แนะสินค้าTop4มหาสารคาม พร้อมพืชทางเลือกให้เกษตรกร ใช้ปลูกทดแทนนาข้าวพื้นที่S3,N เปิดช่องสร้างผลตอบแทนเพิ่ม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/386659

x

แนะสินค้าTop4มหาสารคาม พร้อมพืชทางเลือกให้เกษตรกร ใช้ปลูกทดแทนนาข้าวพื้นที่S3,N เปิดช่องสร้างผลตอบแทนเพิ่ม

วันศุกร์ ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562, 06.00 น.

นางสาวทัศนีย์ เมืองแก้ว รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.)เปิดเผยถึงแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก (Agri – Map) ในจ.มหาสารคาม ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 4 (สศท.4) จ.ขอนแก่น ศึกษาสินค้าเกษตรที่สำคัญ Top4 ของจังหวัด พบว่า ข้าวเหนียวนาปี อ้อยโรงงาน โคเนื้อ และกระบือ เป็น 4 สินค้าสำคัญที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงสุดของจังหวัด โดยศึกษาเปรียบเทียบระหว่างพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) กับพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) เพื่อนำมาวิเคราะห์แนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ และนำเสนอสินค้าเกษตรทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงให้เกษตรกร สำหรับใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจปรับเปลี่ยนการผลิตในพื้นที่ไม่เหมาะสมของนาข้าวตามแผนที่ Agri-Map

จากการศึกษาพบว่า ปัจจุบันจ.มหาสารคามมีพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) สำหรับการปลูกข้าว 1,380,100 ไร่ และพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) 789,800 ไร่ ในขณะที่อ้อยโรงงานมีพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) สำหรับการปลูก 90,956 ไร่ และพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) 84,962 ไร่ หากพิจารณาผลตอบแทนสุทธิจากการผลิต ข้าวเหนียวนาปี ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) พบว่า เกษตรกรได้กำไร 1,353 บาท/ไร่ ส่วนพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) เกษตรกรขาดทุน 2,160 บาท/ไร่ อ้อยโรงงาน ในพื้นที่เหมาะสม (S1,S2) ได้กำไร 1,311 บาท/ไร่ ส่วนในพื้นที่ไม่เหมาะสม (S3,N) ได้กำไร 355 บาท/ไร่ ด้านโคเนื้อและกระบือ ไม่แยกพื้นที่ความเหมาะสม โดยโคเนื้อ ให้ผลตอบแทน 7,921 บาท/ตัว และ กระบือ ให้ผลตอบแทน 6,307 บาท/ตัว

สำหรับสินค้าทางเลือกเพื่อปรับเปลี่ยนนาข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม พบว่า มันสำปะหลังให้ผลตอบแทนสุทธิที่สูงกว่าข้าวเหนียวนาปี โดยมีต้นทุน 6,621 บาท/ไร่ คิดเป็นผลตอบแทนสุทธิ เกษตรกรได้กำไร 551 บาท/ไร่ กล้วยหอมทอง มีต้นทุน 28,091 บาท/ไร่ เกษตรกรได้กำไรในปีแรก 657 บาท/ไร่ (ผลตอบแทนจะเพิ่มขึ้นในปีถัดไป) พืชผัก อาทิ กะหล่ำปลี ปลูกปีละ 1 รอบ เฉพาะช่วงฤดูหนาว เริ่มปลูกธันวาคม อายุเก็บเกี่ยว 120 วัน ต้นทุน 20,358 บาท/ไร่/รอบการผลิต เกษตรกรได้กำไร 26,925 บาท/ไร่

ผักรวม ได้แก่ ผักชี ต้นหอม โหระพา สะระแหน่ ใบแมงลัก กะเพรา ซึ่งปลูกได้ตลอดปี อายุเก็บเกี่ยว 40-50 วัน มีต้นทุน 7,068 บาท/ไร่/รอบการผลิต เกษตรกรได้กำไร 11,755 บาท/ไร่/รอบการผลิต และผักกาด ปลูกปีละ 3 รอบ ช่วงเวลาปลูก ธันวาคม-พฤษภาคม อายุเก็บเกี่ยว 45 วัน ต้นทุน 2,395 บาท/ไร่/รอบการผลิต เกษตรกรได้กำไร 9,382 บาท/ไร่/รอบการผลิต

ด้านนายฉกาจ ฉันทจิระวัฒน์ ผู้อำนวยการ สศท.4 กล่าวเสริมว่า ผลการศึกษาดังกล่าว สศท.4 ได้นำเสนอในที่ประชุม โครงการบริหารจัดการเขตเกษตรเศรษฐกิจสำหรับสินค้าเกษตรที่สำคัญ (Zoning) ปี 2561 ของจ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนส่วนราชการ รวมทั้งผู้แทนเกษตรกร เพื่อนำเสนอแนวทางในการบริหารจัดการพื้นที่และรับฟังความคิดเห็น ซึ่งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในแต่ละภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเกษตรกรมีข้อเสนอว่านอกเหนือจากสินค้า Top4 และพืชทางเลือกที่เสนอมาแล้วนั้น ควรส่งเสริมการปลูกอินทผาลัม พืชสมุนไพร หม่อนไหม การเลี้ยงโคนม และการเลี้ยงปลาตะเพียนเพื่อแปรรูป ซึ่งสินค้าดังกล่าวยังเป็นที่ต้องการของตลาด และคาดว่าจะเป็นทางเลือกให้เกษตรกรสามารถเพิ่มรายได้อีกทางหนึ่ง สำหรับสินค้าชนิดใหม่ ที่ยังไม่เคยผลิตในพื้นที่ หากเกษตรกรจะทดลองผลิตจะต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ประกอบกับควรศึกษาข้อมูลต้นทุน ผลตอบแทน และเรื่องการตลาด ตามแนวทางตลาดนำการผลิตให้รอบคอบ หากผู้สนใจสอบถามผลการศึกษาเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สศท.4 โทร. 0-4326-1513 ต่อ 13 หรืออีเมล zone4@oae.go.th

Leave a comment