ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/399709
x
กรมชลฯคุมเข้มใช้น้ำหน้าแล้ง วอนงดทำนาปรังรอบ2-ยันมีพอใช้ทั่วปท.
ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ หลังสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ว่า มีปริมาณน้ำในอ่างฯรวมกัน 50,825 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 67 ของความจุเก็บกักรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ 26,896 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 52 ของปริมาณน้ำใช้การได้ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่กรมชลประทานบริหารจัดการให้เพียงพอกับความต้องการทุกภาคส่วนในเขตชลประทานจนสิ้นสุดฤดูแล้งแน่นอน
โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาซึ่งมี 4 เขื่อน คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นแหล่งน้ำต้นทุนนั้น ขณะนี้มีปริมาณน้ำรวมกัน 14,650 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 59 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้รวมกัน 7,954 ล้าน ลบ.ม. จะมีน้ำเพียงพอใช้ในทุกกิจกรรมเช่นกัน เฉพาะการผลักดันน้ำเค็ม ซึ่งขณะนี้ปริมาณค่าความเค็มในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานีสูบน้ำสำแล วัดได้ 0.15 กรัม/ลิตร และแม่น้ำแม่กลองที่สถานีปากคลองดำเนินสะดวก วัดได้ 0.13 กรัม/ลิตร ยังอยู่ในเกณฑ์ควบคุม และผลิตน้ำประปาได้ตามปกติ
สำหรับแผนการจัดสรรน้ำช่วงฤดูแล้ง ปี 2561/2562 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2561 – 30 เม.ย. 62 ปริมาณน้ำต้นทุนจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั้งประเทศ วางแผนจัดสรรน้ำไว้ 23,100 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งเพียงพอสนับสนุนการใช้น้ำในเขตชลประทานทั่วประเทศ โดยในส่วนลุ่มน้ำเจ้าพระยานั้น วางแผนจัดสรรน้ำตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2561 – 30 เม.ย. 2562 รวม 8,000 ล้าน ลบ.ม. ผลการจัดสรรน้ำ ณ วันที่ 28 ก.พ. 2562 ใช้น้ำไปแล้วทั้งประเทศ 14,234 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 60 ของแผนฯ เฉพาะในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยาใช้น้ำไปแล้ว 6,042 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น
ร้อยละ 76 ของแผนฯ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่างฯ ที่ต้องควบคุมการใช้น้ำอย่างเคร่งครัด โดยจะเน้นสนับสนุนการใช้น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ได้แก่ เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนทับเสลา และเขื่อนกระเสียว ส่วนอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำระหว่างร้อยละ 30-60 ของความจุอ่างฯมี 17 แห่ง อาทิ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนแม่มอก เขื่อนห้วยหลวง เขื่อนน้ำอูน เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนลำปาว เขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนมูลบน เขื่อนลำแซะ เขื่อนลำนางรอง เขื่อนสิรินธร เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนขุนด่านปราการชล เขื่อนคลองสียัด และเขื่อนบางพระ จะสามารถส่งน้ำสนับสนุนการปลูกพืชฤดูแล้งเฉพาะพืชใช้น้ำน้อยเท่านั้น รวมทั้งขอความร่วมมือจากเกษตรกรให้งดทำนาปรังรอบที่ 2 เพื่อให้มีปริมาณน้ำสำรองไว้ใช้ในอนาคตและสร้างความมั่นคงด้านน้ำอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ กรมชลประทานยังเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสูบน้ำ รถสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถขุด รถบรรทุกน้ำ รถแทรกเตอร์มากกว่า 4,850 เครื่อง เพื่อเข้าช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน