แหวกฟ้าหาฝัน : Palazzo Barberini กรุงโรม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/lady/244359

วันอาทิตย์ ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559, 06.00 น.

นักท่องเที่ยวที่มาเยือนกรุงโรมหลายครั้ง และไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวหลักมาจนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นกรุงวาติกัน วาติกันมิวเซียม มหาวิหาร St. Peter น้ำพุเทรวี่ บันไดสเปน คอลอสเซียมแล้ว คงต้องเริ่มคิดว่าต้องไปไหนอีก สถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Palazzo Barberini ที่นี่ไม่เพียงเป็นพระราชวัง ยังเป็น National Gallery of Ancient Art ด้วย พระราชวังที่ตั้งอยู่ที่จัตุรัส Piazza Barberini ซึ่งเป็นทางลาดนี้เคยเป็นของตระกูล Sforza มาตั้งแต่ปี 1549 ต่อมา Maffeo Barberini  ซึ่งต่อมาคือพระสันตะปาปา Urban VIII ได้ซื้อพื้นที่นี้จาก Cardinal Alessandro Sforza เพื่อมาทำพระราชวัง

Crucifix

การที่ตระกูล Barberini ไม่เคยมีอำนาจในโรมมาก่อน แต่ได้มีโอกาสเป็นสันตะปาปา ทำให้สันตะปาปา Urban VIII ต้องการให้พระราชวังแห่งนี้เป็นสถานที่แสดงพระราชอำนาจและความร่ำรวยหรูหราของพระองค์ แม้ที่นี่จะเคยเป็นพระราชวังเก่าของตระกูล Sforza แต่เนื่องจากการสิ้นอำนาจและเงินหมด ทำให้พระราชวังแห่งนี้ไม่ได้รับการตกแต่งอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ดี พระองค์ยังเก็บงานสถาปัตยกรรมเดิมไว้ ส่วนใหม่ได้รับการออกแบบจากสถาปนิกชั้นนำแห่งยุคหลายคนเช่น Carlo Maderno ออกแบบตามแนวทางสถาปัตยกรรมแบบเรอเนสซองส์โดยยังคงให้มีสวนอยู่ตรงกลาง  เมื่อ GianLorenzo Bernini มารับงานต่อ เขาก็พยายามที่จะก่อสร้างตามแบบเดิมเพียงแต่ขยายเพิ่มเป็นสองชั้น และเพิ่มห้อง oval ขึ้นเพื่อให้กลืนกับสถาปัตยกรรมเดิมๆ ด้วย  นอกจากนี้เขายังออกแบบส่วนของบันไดให้ดูหรูหราเพื่อส่งเสริมกลยุทธ์ของท่าน Urban VIII ด้วย  ส่วนบันไดอันหลังถูกออกแบบโดย Borromini ให้เป็นบันไดวนที่มีความทันสมัยกว่าโดยได้รับแรงบันดาลใจจาก Palazzo Farnese  การตกแต่งที่สำคัญอีกอย่างของพระราชวังก็คือ The Triumph of Divine Providence ภาพเขียนปูนเปียกของ Pietro da Cortona ที่เป็นแนวทางศิลปะแบบบาโรก

Fornarina

เมื่ออำนาจของตระกูล Barbernini เริ่มเสื่อมถอยพวกเขาก็หันมาอาศัยการพึ่งพิงตระกูล Colonnaด้วยการแต่งงานและมีสัญญาต่อกันในการให้คนในตระกูลคนที่สองใช้นามสกุล Barbernini  พวกเขาจึงใช้การปรับโฉมพระราชวังแห่งนี้เพื่อฟื้นฟูอำนาจของตระกูลโดยปรับปรุงชั้นสองใหม่เพื่อใช้อยู่อาศัยจริง และหลีกหนีจากแนวทางศิลปะแบบหรูหรา หลังการรวมชาติของอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่นี่ถูกปรับโฉมอีกครั้ง เมื่อรัฐบาลอิตาลีซื้ออาคารนี้มาเป็นของรัฐ ก็ได้ปรับโฉมพระราชวังให้กลายเป็น National Gallery of Ancient Art โดยจัดแสดงของตามลำดับปีจากคริสต์ศตวรรษที่ 13-18

ของจัดแสดงชั้นล่างเป็นยุคเรอเนสซองส์ตอนต้นประกอบด้วยงานสำคัญคือ The Madonna Advocata งานเก่าแก่ที่สุดของห้องภาพ Crucifix ของ Simone and Machilone ชั้นหนึ่งจะเป็นงานแนวเรอเนสซองส์และบาโรก รวมถึงภาพ Fornarinaซึ่งเป็นภาพสำคัญของ Raphael ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาเยี่ยมเยือนห้องภาพแห่งนี้ ส่วนชั้นบนสุดจัดแสดงผลงานยุคบาโรคที่มีภาพเด่นเป็นภาพ Pope Urban VIII ของ Gian Lorenzo Bernini (ภาพจาก Guide the National Gallery of Ancient Art at Palazzo Barberini)

Triumph of Divine Providence

Pope Urban VIII

The Madonna Advocata

Fornarina detail

Leave a comment