สกู๊ปพิเศษ : ชีวิต-ดนตรี สร้างสุข ให้ ‘สิงโต นำโชค’

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

http://www.naewna.com/entertain/284696

สกู๊ปพิเศษ : ชีวิต-ดนตรี สร้างสุข ให้ ‘สิงโต นำโชค’

สกู๊ปพิเศษ : ชีวิต-ดนตรี สร้างสุข ให้ ‘สิงโต นำโชค’

วันจันทร์ ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2560, 06.00 น.

เป็นอีกหนึ่งศิลปินที่มีความรักในการร้องเพลง และเล่นดนตรีอย่างแท้จริง สำหรับ สิงโต นำโชค หรือ นำโชค ทะนัดธัมย์
เจ้าของเพลงดัง เธอคือของขวัญ, อยู่ต่อเลยได้ไหม, อยู่อย่างเหงาๆ ฯลฯ ที่กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ “สิงโต นำโชค” ต้องมุ่งมั่นและทุ่มเท พร้อมกับมีแนวทางการใช้ชีวิต ที่นำดนตรีมาสร้างความสุขให้ตนเองได้มีพลังในทุกๆ วัน และหล่อรวมเป็นเขาดังเช่นทุกวันนี้

จุดเริ่มต้นการเป็นนักร้อง?

“ย้อนความไปเมื่อ 15 ปีก่อน ผมเป็นเด็กธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่มี เสก โลโซ, โบ-สุนิตา เป็นไอดอล ที่ทำให้ผมอยากเป็นนักร้อง อยากเข้ามาทำงานสายดนตรี ตอนนั้น อายุ 17-18 ปี ได้ ตัดสินใจเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ พร้อมกับฝึกร้องเพลง เล่นดนตรี พร้อมกับรับจ้างเล่นดนตรีในผับไปด้วย ชีวิตเหมือนนักร้องกลางคืนทั่วไป และก็มีโอกาสได้ทำอัลบั้มร่วมกับเพื่อนๆ เป็นศิลปินกลุ่ม ชื่อว่า โมโน ก็ถือเป็นประสบการณ์ครั้งหนึ่งของชีวิต จากนั้นผมก็กลับไปเล่นดนตรีกลางคืนอีก ซึ่งครั้งนี้ก็นานเป็น 10 ปี จนผมอายุ 27 ปีเลย จึงมีโอกาสมาออกอัลบั้มอีกครั้ง กับการเป็นศิลปิน สิงโต นำโชค ครับ”

ความคาดหวังที่จะเป็นศิลปินออกอัลบั้ม?

“ก็คิดไว้นิดๆ นะ อยากมีอัลบั้มเพลงสักอัลบั้มหนึ่ง แต่ไม่ได้คิดไกลกว่านั้นว่าจะต้องเป็นศิลปิน มีชื่อเสียง ไม่ได้หวังขนาดนั้น ผมแค่อยากมีเพลงของตัวเองตามความฝันเท่านั้น ซึ่งครอบครัวของผมเองก็รู้มาตลอด ที่บ้านให้สิทธิ์ผมในการเลือกชีวิตด้วยตัวเราเอง อยากทำอะไรก็ทำ แม้จะเป็นนักดนตรีกลางคืน ที่บ้านก็ไม่เคยขัดขวาง เพราะผมเองก็สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ ว่าผมมีเงินจุนเจือตัวเอง ส่งเสียทางบ้านได้ ที่บ้านก็สนับสนุนมาตลอด สำหรับ 7 ปีที่ผ่านมาที่แฟนเพลงรู้จักผม สิงโต นำโชค มันเกินกว่าที่ผมฝันไว้มากๆ เริ่มต้นจากการมีอัลบั้มของตัวเอง ได้เล่นคอนเสิร์ตเล็กๆ มีคนตั้งใจมาฟังเพลงของเรา ณ เวลานี้ 7ปีผ่านมา เหมือนจุดที่ผมยืนอยู่ มันใหญ่มากขึ้นๆ แฟนเพลงมีจำนวนเยอะมากขึ้น ขอบคุณสำหรับการตอบรับดีๆ พวกคุณเป็นเหมือนโบนัสในชีวิตของผม ที่จะทำให้ผมมีกำลังใจในการทำงานบนเส้นทางสายดนตรีต่อไปครับ”

นอกเหนือจากงานศิลปิน

“ก็มีงานถ่ายแบบ งานแสดงละคร-ภาพยนตร์ ฯลฯ ครับ เหมือนมีงานติดต่อเข้ามา ผมก็อยากที่จะลองดูว่าเราสามารถทำได้รึป่าว อยากหาประสบการณ์ให้กับชีวิต เป็นคนที่อยากลองดู อยากรู้ว่าสามารถทำงานนั้นๆ ได้หรือไม่ ??? ซึ่งถ้าเรารับงานปุ๊บ เราจะได้รับคำตอบให้กับตัวเองได้ในทันที ว่าเราทำได้หรือไม่ได้ มันชัดเจนกว่าที่จะปล่อยให้มันผ่านไปตามเวลาโดยที่เราไม่ได้ทำ ไม่รู้เลยว่า เราทำได้หรือไม่ได้ หรือเพราะแค่ไม่ได้ทำ และไม่ได้เกิดอะไรขึ้นมาเลย ซึ่งทุกๆ งานนอกจากคำว่า อยากลองดูแล้ว ใจผมก็ต้องรัก และรู้สึกอยากทำด้วยจริงๆ ทำแล้วเรามีความสุขก็อยากที่จะทำ”

มีความสุขกับทุกๆ อย่าง?

“(หัวเราะ) ทุกๆ เช้าที่ผมตื่นขึ้นมา ผมจะขอบคุณที่เรายังมีลมหายใจ ยังได้มีชีวิตอยู่ เพื่อที่จะได้ทำในสิ่งที่เรารัก ตื่นเช้าขึ้นมา ผมคิดตลอด มีอะไรใหม่ๆ ให้ผมได้ทำบ้าง พยายามมองหลายๆ อย่างให้เป็นเรื่องสนุก อยากจะทำอะไรดีๆ เพื่อเป็นกำไรชีวิต ซึ่งการมีทัศนคติเชิงบวกในทุกๆ วัน มันจะต่อยอดให้เรามีแรงสู้ต่อไปได้อีก 5-10 ปีข้างหน้าเลย ผมเป็นคนที่ค่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ มีความสุขกับสิ่งที่มี และค่อยๆ เก็บเกี่ยวความสุขอยู่ตลอดเวลา โดยส่วนใหญ่ความสุขของผมก็จะเกิดจากงานของผม และครอบครัวของผมแค่นี้จริงๆ”

สถานะคุณพ่อลูกสาม?

“ผมมีลูกชายทั้งหมด 3 คน ครับ คนโต น้องไค 3 ขวบ ส่วนคนเล็ก ฝาแฝด น้องเคเน-คาเลโอ อายุ ขวบกว่าๆ ครับ ลูกๆ กำลังซนเลย ทุกวันนี้มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิด ได้เห็นการเติบโตของพวกเขาในทุกๆ วัน ชีวิตของผม ทำงาน-เสร็จงานกลับบ้าน-ช่วยภรรยาเลี้ยงลูก-พักผ่อน-ทำงาน กับแผนชีวิตของผมและครอบครัว ก็เป็นไปตามสไตล์ของครอบครัวเรา มีแผนไว้คร่าวๆ ไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่นๆ ที่ต้องทำงานเก็บเงินเยอะๆ ผมเลือกที่จะทำงานในสิ่งที่ผมรัก เลี้ยงลูกไปด้วย ค่อยๆ ไปด้วยกัน ใช้เงินเท่าที่จำเป็นต้องใช้ก็พอ ดีกว่าไปทุ่มเทอะไรที่นอกเหนือจากนี้ ทำให้ผมเสียช่วงเวลาที่อยู่กับลูกไปเปล่าๆ ส่วนในอนาคตลูกชายของผมอยากเป็นอะไร ทำอะไรแล้วมีความสุข ผมพร้อมสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเป็นนักดนตรีอย่างผมก็ได้ แค่เขาเป็นคนดี ผมก็พอใจแล้ว”

ศิลปินโกอินเตอร์

“มันเป็นโปรเจกท์ที่ชื่อว่า โชคดี ครับ หลายๆ คนอาจจะมองว่าคนที่มีผลงานโกอินเตอร์ได้ คือ เขาโชคดี แต่ความรู้สึกของผม
มันเป็นการลงมือทำมากกว่า ถ้าไม่ได้ลงมือทำ คงไม่ได้อยู่ตรงนั้นแน่ๆ (หัวเราะ) โชคดี เป็นชื่ออัลบั้มเพลงสากลที่ผมทำร่วมกับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติที่เขามีเป็นทั้งนักเขียนเพลง โปรดิวเซอร์ ฯลฯ ที่เขาตั้งใจมาช่วยทำเพลงให้ ทำมาได้เกือบ 2 ปีแล้วครับ ทำขายกันเองที่ประเทศญี่ปุ่น และก็โปรเจกท์อื่นๆ ที่ไปเล่นดนตรีที่ญี่ปุ่น เกาหลี อังกฤษ บ้าง ปีละ 1-2 ครั้ง เจอแฟนเพลงครั้งละ 40-50 คน แค่นี้ก็อบอุ่นแล้ว ทำสนุกๆ กับเพื่อนๆ ครับ ควบคู่กับการทำเพลงที่เมืองไทย ซึ่งมันก็ให้ความสุขและประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆ เลย”

กำลังจะมีคอนเสิร์ตพิเศษ ?

“ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมก็มีคอนเสิร์ตใหญ่ของตัวเองนะครับ ตอนนั้นบรรยากาศดีมากๆ คนให้การตอบรับเป็นอย่างดี มหัศจรรย์มากๆ ที่มีคนตั้งใจมาดูคอนเสิร์ตของผม ซึ่งตอนนั้นมีที่นั่งประมาณ 5 พันกว่าที่ได้ ซึ่งกับคอนเสิร์ตครั้งล่าสุดนี้ GSB 2 TONE CONCERT” ตอน SURF ROCK สองจังหวะรัก ที่จะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 3 กันยายนนี้ ผมมีความเชื่อเหลือเกินว่า ผมจะเห็นความมหัศจรรย์เหมือนในครั้งนั้นอีก กับคอนเสิร์ตสเกลสุดเอ็กเซ็กคูทีฟ ในจำนวน 400 กว่าที่นั่งเท่านั้น ซึ่งใครที่ได้โอกาสมาดูคอนเสิร์ตในครั้งนี้ มันน่าจะเป็นบุพเพสันนิวาสที่เราต่างทำร่วมกันมา ถึงทำให้เราได้มาเจอกันอีกในครั้งนี้ อยากให้มากันเยอะๆ ครับ มันแน่นอน เพราะคอนเสิร์ตในครั้งนี้ นอกจากจะมีผมแล้ว ยังมีพี่ป๊อด โมเดิร์นด็อก (ป๊อด-ธนชัย อุชชิน) มาร่วมเล่นในคอนเสิร์ตนี้ด้วย เป็นความพิเศษที่ไม่สามารถเห็นที่ไหนแน่ๆ ถือเป็นคอนเสิร์ตแรก ที่ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับพี่ป๊อด ศิลปินที่ผมชอบมาตั้งแต่เด็กๆ เพลงของพี่ป๊อดอยู่ในความทรงจำของผมตลอด 20 กว่าปีที่ผ่านมา มันคือสิ่งที่มากกว่าความฝันมากๆ เพราะเรากำลังจะมีคอนเสิร์ตร่วมกัน ดนตรีคือความสุข แต่การได้ร่วมงานกับศิลปินที่ชื่นชอบตั้งแต่เด็กๆ มันเป็นเหมือนโบนัสที่ยิ่งใหญ่ ที่ผมจะเตรียมโชว์พิเศษไปแจมกับพี่ป๊อด และให้ความสุขกับทุกคนอย่างแน่นอนครับ เจอกัน GSB 2 TONE CONCERT สองจังหวะรัก (ป๊อด-ธนชัย อุชชิน-สิงโต นำโชค) ในวันเสาร์ที่ 2 กันยายน 2560 รอบเวลาโชว์14.00 น. และ 19.00 น. ณ STUDIO MONO29 (สตูดิโอ โมโนทเวนตี้ไนน์) ถนนชัยพฤกษ์ จองบัตรได้แล้วที่ ticket.mthai.com/concert หรือโทร.สอบถามที่เบอร์ 02-1007088 ครับ”

“สิงโต นำโชค” ในอีก 10 ปีข้างหน้า?

“ตอนนั้นผมก็จะอายุ 43 ปี และน่าจะยังคงเล่นดนตรีอยู่นะครับ แต่ ณ ตอนนั้นผมก็น่าจะมีประสบการณ์ดีๆ มีอะไรที่จะมาแชร์กับคนอื่นๆ อีกเยอะมากมาย ส่วนเรื่องอื่นๆ ผมไม่สามารถเล่าความฝันของผมให้ฟังได้จริงๆ ผมจะเก็บทุกอย่างไว้ก่อน ไว้ให้เกิดผลแล้ว ผมจะมาเล่าย้อนให้ฟังนะ น่าจะตื่นเต้นกว่า”

และนี่คือคนดนตรี ผู้มีรอยยิ้มเผื่อแผ่ให้กับคนรอบข้างเสมอ สิงโต นำโชค!!

Leave a comment