ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/389496
x
หนุนปลูกชาอัสสัมคู่อนุรักษ์ป่า ลดต้นทุน-ให้ผลผลิตคุณภาพ
นางดาเรศร์ กิตติโยภาส รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ในปี 2562 กรมส่งเสริมการเกษตรวางแผนจัดทำแปลงสาธิตการปลูกชาอัสสัมคุณภาพ ประกอบกับเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ปลูกชาตามโครงการทั้ง 3 จังหวัด (เชียงใหม่, น่าน, เชียงราย) เพื่อนำเกษตรกรศึกษาดูงานด้านการผลิตชา และพัฒนาผลิตภัณฑ์ชาอัสสัมต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรมีผลตอบแทนเพิ่มขึ้น กลุ่มเข้มแข็งและยั่งยืนในลักษณะการปลูกชาอัสสัมร่วมกับป่าเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตามวัตถุประสงค์ของโครงการตามพระราชดำริ ซึ่งได้ประโยชน์ในอีกทางหนึ่งคือ ลดต้นทุนการสร้างโรงเรือน เนื่องจากชาอัสสัมเป็นไม้อายุยืนส่วนใหญ่เป็นไม้ชั้นล่างอยู่ภายใต้ป่ามีต้นไม้ใหญ่ปกคลุม ซึ่งให้ผลผลิตยอดชาได้ดีภายใต้แสงแดดพอประมาณ ต่างจากชาจีนที่ต้องการแดดมาก
กรมส่งเสริมการเกษตร เตรียมผลักดันกลุ่มเกษตรกรซึ่งปลูกชาอัสสัมในพื้นที่โครงการ สู่การเป็นกลุ่มผู้ผลิตชาอินทรีย์ โดยกำหนดนโยบายพัฒนาการปลูกชาอัสสัมตามโครงการ 4 ด้าน ได้แก่ การผลิต ที่มุ่งถ่ายทอดความรู้เทคโนโลยีการผลิตให้เกษตรกร โดยใช้แปลงของเกษตรกรสาธิตกระบวนการผลิตที่ถูกต้อง การตลาด ส่งเสริมและสนับสนุนให้รวมกลุ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์/บรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพ เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวของจังหวัดขยายช่องทางจำหน่าย และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ชาอัสสัมในรูปสินค้าให้เป็นที่รู้จัก
สำหรับการเพิ่มมูลค่าชาอัสสัม เร่งสร้างความเข้าใจให้เกษตรกรแยกพื้นที่ปลูกชา และแยกเก็บยอดชา เนื่องจากต้นชาที่อายุมากจะให้ผลผลิตมีคุณภาพรสชาติดีกว่า เพิ่มรายได้มากกว่าจำหน่ายยอดชาที่เก็บรวมกัน ทั้งนี้ การปลูกชาอัสสัมทำได้ทั้งเพาะเมล็ดและปักชำ โดยนำเมล็ดพันธุ์จากต้นแก่ มาแช่น้ำ 2 คืน แล้วเพาะในดิน เมื่อลำต้นแตกออกสูง 1-2 ฟุต จึงนำไปปลูกบนที่ดอยได้ ส่วนการปักชำจะเลือกนำกิ่งพันธุ์ที่สมบูรณ์ปลอดโรค ไปชำลงในถุงบรรจุวัสดุเพาะชำขนาด 4×6 นิ้ว ต้นก็เจริญเติบโตได้ ทั้งนี้ เกษตรกรผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่ น่าน และเชียงราย หรือศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร (เกษตรที่สูง) จ.เชียงใหม่ พะเยา และเชียงราย