ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/402310
x
รักษ์เกษตร : ‘บัว’ทำให้งามได้อย่างไร
คำถาม ผมชอบปลูกบัวครับ แต่ไม่ค่อยออกดอก ดูไม่ค่อยสมบูรณ์นัก อยากทราบรายละเอียดเรื่องนี้ด้วยนะครับ
ถวิล มนตรา
อ.เมือง จ.นนทบุรี
คำตอบ
บัวไม่ออกดอก เป็นปัญหาที่พบกันบ่อย ที่บัวเมื่อซื้อมาใหม่ๆ ก็มีดอกสวยงาม ดอกใหญ่ ต้นใหญ่ แข็งแรงสมบูรณ์ แต่เมื่อปลูกไปนานๆ แล้ว บัวที่ปลูกไว้จะเปลี่ยนไป ไม่ยอมออกดอกเหมือนเมื่อก่อน ต้นเล็กลง วิธีแก้ปัญหาก็คือ ผู้ปลูกจะต้องตรวจสอบปัจจัยพื้นฐานในการปลูกบัวเหล่านี้ และศึกษาวิธีการดูแลรักษาด้วย
วิธีการดูแลรักษาเบื้องต้น ให้พิจารณาดังนี้
1. น้ำเสีย บัวเป็นพืชน้ำที่ต้องการอากาศหายใจ ถ้าน้ำเสีย ออกซิเจนไม่เพียงพอ ก็ตายได้ง่าย ให้เด็ดใบแก่ และดอกที่โรยทิ้งเสียก่อนที่จะเน่าในภาชนะหรือบ่อที่ปลูก ถ้าไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำใหม่บ่อย เพราะจะทำให้บัวต้องปรับตัวบ่อย ทำให้การเจริญเติบโตช้า ให้สังเกตว่ามีสัตว์ตายอยู่ใต้ดินปลูก ได้แก่ กิ้งกือ ไส้เดือน หรือกบ คางคก ลงไปออกไข่ออกลูกจนน้ำเน่าเสียหรือไม่ หรือมีอินทรียวัตถุที่ติดมากับดินปลูกเน่าเปื่อยอยู่ ทำให้น้ำเน่า ให้รีบถ่ายน้ำ ถ้ายังไม่หายก็ต้องรีบเปลี่ยนดินปลูกใหม่
2. ตะไคร่น้ำ-สาหร่าย ให้รีบเก็บออกให้หมด หรือใช้ด่างทับทิมละลายน้ำในภาชนะปลูกเป็นสีบานเย็นเข้ม ทิ้งไว้ 2-3 วัน ถ่ายน้ำออกครึ่งหนึ่ง เก็บตะไคร่สาหร่ายที่ตายออก แล้วเติมน้ำใหม่ตามเดิม
3. คราบน้ำมัน ถ้ามีคราบน้ำมันจะละลายเป็นฝ้า ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์วางบนผิวน้ำ จะช่วยซับคราบน้ำมันออก ถ้าปลูกในบ่อที่มีท่อน้ำล้น ให้ปล่อยน้ำดันให้น้ำผิวหน้าไหลล้นออกทางท่อระบายน้ำที่มีคราบน้ำมันออกให้หมด
4. ต้น และรากลอย สาเหตุมาจากตอนปลูกใหม่ๆ กดอัดดินทับไม่แน่น ต้นเหง้าจะลอย รากดูดอาหารมาเลี้ยงลำต้นไม่ได้ สังเกตได้จากต้นไม่โต ใบเล็กลง ใบเหลือง และแก่เร็ว แก้ไขโดย ตอนปลูกให้ใช้ไม้ไผ่อ่อนพับครึ่ง เสียบค่อมลำต้นไว้ไม่ให้ลอย เรียกว่า ทำตะเกียบ
5. ที่ปลูกร้อนเกินไป บัวทุกชนิดต้องการแดดเต็มที่ จะมีปัญหาตอนที่ปลูกบัวตื้นน้ำน้อยเกินไป แดดจะเผาน้ำจนร้อน ปกติบัวต้องการแดดเต็มที่วันละไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง ถ้าปลูกในภาชนะเคลื่อนย้ายได้ ให้ขยับภาชนะที่ปลูกบัวเสียใหม่ให้เหมาะสม หรือเปลี่ยนภาชนะที่ปลูกให้น้ำลึกขึ้น หรือถ้าเปลี่ยนอะไรไม่ได้ และที่ปลูกได้แดดทั้งวัน ให้ใช้สแลนกันด้านบน เพื่อลดความเข้มข้น-ความร้อนของแสง
6. ดินจืด มี 2 สาเหตุ คือ ขาดปุ๋ย หรือขาดดิน สังเกตโดย บัวใบเล็กลง ใบเหลือง และต้นแก่เร็ว ถ้าปลูกในบ่อดินก็คือ ขาดปุ๋ย ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอทั่วไป หรือปุ๋ยสำหรับบัว โดยเฉพาะถ้าปลูกในภาชนะจำกัดที่สามารถอัดปุ๋ยได้ โดยการใช้มือกดก้อนปุ๋ยลงไป หรือใช้ปุ๋ยห่อกระดาษอ่อนหรือหนังสือพิมพ์อัดฝังโคนต้นบัว หรือทำปุ๋ยลูกกลอน โดยปั้นดินหุ้มปุ๋ยผึ่งแห้งเตรียมไว้ จะใช้ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับการสังเกตและศึกษาของผู้ปลูกเอง เพราะภาชนะปลูกเล็กใหญ่ต่างกัน ปริมาณน้ำปลูกมากน้อยต่างกัน ปลูกในบ่อดิน บ่อคอนกรีต พันธุ์ชนิดบัว ฯลฯ จึงไม่สามารถกำหนดแน่นอนตายตัวได้ ถ้าปลูกในภาชนะจำกัด อีกสาเหตุคือ ขาดดิน เมื่อบัวออกรากมากขึ้น และขยายเหง้า ก็จะดันดินให้พ้นภาชนะ ทำให้ดินละลายไปอยู่กับน้ำหมด จนแทบไม่มีดินเหลืออยู่เลย มีรากและเหง้าอัดแน่นเต็มไปหมด วิธีแก้โดยเพิ่มดินปลูกใหม่ แล้วอัดดินให้แน่น
7. ปลูกบัวไม่เหมาะสมกับสถานที่ และภาชนะที่ปลูก ถ้าชนิดพันธุ์บัวไม่เหมาะสมแก่สถานที่ บัวก็จะไม่เจริญเติบโต ผู้ปลูกควรรู้จักพันธุ์ว่าชนิดใดชอบน้ำตื้นน้ำลึก ที่ปลูกควรกว้างหรือแคบ และผู้ผลิตผู้ขายพันธุ์บัวจะต้องแนะนำวิธีการปลูกแก่ผู้ซื้อด้วย
8. เลี้ยงปลาที่ไม่กินพืช ให้ใส่ปลาที่ไม่กินพืชลงไปด้วย เช่น ปลาหางนกยูง ปลาสอด หรือปลากัด เพราะจะช่วยกินลูกน้ำ
ที่สำคัญ อย่าให้บัวขยายพันธุ์จนแน่นในภาชนะ บัวฝรั่งจะแตกต่างกับ บัวสาย บัวหลวง จะแตกไหลไปขึ้นต้นใหม่ บัวผันหรือบัวสายเกิดเมล็ดงอกเป็นต้นใหม่ ทำให้แน่นภาชนะ ให้เอาออก เพราะหากแน่นมากไปต้นจะไม่ออกดอก สนุกกับการปลูกบัวด้วยนะครับ
นาย รัตวิ