ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/291710

สกู๊ปพิเศษ : พด.แนะเกษตรกรปรับปรุงบำรุงดิน คืนความอุดมสมบูรณ์ให้ดิน เพิ่มผลผลิตพืช
การนำที่ดินไปใช้ประโยชน์เพื่อทำการเกษตรอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน โดยขาดการจัดการดูแลรักษาที่ถูกวิธี จะทำให้สภาพดินเกิดความเสื่อมโทรม ขาดอินทรียวัตถุ เนื้อดินแน่นทึบ ดินมีสภาพเป็นกรดจัดและความอุดมสมบูรณ์ต่ำ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการปรับปรุงบำรุงดิน เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน
นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า กรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานหลักทางด้านวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญในการสำรวจดินและการพัฒนาที่ดิน ซึ่งมีสถานีพัฒนาที่ดินกระจายอยู่ทุกจังหวัดทั่วประเทศ และมีหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านต่างๆ กว่า 80,000 คน เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาที่ดิน ในการทำหน้าที่วิทยากรเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ บริการให้ความรู้ความเข้าใจแก่เกษตรกรในพื้นที่เกี่ยวกับการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีการจัดการทรัพยากรดินและน้ำ การอนุรักษ์ดินและน้ำวิธีการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ วิธีการดูแลรักษาแหล่งน้ำในไร่นา การปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อให้เกษตรกรในยุค 4.0 สามารถนำความรู้ต่างๆ ไปใช้ปฏิบัติได้เอง และสามารถถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรรายอื่นๆ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรดินและน้ำเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการ ซึ่งเกษตรกรจะต้องมีวิธีการป้องกันและแก้ไขการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน มีการปรับปรุงบำรุงดินที่เหมาะสม และต้องทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ จึงจะทำให้มีการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น อีกทั้งสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างคุ้มค่าและยั่งยืนตลอดไป
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำการปรับปรุงบำรุงดินให้มีสภาพที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช มีปริมาณน้ำและแร่ธาตุอาหารเพียงพอ
เนื้อดินมีอินทรียวัตถุอยู่มากและไม่มีสารที่เป็นพิษต่อพืช มีค่า pH ประมาณ 5.5 ถึง 7.0 จึงจะช่วยเพิ่มผลผลิตพืชให้สูงขึ้น เกษตรกรต้องทำการปรับปรุงดินทั้งด้านกายภาพ เคมี และชีวภาพ ต้องมีการใส่เพิ่มอินทรียวัตถุต่างๆ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยหมัก หรือการปลูกพืชปุ๋ยสด เพื่อความอุดมสมบูรณ์ในดินให้สูงขึ้น ซึ่งแนวทางหรือการปรับปรุงบำรุงดินมีวิธีการต่างๆ ที่หลากหลาย เกษตรกรสามารถปฏิบัติได้เอง เช่น การใช้วัสดุปูนในการปรับค่าความเป็นกรด-ด่าง เช่น นาข้าวใช้ปูนมาร์ล ไม้ผลใช้ปูนโดโลไมท์ หรือปูนขาว วิธีการไถกลบตอซังฟางข้าวร่วมกับการใช้น้ำหมักชีวภาพ พด.2 อัตราการใช้ 5 ลิตร/ไร่ ฉีดพ่นหมักทิ้งไว้ช่วยให้ฟางย่อยสลายตัวได้เร็วขึ้น ทำให้เพิ่มอินทรียวัตถุในดิน หากใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก อัตรา 2-4 ตัน/ไร่ คลุกเคล้าอยู่ในดิน เกษตรกรสามารถใช้วิธีการเพิ่มฮอร์โมนในต้นพืชที่ปลูก โดยใช้ปุ๋ยอินทรียน้ำฉีดพ่นให้ต้นพืช หรือรดลงดิน ช่วยให้รากพืชแข็งแรงพืชเจริญเติบโตได้ดีให้ผลผลิตที่สูงขึ้น รวมทั้งการดูแลรักษาควบคุมความชื้นในดิน ให้ใช้วัสดุต่างๆ คลุมดิน เช่น ฟางข้าว ใบหญ้าแฝก แกลบสด พลาสติก หรือปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการชะล้างหน้าดิน ช่วยลดการสูญเสียธาตุอาหารพืช และช่วยรักษาความชื้นในดิน
นอกจากนี้ เกษตรกรควรมีการจัดการดินภายหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยต้องไม่ทำการเผาตอซังพืชทุกชนิด ให้ทำการปลูกพืชตระกูลถั่วต่างๆ เช่น ปอเทือง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ฯลฯ หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วให้ไถกลบหรือสับกลบตอซังลงในดิน เป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้สมบูรณ์เหมาะสำหรับการเพาะปลูกพืชในฤดูกาลถัดไป
สำหรับวิธีการต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น เป็นวิธีการที่จะช่วยปรับปรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่เสื่อมสภาพ และสามารถปลูกพืชให้ผลผลิตสูงได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ต้องตรวจวิเคราะห์ ตรวจสอบดินทุกๆ 1-2 ปี เพื่อทำให้ทราบการเปลี่ยนแปลงสมบัติของดิน และนำผลวิเคราะห์ไปพิจารณาหาแนวทาง หรือวิธีการปรับปรุงบำรุงดินที่เหมาะสมต่อๆ ไป
ทั้งนี้ เกษตรกร ประชาชนทั่วไป สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลความรู้ต่างๆ ได้ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1-12 สถานีพัฒนาที่ดินทุกจังหวัด หรือหมอดินอาสาประจำหมู่บ้านในพื้นที่ใกล้บ้านได้ตลอดเวลา
