ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/lady/267852

ตะลอนเที่ยว : เชื่อมคน เชื่อมโลก เพิ่มรายได้ประเทศด้วยการท่องเที่ยว
แหล่งรายได้หลักที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสนใจเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันคือ รายได้จากการท่องเที่ยว เพราะเป็นแหล่งรายได้ที่ทำเงินอย่างงดงามและมหาศาลให้กับแต่ละประเทศอย่างเป็นรูปธรรม อ้างอิงตัวเลขของ World Bank ที่ระบุถึงรายได้จากการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1995-2015 จะพบว่ามูลค่ารายได้จากการท่องเที่ยวของโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตัวเลขของปี 1995 อยู่ที่ 486.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แล้วตัวเลขรายได้เพิ่มขึ้นทุกปีจนกระทั่งปี 2008 มีรายได้ 1.12 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่พอปี 2009 ตัวเลขรายได้ลดลงอยู่ที่ระดับ 1.00 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หลังจากนั้นจนถึงปี 2014 ตัวเลขรายได้สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2015 รายได้ลดลงเหลือ 1.44 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ส่วนรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้มาจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งอ้างอิงจากสถิติของ World Bank ตั้งแต่ ค.ศ. 1995-2015 พบว่าในปี 1995 มีรายได้ 9.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐแล้วเพิ่มขึ้นทีละน้อย จนกระทั่งปี 2008 มีรายได้เพิ่มเป็น 22.51 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในปี 2015 มีรายได้เพิ่มเป็น 48.53 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อรายได้จากการท่องเที่ยวสามารถทำเงินให้กับประเทศต่างๆ ได้อย่างงดงามและมากมายอย่างเป็นรูปธรรมเช่นนี้ จึงทำให้ทุกประเทศหันมาสนับสนุนและส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวและภาคบริการกันอย่างเอาจริงเอาจัง โดยต่างพยายามพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมถึงปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวเดิมให้คงความน่าสนใจ เพื่อให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปกลับเยือนได้ตลอดเวลา

เมื่อการท่องเที่ยวเติบโตอย่างมาก ก็ส่งผลให้ธุรกิจการบิน ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร การขนส่ง การค้าขาย สวนสนุก สปา การแพทย์ และการกีฬาของแต่ละประเทศเติบโตตามขึ้นไปโดยปริยาย ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าทุกประเทศได้พยายามพัฒนารูปแบบการให้บริการด้านการท่องเที่ยวแบบครบวงจรให้พร้อมสรรพเพื่อหวังให้ตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศของตนอย่างเป็นกอบเป็นกำ
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวในงาน Arabian Travel Market 2017 (ATM 2017) ซึ่งจัดในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ระหว่างวันที่ 24-27 เมษายนว่า ต้องการทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวต่างชาติทุกคนปรารถนาจะไปเยือน (preferred destination) เพราะประเทศไทยมีแหล่งท่องเที่ยวทุกชนิดครบครัน และมีอารยธรรม ขนบประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ รวมถึงยังมีอาหารการกินที่สมบูรณ์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ตามความต้องการ และถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องทำตัวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งต้องการประสบการณ์การท่องเที่ยวที่สามารถสร้างความประทับใจให้ตลอดไป โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวด้วยการได้สัมผัสวิถีชีวิตและความเป็นไทยแบบแท้จริง (unique and local experiences) โดยในปี 2016 ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ
47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 13 เปอร์เซ็นต์ มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 32.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 9 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน และที่สำคัญอีกประการคือ จะต้องพยายามนำนักท่องเที่ยวจากประเทศใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและมีคุณภาพด้านการท่องเที่ยว แต่ทว่ายังไม่ค่อยได้เดินทางมาท่องเที่ยวในไทย ให้เข้ามาเที่ยวเพิ่มมากขึ้น

ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา บอกว่าการมางาน ATM 2017 ครั้งนี้ ททท.ได้ลงนามกับพันธมิตรต่างชาติเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทยอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการได้พบปะเจรจาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกับสายการบินนานาชาติ อาทิ Emirates Airlines, FlyDubai, Etihad Airways, Mahan Airways และลงนามสัญญากับ Qatar Airways รวมถึงได้พบปะเจรจากับ H.E. Maitha Al Mahrouqi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของประเทศโอมาน โดยจุดประสงค์สำคัญในการเจรจาและลงนามในสัญญากับสายการบินต่าง ๆ ก็คือเพื่อให้สายการบินเหล่านั้นนำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากเมืองรองที่กระจายอยู่ทั่วโลก ซึ่งมีความประสงค์จะเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทย อย่างเช่นนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย ยุโรป และตะวันออกกลาง รวมถึงจากเมืองอื่นๆ ของอิหร่าน นอกจากนี้ในอนาคตอันใกล้ ททท. จะเร่งเข้าไปทำตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวระดับคุณภาพจากย่านละตินอเมริกาเข้ามาไทยให้มากขึ้นด้วย

โครงการหนึ่งที่ททท. พยายามจะเปิดโอกาสด้านการท่องเที่ยวในภูมิภาคของไทยให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติคือ โครงการ The Link โดยเป็นการร่วมมือช่วยเหลือกันระหว่างสำนักงานททท. ในยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลางกับสำนักงานททท. ในประเทศไทย โดยเบื้องต้นมี 10 คู่ คือ ลอนดอนกับแม่ฮ่องสอน ปารีสกับเลย เยอรมนีกับพังงา มอสโควกับเพชรบุรี โรมกับสุโขทัย สตอกโฮมกับนครศรีธรรมราช ปรากกับตรัง ดูไบกับสมุทรสงคราม นิวยอร์กกับตราด และลอสแองเจลิสกับชุมพร โดยสำนักงานททท. ต่างประเทศต้องพยายามนำนักท่องเที่ยวของตนให้เข้าไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นคู่ของตนให้ได้ ซึ่งนับเป็นการท่องเที่ยวแบบ local experiences ที่ชัดเจน

และเพื่อให้รูปประกอบคอลัมน์เข้ากับเนื้อหาที่นำเสนอในสัปดาห์นี้ Mr.Flower จึงเลือกนำภาพบรรยากาศภายในงาน ATM 2017 มาให้คุณๆ ได้ชมกัน ขอบอกว่าคูหาประเทศไทยที่จัดงานในครั้งนี้ได้รับความสนอกสนใจจากผู้ประกอบการด้านการ
ท่องเที่ยวและบริการซึ่งเป็นชาวต่างชาติอย่างคับคั่ง หลายคนปลื้มกับนวดไทย และหลายคนปลื้มกับการลงสี
บนหน้ากากโขน และถ้วยชาม ส่วนคูหาจัดงานของประเทศอื่นๆ ก็คึกคักไม่แพ้กัน เชื่อว่าเมื่อคุณๆ ได้ดูรูปแล้วคงจะเข้าใจได้โดยทันทีว่า ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวของโลกเรานั้นนับวันยิ่งมีความน่าสนใจอย่างมากมาย เพราะนี่คือแหล่งรายได้มหาศาล
(หมายเหตุ ขออนุญาตปิดท้ายด้วยการเรียนย้ำสมาชิกที่จะไปทำบุญเลี้ยงภัตตาหารพระและเณรจำนวน 100 กว่ารูป และไปชมพระราชวังบางปะอิน และพระนารายณ์ราชนิเวศน์กับ Mr.Flower ในวันที่ 7 พฤษภาคม ขอให้สมาชิกไปพบกันที่สำนักงานหนังสือพิมพ์แนวหน้า ถนนวิภาวดีรังสิต เวลา 06.45 น. นะครับ)





