ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/entertain/220316
หลังจากที่เคยขโมยหัวใจสาวๆ กับบทบาท “น้องเสือ” ในละครแจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา มาแล้ว ล่าสุดช่อง 7 สี ส่งหนุ่มหล่อหน้าใส “ซูกัส-บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์” มามัดใจสาวน้อยสาวใหญ่อีกครั้ง กับบท มะยม ยมทูตฝึกหัด ในละครแฟนตาซี คอเมดี้ “หอเฮ้วขนหัวลุก” และครั้งนี้เจ้าตัวจะมาอัพเดท หลังจากที่ตัดสินใจก้าวเข้าวงการเพลงที่เกาหลี งานนี้มีน้ำตาซึมแน่นอน
ครับ สวัสดีครับ ผม ซูกัส-บัณฑวิช ตระกูลพานิชย์ ตอนนี้ก็มีผลงานเรื่อง “หอเฮ้ว ขนหัวลุก” ทางช่อง 7 สี
พูดถึงคาแร็กเตอร์ในเรื่อง
เรื่องนี้ผมรับบทเป็น มะยม ยมทูตมือใหม่ มีหน้าที่คือ เก็บดวงวิญญาณคนตายที่หมดอายุขัยไปยมโลก แต่แค่งานแรกมะยมก็ทำพลาดซะแล้ว ดันไปเก็บดวงวิญญาณที่ยังไม่ถึงฆาตของ “ทอย” (อั๋น-ชยพล) ไปแทนวิญญาณของ “ปลาทอง” (พลอย-พลอยไพลิน) ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง งานนี้เลยเกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นครับ

รู้สึกจะหาย จากหน้าจอไปสักพัก
ครับ หายไปประมาณ 3 ปี กว่าๆ ก็ไปเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี เพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ครับ
เป็นมายังไง ถึงได้พลิกผันที่จะไปเป็นศิลปินที่เกาหลี
เริ่มแรกผมไปสมัครเรียนที่อคาเดมี่ที่ไทยเขามาเปิดสอนร้องเพลง สอนเต้น เกาหลี พอไปสมัครเสร็จ เขาก็วัดความสามารถ คือเจ้าของบริษัทมีเพื่อนเป็นคนเกาหลี เขาต้องการหาศิลปินเป็นคนไทย เพื่อที่จะไปเป็นศิลปินที่เกาหลี พอผมส่งวีดีโอไปเขาก็สนใจ แต่เขาต้องการดูพัฒนาการความสามารถเราก่อน ก็เลยให้ไปฝึกที่เกาหลีก่อน 2 เดือน ถ้ามีพัฒนาการ ทำได้ดี อดทนได้ เขาถึงจะเซ็นสัญญา ผมก็เลยตัดสินใจ
เรื่องภาษา?
ภาษาเกาหลีผมไม่ได้เลย ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเดียว แต่อย่างที่รู้ว่าคนเกาหลีเขาไม่ค่อยใช้ภาษาอังกฤษกันเท่าไร
เห็นว่ามีค่ายดังที่โน้นมาติดต่อให้ลองไปแคสติ้ง ?
ครับ ต้องเล่าก่อนว่าช่วงที่ผมซ้อมๆ พอซ้อมไปเกือบๆ 2 เดือน เขาก็มีตั๋วคอนเสิร์ต Big Bang มาให้ ซึ่งผมกับเพื่อนๆ ที่ซ้อมก็ไปดูด้วยกัน ด้วยความที่เราไม่รู้ภาษา เลยเข้าผิดประตู เขาก็บอกว่า “ตรงนี้ไม่ใช่ประตูเข้า เป็นประตูของศิลปิน” ความโชคดีมันอยู่ที่ว่าคนที่ผมเจอ เขาเป็นฝ่ายแคสติ้งของ YG เขาก็เลยวิ่งมาถามผมว่ามาทำอะไรที่เกาหลี ผมก็บอกว่ามาเป็นศิลปินฝึกหัดที่เกาหลี เขาเลยบอกว่าสนใจอยากเป็นนักร้องไหม ถ้าสนใจลองมาแคสดู คือใครๆ ก็รู้ว่า YG เป็นค่ายที่ใหญ่และดังในเกาหลี มีวงดังๆ ในค่ายเยอะมาก มีเด็กหลายๆ คนที่ดิ้นรนเพื่อจะได้เข้าไปอยู่ในค่ายนี้ แต่ตอนนั้นผมเกรงใจบริษัทแรกด้วยที่เขาให้โอกาสเราได้มาที่เกาหลี

แล้วตัวเราตัดสินใจยังไง
ผมก็กลับมาคุยกับบริษัทแรกว่าตกลงจะเซ็นสัญญากับผมหรือป่าว เพราะว่ามันก็ครบ 2 เดือนแล้ว เขาก็ไม่ตอบอะไร ผมก็เลยติดต่อ YG ไปว่าเรามาคุยเรื่องรายละเอียดกัน หลังจากนั้นผมก็ไปอยู่ที่เกาหลี
หลังจากตัดสินใจไปอยู่เกาหลี ชีวิตที่โน้นเป็นไงบ้าง
ก็เรียนครับ ซ้อมตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึงเที่ยงคืน เหมือนโรงเรียน ผมไปอยู่ผมกดดันมาก คือภาษาเกาหลีไม่ได้เลย ทักษะด้านต่างๆ ก็ยังอ่อนมาก เรียนภาษาเกาหลีอยู่ 2 เดือน คือเรียนอ่านกับเขียน อ่านออกเสียงให้ถูก เพื่อให้ร้องเพลงได้ แต่ความหมายไม่รู้เลย พอฝึกมาเรื่อยๆ ก็ค่อยๆ รู้ความหมายทีหลังจากการถามเพื่อน จากการดูมิวสิกบ้าง
เหมือนชีวิตจะสนุกดูแฮปปี้นะ
ไม่เลยครับ ระหว่างเดินมันมีอุปสรรคมากมาย ผมท้อมากๆ ทั้งจากการทำงาน และจากเพื่อนในวง ปัจจัยใหญ่ๆ ก็มาจากเพื่อนร่วมวงนี่แหละครับ ภาพคนส่วนใหญ่จะเห็นคนในวงเกาหลีรักกัน สนิทกัน แต่ความจริงมันไม่ใช่แบบนั้น จะมีแค่คน สองคน เท่านั้นแหละที่เราสามารถคุยได้ คนที่ไม่ชอบเราก็มีเหมือนกัน มันไม่มีเดินที่จะจับคน 6 คน ให้มารักกันได้หรอก ยิ่งคนเยอะยิ่งเรื่องเยอะ เขากดดันเรามาก เกาหลีเป็นชาตินิยมครับ เราเป็นชาวต่างชาติ ถ้าเราไม่เข้มแข็งเราก็จะถูกเขากดขี่ แต่เราได้ตัดสินใจมาแล้ว ผมก็ต้องอดทน และสู้กับมันจริงๆ

เห็นว่าเครียดจนล้มป่วยเลยหรอ
คือมันกดดันมากๆ และเป็นช่วงที่ผมป่วย ผมเต้นจนปอดแตกหายใจไม่ออก ต้องไปผ่าตัด นอนที่โรงพยาบาล ไม่มีใครเฝ้า ติดต่อที่บ้านไม่ได้ แล้วแม่ผมเพิ่งมารู้ตอนที่ผมผ่าตัดเสร็จ
ผมพักอยู่โรงพยาบาลได้หนึ่งอาทิตย์ก็ออกมาแต่แผลยังไม่หาย แต่เขาก็ไม่ให้ผมนอนพักอยู่บ้านนะ เขาก็ให้ผมไปนั่งดูเพื่อนซ้อม มันเป็นความกดดันที่สะสมมาเรื่อยๆ ยิ่งช่วงที่ป่วยเป็นช่วงที่อ่อนแอที่สุด แต่ผมก็ผ่านมันมาได้
เห็นอะไรจากการที่ไปใช้ชีวิตเป็นศิลปินฝึกหัดที่โน้น
คือคนที่เป็นศิลปินที่เกาหลี ต้องทุ่มเทให้กับวง และทิ้งทุกอย่าง ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือโตแล้วก็ตาม ต้องทิ้งการเรียนทิ้งครอบครัว เพื่อทุ่มเทให้กับงานได้เต็มที่
ปัญหาหลักๆ ที่ทำให้ไม่เดินหน้าซะที ?
ขอเล่าก่อนว่าระหว่างซ้อมมันก็มีปัญหาคนในวงหนีออกเรื่อยๆ ต้องหาคนใหม่มาแทน แล้วก็ทุกเดือนเขาจะมีการทดสอบ ถ้าทดสอบไม่ผ่านก็คัดออก ทำให้มีการเปลี่ยนคนเข้า-ออกอยู่เรื่อยๆ แล้วกว่าจะเต้นให้พร้อม กว่าจะแบ่งท่อนร้องกันใหม่ แผนที่จะออกเพลงก็เลื่อนออกไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายคนที่ดูแลโปรเจกท์นี้ไปเสนอสปอนเซอร์ไม่ผ่าน แล้วเขาพิจารณาตัวเองออก ก็เท่ากับว่าต้องหาคนที่จะมาดูแลโปรเจกท์ใหม่อีก ทุกคนในวงทั้ง 6 คน ก็เลยตัดสินใจออกพร้อมกันหมด กลับกันหมดเลยครับ

พอออกมาจากตรงนั้นแล้ว ?
ตอนแรกผมมองกลับไปผมรู้สึกเสียเวลามาก แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมขอบคุณมากๆ ถ้าแลกกับสิ่งที่ได้มาคือ “วินัย” ตอนผมไปอยู่แรกๆ ผมขาดวินัยเลย คือนิสัยคนไทยอยากจะสายนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ที่นั่นเขาไม่ได้ เขาคิดว่าเวลาทุกวินาทีเป็นเงินเป็นทอง และอีกอย่างที่ผมได้กลับมาคือภาษาเกาหลี ฟัง พูด อ่าน เขียน ได้
พอมาถึงตอนนี้ยังอย่างจะเป็นศิลปินที่โน้นอยู่ไหม
ตอนนี้ผมว่าไม่แล้วครับ แต่ถ้ามีโอกาสด้านการแสดงก็อยากทำ เพราะการแสดงมันเป็นอะไรที่ผมเริ่มมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสามารถใช้ประสบการณ์ที่ผมมีอยู่ได้
ถือว่ากลับมาบ้าน สิ่งที่ได้เจอขอให้เป็นประสบการณ์ดีๆละกันเนาะ
ครับ ขอบคุณประสบการณ์ที่แสนทรหดในครั้งนี้ ผมรู้สึกแกร่งที่สู้มากๆ
ฝากผลงาน
ฝากติดตามและเป็นกำลังใจให้ผมใน “หอเฮ้ว ขนหัวลุก” ออกอากาศ ทุกวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 09.00-09.45 น. ทางช่อง 7 สี และ ช่อง 35 ในระบบ HD และ ผลงานอื่นๆ ที่จะตามมาให้ได้ชมกันนะครับ ติดตามผมได้ที่ IG : @sugus0811 ครับ
