เจรจา3ฝ่ายชื่นมื่น จีนยืนยันไม่แทรกแซง ช่วยเขมร 20 ล้านหยวน ‘ทรัมป์’โผล่ร่วมยินดี

เจรจา3ฝ่ายชื่นมื่น  จีนยืนยันไม่แทรกแซง  ช่วยเขมร20ล้านหยวน  ‘ทรัมป์’โผล่ร่วมยินดี

เจรจา3ฝ่ายชื่นมื่น จีนยืนยันไม่แทรกแซง ช่วยเขมร20ล้านหยวน ‘ทรัมป์’โผล่ร่วมยินดี

วันอังคาร ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ ได้เข้าร่วมการประชุมสามฝ่ายกับ นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา และนายหวัง อี้ รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดของสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ภายหลังข้อตกลงหยุดยิง

นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ไทยและกัมพูชาขอบคุณจีนสำหรับบทบาทและความเข้าใจในการช่วยสนับสนุนการแก้ไขความตึงเครียดระหว่างกันเสมอมา โดยจีนย้ำว่าเคารพหลักการไม่แทรกแซง แต่ประสงค์เป็นช่องทางให้ทั้งสองประเทศได้หารือกันในการสร้างสันติภาพที่ยี่งยืน

ขณะที่ไทยย้ำว่าประสงค์จะมีการพัฒนาความสัมพันธ์ก้าวหน้าอย่างเป็นขั้นเป็นตอนภายหลังการหยุดยิง

ขณะที่ นายหวัง อี้ กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้มอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมฉุกเฉินมูลค่า 20 ล้านหยวน (ราว 88 ล้านบาท) แก่กัมพูชา เพื่อช่วยเหลือพลเรือนพลัดถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งชายแดน ความช่วยเหลือชุดแรกจากจีน ซึ่งรวมถึงอาหาร เต็นท์ และผ้าห่ม ได้มาถึงกัมพูชาแล้วเมื่อวานนี้ จีนหวังว่าสิ่งของเหล่านี้จะเป็นความช่วยเหลือที่ทันท่วงที สำหรับประชาชนชาวเขมรที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้ง เพื่อปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่และเอาชนะความยากลำบากในปัจจุบัน จีนจะใช้ทั้งเส้นทางทางเรือและเครื่องบินขนส่งทางทหาร เพื่อเร่งกระจายความช่วยเหลือไปยังศูนย์พักพิงตามแนวชายแดนโดยเร็วที่สุด

ทั้งนี้ ก่อนหน้าที่จะมีการประชุม 3 ฝ่าย นายสีหศักดิ์ ได้เข้าหารือกับนายหวังอี้ โดยเบื้องต้น ประเทศไทยได้ขอบคุณจีนในบทบาทและความเข้าใจในการสนับสนุนสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชาในแนวทางแบบเอเชีย โดยไทยเห็นว่าการปรับความสัมพันธ์ทางการทูตควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเพื่อสร้างความเชื่อใจและความเชื่อมั่นระหว่างกัน และเมื่อครบ 72 ชั่วโมง ไทยจะพิจารณาปล่อยเชลยศึก 18 คน และหวังว่ากัมพูชาจะอำนวยความสะดวกในการให้คนไทยบริเวณชายแดนได้เดินทางกลับประเทศ

วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ได้เดินทางลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ และอำนาจเจริญ และได้กล่าวถึงกรณีสถานการณ์ไทย-กัมพูชาว่า โดยทั่วไปเรียบร้อยดี และเมื่อถามถึงกรณีมีโดรนจำนวนมากบินรุกล้ำเข้ามาในหลายจังหวัดชายแดนเมื่อคืนวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น นายอนุทิน ตอบว่า ยังไม่มีรายงาน

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน เพราะประชาชนในหลายพื้นที่ไม่มั่นใจว่า 72 ชั่วโมงจะมีการหยุดยิงจริงตามที่ตกลงกันว่า เรามีการเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าไม่เฝ้าระวัง เพียงแต่ว่าต่างฝ่ายต่างหยุดยิง และระงับลดระดับความรุนแรงลงไป เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงซึ่งกันและกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีการป้องกัน หรือการเตรียมพร้อมใดๆ

ทั้งนี้ นายอนุทิน ยังกล่าวถึงการประชุม 3 ฝ่ายระหว่างไทย-กัมพูชา และจีนว่า ได้รับรายงานจากนายสีหศักดิ์แล้วว่าการพูดคุยเป็นไปด้วยดี

เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่ที่คุยกับนายหวัง อี้ เป็นเรื่องของการหยุดยิงใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันต่อในเรื่องแนวทางที่ต้องปฏิบัติต่อไป ตอนนี้เราเหลืออยู่ระดับทูตและระดับเจ้าหน้าที่ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราเหมือนแค่ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสถานทูตไว้แค่นั้นเอง แต่จะทำอย่างไรต่อไปคงต้องค่อยๆ ขยับ เรื่องการดำเนินการด้านความสัมพันธ์อย่างไร ตรงนี้ยังต้องใช้เวลา ยังมีขั้นตอนอยู่ ตอนนี้เราเน้นในเรื่องของการสร้างความมั่นใจว่าการหยุดยิง 72 ชั่วโมง มันก็จะผ่านไปทีละเฟส

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการทยอยกลับบ้านของประชาชนว่า ในส่วนที่ทางการเห็นว่าปลอดภัยเริ่มทยอยกลับแล้ว อย่างที่ จ.บุรีรัมย์ เกือบ 2 หมื่นคน เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ได้รับรายงานว่า ตอนนี้เหลืออยู่ประมาณ 2 พันกว่าคน เราต้องช่วยกันให้กำลังใจว่าขอให้สถานการณ์ทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อถามว่า ประชาชนบอกว่าอยากกลับบ้านแบบถาวร นายกฯ กล่าวว่า เราก็เน้นเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

วันเดียวกัน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ Truth Social ของตนเองเมื่อคืนวันอาทิตย์ ประกาศการหยุดยิงระหว่างไทยกับกัมพูชา พร้อมขอแสดงความยินดีกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ที่บรรลุข้อตกลงอย่างรวดเร็วและยุติธรรม

ข้อความของทรัมป์ระบุว่า เขามีความยินดีที่จะประกาศว่า การสู้รบที่ปะทุขึ้นระหว่างไทยและกัมพูชาจะยุติลงในทันที และทั้งสองประเทศจะกลับไปใช้ชีวิตอย่างสงบสุข ตามสนธิสัญญาฉบับดั้งเดิมที่เพิ่งตกลงกันไป เขาขอแสดงความยินดีกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองท่าน สำหรับความชาญฉลาดในการบรรลุข้อสรุปที่รวดเร็วและยุติธรรมมากในครั้งนี้ มันเป็นไปอย่างรวดเร็วและเด็ดขาดอย่างที่สถานการณ์แบบนี้ควรจะเป็น สหรัฐอเมริกาภูมิใจเสมอที่ได้ช่วยเหลือในฐานะตัวกลางไกล่เกลี่ย ร่วมกับมาเลเซียและจีน

Leave a comment