
ผู้สมัคร สส กทม เสรีรวมไทย ร้อง กกต. ค้าน เท่าพิภพ
วันพุธ ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 15.13 น.
วันที่ 31 ธันวาคม 2568 เวลา 11.00น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถนนแจ้งวัฒนะ นายอนันตเดช ธนวิภารัตน์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 12 เขตเลือกตั้งที่ 33 และนายธิติพัทธ์ นรวิทยโชติกุล ผู้สมัครหมายเลข 4 เขตเลือกตั้งที่ 32 พรรคเสรีรวมไทย เดินทางมายื่นคำร้องคัดค้านและขอให้เพิกถอนการรับสมัครนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ผู้สมัครรายใหม่ของพรรคประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 33 แทนนายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ผู้สมัครคนเดิม ที่ถูกจับจากคดีฟอกเงินยาเสพติด
นายอนันตเดช เปิดเผยว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อขอให้ กกต. พิจารณาเพิกถอนการรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ของพรรคประชาชน เนื่องจากผู้สมัครคนเดิมได้รับการรับสมัครและมีหมายเลขประจำตัวผู้สมัครไปแล้ว อีกทั้งผู้สมัครคนเดิมถอนตัวไม่ได้เข้าเงื่อนไขตามกฎหมาย เนื่องจากแม้จะมีหมายจับ แต่ในทางกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาถึงที่สุด ดังนั้นในช่วงเวลาที่มีการรับสมัครและได้รับหมายเลข ผู้สมัครคนเดิมยังมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย การลาออกภายหลังจึงเป็นการลาออกโดยเจตนาส่วนตัว ไม่ใช่เหตุที่กฎหมายกำหนดให้เปลี่ยนตัวผู้สมัครได้
(1).jpg)
นายอนันตเดช กล่าวย้ำว่า แม้ กกต. จะชี้แจงว่าสามารถรับสมัครผู้สมัครรายใหม่ได้ แต่ กกต. ควรพิจารณาอย่างรอบคอบอีกครั้ง เนื่องจากการเปลี่ยนตัวผู้สมัครในลักษณะนี้อาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้กับพรรคการเมืองอื่นในอนาคต และอาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย รวมถึงสร้างความสับสนให้กับประชาชน พร้อมยืนยันว่า การยื่นคัดค้านครั้งนี้ไม่ได้มุ่งหวังถึงความได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางการเมือง เนื่องจากในเขตดังกล่าวยังมีผู้สมัครจากพรรคอื่นอีกจำนวนมาก แต่ต้องการยืนหยัดในหลักกติกาและมาตรฐานการเลือกตั้งที่ถูกต้อง
ด้านนายธิติพัทธ์ กล่าวว่า ผู้สมัครคนเดิมคือ นายบุญฤทธิ์ เรารุ่งโรจน์ ยังไม่ได้ถูกตัดสินว่ามีความผิดใดๆ เนื่องจากศาลยังไม่มีคำพิพากษา แต่กลับมีการเปลี่ยนตัวให้นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร มาสมัครแทน โดยยังใช้หมายเลขเดิม ซึ่งมองว่าไม่เหมาะสมและอาจเป็นการสร้างกระแสทางการเมืองให้กับพรรคประชาชน พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การส่งอดีต สส. ลงสมัครแทนอาจเป็นความพยายามหวังคะแนนนิยมจากประชาชน นอกจากนี้ การที่ผู้สมัครรายใหม่ใช้หมายเลขเดิม ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้สมัครรายอื่น และหากเป็นผู้สมัครใหม่ก็ควรต้องจับสลากหมายเลขใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดความได้เปรียบ พร้อมย้ำว่า เขตเลือกตั้งที่ 32 และ 33 มีความเกี่ยวเนื่องกันในการทำงาน จึงเห็นว่าประเด็นดังกล่าวส่งผลต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยตรง(1).jpg)
(1).jpg)