุยกับประชาชนที่มาจ่ายตลาด
นายยศชนัน กล่าวว่า วันนี้มาดูบรรยากาศ หลายคนยังอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และมีหลายคนเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ก็ได้รับกำลังใจอย่างล้นหลาม ผู้สมัครแต่ละท่านก็พยายามสื่อสารแนวนโยบายที่พรรคมี และพบว่าหลายนโยบายโดนใจพี่น้องประชาชน สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้นโยบายเหล่านี้เกิดขึ้นจริงทันที หลังจากที่เราได้รับเลือกและความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในวันที่ 8 ก.พ. ส่วนพื้นที่ตรงนี้ถือว่าดีมากเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่เราได้ลงมา และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากหลาย ๆ คน ประชาชนเริ่มจำนโยบายของเราได้ ตั้งแต่นโยบายที่เคยทำมาก่อน ไปจนถึงนโยบายใหม่ ซึ่งสะท้อนว่าการสื่อสารของเราตรงถึงพี่น้องประชาชนจริง ๆ
.jpg)
นายยศชนัน ยังได้ย้ำนโยบายพรรคเพื่อไทย ที่ได้สื่อสารมาตั้งแต่ช่วงเปิดตัวทั้ง เรื่องแนวทางช่วยลดรายจ่าย เศรษฐกิจดี รายได้เพิ่ม เรื่องที่อยู่อาศัยบ้าน ปัญหาหนี้สิน และนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่สามารถทำได้ทันที รถฟีดเดอร์ 10 บาท เป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีการเปิดนโยบายใหม่ที่ใกล้เคียงกับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” รอบที่แล้วหรือไม่
.jpg)
นายจุลพันธ์ ย้ำว่าไม่ใช่นโยบายในลักษณะวอลเล็ต แต่จะเป็นเรื่องของสวัสดิการประชาชน ซึ่งเป็นนโยบายขนาดใหญ่ของพรรค และจะตอบโจทย์พี่น้องประชาชน เพื่อให้คนไทยพ้นจากความยากจน ซึ่งพรรคมีนโยบายใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงต้นปีในสัปดาห์แรกของปีใหม่
เมื่อถามประเด็นพรรคคู่แข่งที่มีปัญหาต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัคร จะส่งผลดีกับพรรคในพื้นที่กทม. บ้างหรือไม่
.jpg)
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราไม่ได้มองไปที่ประเด็นของคู่แข่ง เพราะแต่ละพรรคก็ต้องคัดสรรผู้สมัครของตนเอง พรรคเพื่อไทยเองก็พยายามคัดเลือกอย่างดีที่สุด ส่วนพรรคประชาชน หากมีข้อผิดพลาดก็เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ และต้องไปปรับแก้กันเอง
แต่ประเด็นที่น่าห่วงคือ หาก กกต. เปิดช่องให้มีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครหลังจากสมัครแล้ว เพราะในอดีตเคยมีกรณีการกดดันหรือใช้วิธีไม่เหมาะสมให้ผู้สมัครถอนตัว หากเปิดช่องนี้ อาจเกิดปัญหาใหญ่ในอนาคตได้ ดังนั้นตามหลักกฎหมายแล้ว เมื่อสมัครแล้วไม่ควรมีการถอนตัว และเมื่อมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชนในการพิจารณาว่าผู้สมัครและพรรคการเมืองใดตอบโจทย์มากที่สุด อย่างที่พูดมาโดยตลอด เราอยากให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินจากนโยบายเป็นหลัก
.jpg)
ส่วนกรณีการทำลายป้ายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยนั้น ผมไม่ขอกล่าวโทษผู้สมัครใด เพราะเชื่อว่าไม่มีใครไปสั่งการเช่นนั้น พรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์เลือกตั้งมาอย่างยาวนาน และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก มีการกำชับผู้สมัครเสมอว่าอย่าดำเนินการใด ๆ ที่เป็นการทำลายป้ายหรือทรัพย์สินของผู้อื่น ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการดำเนินการตามกฎหมาย เพราะการทำลายทรัพย์สินถือเป็นความผิดตามกฎหมาย
.jpg)
.jpg)
.jpg)
.jpg)