ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/222466
Pietà
ใน Accademia Gallery มิลาน ไม่เพียงมีผลงาน David ซึ่งถือเป็น Masterpiece ที่สุดชิ้นหนึ่งของ Michelangelo แล้ว ที่นี่ยังมีผลงานสำคัญของศิลปินผู้นี้อีกเป็นจำนวนมาก Michelangelo di Lovdovico Buonarroti Simoni นักประติมากรสถาปนิก วิศวกร คีตกวี และศิลปินยุค High Renaissance นี้มีผลงานมากมายที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามน่าอัศจรรย์ ผลงานด้านประติมากรรมที่สำคัญที่สุดในโลกของเขาสองชิ้นไม่ว่าจะเป็น Pietà ที่อยู่ในมหาวิหาร St.Peter หรือ David ที่จัดแสดง ณ Accademia แห่งนี้ถูกปั้นขึ้นตั้งแต่เขาอายุยังไม่ครบ 30 ปี
นอกจากผลงานอันโดดเด่นสองชิ้นนี้แล้ว เขายังเป็นผู้วาด Fresco ที่สำคัญที่สุดของโลกด้วย นั่นคือ Genesis ใน Sistine Chapel ของมหาวิหาร St.Peter และยังเป็นผู้ออกแบบมหาวิหาร St.Peter เองในช่วงปลายของชีวิต การที่เขาสามารถสร้างชื่อเสียงได้ตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้เขาไม่เพียงเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในยุคสมัยของตัวเองแล้ว เขายังได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาลด้วย

Awakening Slave
เนื่องจาก Accademia Gallery เป็นเจ้าของผลงานของเขาหลายชนิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานด้านประติมากรรม ห้องภาพจึงจัดแสดงส่วนของ Michelangelo ให้ไว้แยกต่างหากโดยให้ชื่อว่า Gallery of the Slaves ดั้งเดิมนั้นผลงาน Slave ทั้งสี่ชิ้น ศิลปินถูกจ้างให้ปั้นเพื่อไว้ประดับหลุมฝังศพของ Pope Julius II ที่มหาวิหาร St.Peter แต่ภายหลังหลุมฝังศพถูกลดขนาดลงมาก ผลงานที่ยังไม่เสร็จทั้งสี่ชิ้นจึงถูกบริจาคไปให้กับ Grand Duke Cosimo I de’ Medici และถูกส่งต่อมายังห้องภาพแห่งนี้ในปี 1909

The Bearded Slave
The Young Slave งานประติมากรรมผู้ชายที่งอเข่าเล็กน้อย มีแขนซ้ายพาดปิดส่วนใหญ่ของใบหน้า และแขนทิ้งลงข้างสะโพกนี้ นักวิจารณ์ศิลป์เชื่อว่า ศิลปินเริ่มแกะงานจากด้านหลัง แม้แต่ละส่วนทำเสร็จไม่เท่ากัน ลำตัวข้างซ้ายเสร็จมากกว่าข้างขวา เป็นไปได้ว่าศิลปินต้องการให้ผู้ชมตีความงานได้อย่างหลากหลาย เขาจึงสร้างสรรค์งานแบบที่ผู้ชมยากจะคาดเดา เช่น เหตุใดทาสต้องยืนบนแท่นหินที่แคบเช่นนี้ เป็นไปได้ว่า ศิลปินต้องการสื่อถึงความบีบคั้นจากการเป็นทาส หน้าตาของทาสดูอ่อนเยาว์กว่าเนื้อตัวเป็นไปได้ว่าศิลปินต้องการสื่อว่าการเป็นทาสทำให้ร่างกายทรุดโทรมเกินปกติ อย่างไรก็ดีการที่งานชิ้นนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ทำให้ผู้ชมยากจะคาดเดาว่าแท้ที่จริงแล้วศิลปินต้องการสร้างสรรค์ผลงานไปทางใดกันแน่

The Young Slave
The Bearded Slave ผลงานชิ้นนี้ถือเป็นผลงานที่สมบูรณ์ที่สุดในผลงานชุด Slave ทั้งหมดของศิลปินสังเกตได้จากหนวดเครา กล้ามเนื้อบนร่างกาย แขนขาที่ดูค่อนข้างสมบูรณ์ถูกต้องตามหลักกายวิภาค รวมทั้งเริ่มมีส่วนของเสื้อผ้าให้เห็นแล้ว
Atlas การที่ผลงานชิ้นนี้ได้รับการขนานนามว่า Atlas ก็เพราะทาสคนนี้กำลังอยู่ในท่าทางแบกของหนักราวกับแบกโลกไว้บนหัว ทั้งๆ ที่ของหนักที่ว่านั้นคือศีรษะของเขาเอง แต่นักวิจารณ์ศิลป์อีกกลุ่มกลับคิดว่า งานประติมากรรมชิ้นนี้เป็นตัวแทนของ Titan ซึ่งเป็นผู้แบกโลกไว้บนบ่าต่างหาก

Atlas
งานชิ้นสุดท้าย Awakening Slave เป็นอีกผลงานยอดเยี่ยมของศิลปิน ผู้ที่ได้มีโอกาสชื่นชมผลงานนี้ของจริงใน Accademia จะรู้สึกได้เลยว่า ผลงานชิ้นนี้สะท้อนปรัชญาในการทำงานของ Michelangelo ที่ว่า เขามีหน้าที่เอาตัวตนของสิ่งที่เขาแกะซึ่งกำลังทุรนทุรายอยู่ออกจากหินอ่อนออกมาให้ได้เลยทีเดียว (ภาพจากหนังสือ Accademia Gallery : The Official Guide all of the works)

Atlas detail