ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
http://www.naewna.com/local/291949

สกู๊ปพิเศษ : เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์กรงปินัง สร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิถีสหกรณ์
เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์อำเภอกรงปินัง สร้างความเข้มแข้งในอาชีพด้วยกระบวนการสหกรณ์ ช่วยกันพัฒนาอาชีพแบบเอื้ออาทร ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิตและยกระดับสินค้าที่หลากหลายและมีคุณภาพ เพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้ามากขึ้นและได้ราคาดีกว่าต่างคนต่างทำ

ประโลมใจ เนียมแกล้ว
นางสาวประโลมใจ เนียมแกล้ว รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการ ศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการสหกรณ์ที่ 18 เปิดเผยว่า สหกรณ์ผู้เลี้ยงสัตว์กรงปินัง จำกัด เกิดขึ้นจากการที่ นายอาหะมะ อาลีมะสะ ประธานสหกรณ์ ได้เข้ารับการถ่ายทอดความรู้เรื่อง “ชุมชนเข้มแข็งด้วยวิถีสหกรณ์” ภายใต้โครงการอบรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ปี 2558/59 จึงมีแนวคิดที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบอาชีพด้านการปศุสัตว์ จึงได้เริ่มพูดคุยชักชวนผู้ที่เข้ารับการถ่ายทอดความรู้มารวมกลุ่มกัน จากนั้นได้เชิญนักวิชาการสหกรณ์ไปให้ความรู้ความเข้าใจด้านสหกรณ์โดยละเอียดอีกครั้ง แล้วจึงมีการลงมติขอจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ประเภทการเกษตร โดยมีสมาชิกแรกตั้ง 87 คน ได้รับการจดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 เมษายน 2560 ปัจจุบันสมาชิก 104 คน เป็นเกษตรกรที่ประกอบอาชีพด้านปศุสัตว์เป็นอาชีพหลักและอาชีพรอง ได้แก่ การเลี้ยงโค แพะเนื้อ แพะนม มีคณะกรรมการสหกรณ์ 15 คน กลุ่มสมาชิก 4 กลุ่ม ปีบัญชีของสหกรณ์ 30 มิถุนายน ของทุกปี แดนดำเนินการ ครอบคลุมทั้ง 4 ตำบลในอำเภอกรงปินัง มูลค่าหุ้นละ 50 บาท จำนวน 2,650 หุ้น เป็นเงิน 132,500 บาท

ราตรี กาเจ
ด้าน นางราตรี กาเจ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ 8 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดยะลา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจของสหกรณ์เลี้ยงสัตว์กรงปินัง จำกัด ประกอบด้วย ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายตามความต้องการของสมาชิก ประเภทสินค้า ได้แก่ อาหารโค อาหารแพะเนื้อ อาหารแพะนม แร่ธาตุ ยารักษาโรค มีหน้าร้านอยู่ติดกับหน่วยผสมเทียมอำเภอกรงปินัง โดยสมาชิกจะได้ซื้อสินค้าในราคาต่ำกว่าท้องตลาดและที่สำคัญสมาชิกประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปซื้อสินค้าในตัวเมืองยะลาได้มาก เพราะด้วยพฤติกรรมการของสมาชิกจะซื้อสินค้าเพียงครั้งละ 1-2 กระสอบ เฉลี่ยซื้อสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจรวบรวมผลผลิตน้ำนมแพะเพื่อแปรรูปและจำหน่าย ซึ่งการแปรรูปน้ำนมเริ่มมาจากการที่ต้องการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสมาชิกที่บริโภคน้ำนมดิบที่ไม่ได้ผ่านการฆ่าเชื้อ จึงนำสมาชิกที่เลี้ยงแพะนมไปอบรมเรื่องการตรวจสอบคุณภาพน้ำนมแพะ และการแปรรูปน้ำนมแพะพาสเจอร์ไรซ์แบบครัวเรือน ณ สถาบันฮาลาล มอ.ปัตตานี หลังจากอบรมแล้วก็มีความสนใจที่จะแปรรูปน้ำนมแพะพาสเจอร์ไรซ์ออกจำหน่าย เพราะเห็นว่าจะขายได้ราคาดีกว่าการขายน้ำนมดิบที่ขายอยู่ในราคา 60 บาทต่อกก. แต่เมื่อแปรรูปแล้วจะสามารถจำหน่ายได้ 150 บาทต่อ กก. เมื่อหักต้นทุนแล้วจะมีกำไรขั้นต้นโดยประมาณ 56 บาท ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ฝ่ายผลิต ฝ่ายขาย และกองกลาง จึงได้จัดตั้งกลุ่มอาชีพในสังกัดสหกรณ์ขึ้น โดยใช้ชื่อว่า “กลุ่มแปรรูปน้ำนมแพะกรงปินัง ซึ่งเริ่มจำหน่ายครั้งแรกในงานผลไม้และของดีเมืองยะลา ในระหว่างวันที่ 25-27 สิงหาคม 2560 โดยผลิตเป็นนมแพะพาสเจอร์ไรซ์รสธรรมชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับค่อนข้างดี ในเรื่องของกลิ่นที่ดื่มง่าย รสชาติมันเพราะความเข้มข้นของน้ำนมดิบ ทำให้กลุ่มมีกำลังใจที่จะผลิตต่อไปอีกและเพิ่มรสชาติให้หลากหลาย เช่น รสน้ำผึ้ง รสช็อกโกแลต เพื่อเจาะตลาดลูกค้าที่เป็นเด็กให้มีโอกาสได้ดื่มนมแพะ ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่านมโค โดยสหกรณ์จะเป็นผู้ทำการตลาดและจัดจำหน่ายให้ โดยเป้าหมายในอนาคต ทางสหกรณ์ฯ จะจัดอบรมให้ความรู้กับสมาชิกกลุ่ม เรื่องการเลี้ยงแพะให้ได้น้ำนมคุณภาพ การรีดนมแพะการเพิ่มชนิดผลิตภัณฑ์ เช่น โยเกิร์ตนมแพะ ไอศกรีมนมแพะ นมแพะอัดเม็ด เป็นต้น