‘รมช.วิวัฒน์’เยือนถิ่นสารคาม ปลุกภาคประชาสังคมหนุนเมืองหลวงเกษตรกรรมยั่งยืน

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/391140

'รมช.วิวัฒน์'เยือนถิ่นสารคาม ปลุกภาคประชาสังคมหนุนเมืองหลวงเกษตรกรรมยั่งยืน

‘รมช.วิวัฒน์’เยือนถิ่นสารคาม ปลุกภาคประชาสังคมหนุนเมืองหลวงเกษตรกรรมยั่งยืน

วันศุกร์ ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2562, 15.21 น.

“รมช.วิวัฒน์”เยือนจ.มหาสารคาม ปลุกภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ผนึกกำลังประกาศเจตนารมณ์หนุนมหาสารคามสู่เมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืนเพื่อลูกหลาน พร้อมตั้งเป้า250,000ไร่ในปี64

25 ม.ค.62 ที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) บ้านหนองเผือก ต.หนองทุ่ม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดงานประกาศเจตนารมณ์ “ขับเคลื่อนมหาสารคาม…สู่การเป็นเมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน” ว่า ปัจจุบันสภาพการผลิตสินค้าเกษตรมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันกันสูง ส่งผลให้เกษตรกรประสบปัญหาในด้านต้นทุนการผลิตและตลาด โดยเฉพาะเกษตรกรที่ปลูกพืชเชิงเดี่ยว ดังนั้น เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในอาชีพเกษตรกรรม จ.มหาสารคาม โดยภาคประชาสังคม จึงได้มีการผนึกกำลังจากทุกหมู่เหล่าประกาศที่จะเป็นเมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน พร้อมที่จะปฏิบัติตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2561-2564) ที่ได้กำหนดเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืนให้ได้ไม่น้อยกว่า 5,000,000 ไร่ ภายในปี 2564

โดย จ.มหาสารคาม ได้กำหนดเป้าหมายการทำเกษตรกรรมยั่งยืนไว้ที่ 250,000 ไร่ โดยจะสนับสนุนให้มีการปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตจากพืชเชิงเดี่ยวไปสู่เกษตรกรรมยั่งยืน อาทิ เกษตรทฤษฎีใหม่ เกษตรผสมผสาน เกษตรอินทรีย์ วนเกษตร เกษตรธรรมชาติ และเกษตรกรรมรูปแบบอื่น ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำเนินการผลักดันเพื่อให้เกิดการเพิ่มพื้นที่เกษตรกรรมยั่งยืน โดยใช้กลไกการทำงานในระดับพื้นที่ จากภาคีเครือข่ายภาคประชาสังคม ซึ่งหมายถึง ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ภาคการศึกษา และปราชญ์ชาวบ้านทุกระดับ ร่วมมือกันขับเคลื่อนเพื่อให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จ

การประกาศเจตนารมณ์ “ขับเคลื่อนมหาสารคาม…สู่การเป็นเมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน” ในครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 300 คน ซึ่งเป็นผู้แทนจากทุกอำเภอ ประกอบด้วย เกษตรกร องค์กรจากเกษตรกร ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา ทั้งระดับอำเภอและระดับจังหวัด เพื่อมารับฟังนโยบายและแนวทางในการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืน ตลอดทั้งประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนของ จ.มหาสารคาม สู่การเป็นเมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืน

“ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจกัน ดังที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ตรัสว่า “สามัคคีคือพลัง ค้ำจุนแผ่นดินไทย” ภาคเกษตรของไทยจะไปไม่รอด หากไม่มีการปรับตัว เนื่องจากปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจของโลกกำลังตกต่ำลงทุกขณะ ส่งผลให้อาหารโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤต ประชากรโลกเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ในขณะที่อาหาร และอากาศบริสุทธิ์ลดน้อยลงทุกที โดยปัจจุบันค่า GDP ไม่สามารถวัดคุณภาพชีวิตของประชากรได้ แต่สิ่งที่วัดได้ คือ มีอากาศบริสุทธิ์อยู่หรือไม่ ดังนั้น ระบบการผลิตทุกด้านจึงต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย ทุกโรงพยาบาล ทุกโรงเรียน ทุกโรงแรม ต้องมีอาหารปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค โดยรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการทำเกษตรกรรมยั่งยืน เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนสร้างความมั่นคงทางอาหาร รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับเกษตรกรอย่างยั่งยืน” นายวิวัฒน์ กล่าวและว่า ทั้งนี้ จ.มหาสารคาม จะเป็นเมืองหลวงแห่งเกษตรกรรมยั่งยืนได้ ด้วยการบูรณาการร่วมกันขับเคลื่อนเกษตรกรรมในทุกระดับพื้นที่ เน้นการลงมือทำ เพื่อผลักดันให้เกษตรกรรมของจังหวัดเกิดความยั่งยืนไปสู่ชั่วลูกชั่วหลานต่อไป

Leave a comment