ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/402546
x
สทนช.คลอดแผนพัฒนาหนองหาร จับมือ9หน่วยงานทุ่ม5พันล.เพิ่มศักยภาพ
นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า สทนช. ร่วมกับจ.สกลนคร ศึกษาจัดทำแผนหลักการพัฒนาหนองหาร ไปสู่การใช้ประโยชน์เพิ่มขึ้นในการอุปโภคบริโภค ภาคเศรษฐกิจ การเกษตร และการบรรเทาอุทกภัย ทำให้เกิดปัญหาจัดการหนองหาร โดยศึกษาแบบองค์รวม มีทิศทางและกรอบแนวทางพัฒนาที่ชัดเจน และเป็นที่ยอมรับของทุกภาคส่วน เพื่อเป็นแนวทางให้ส่วนราชการต่างๆ นำไปดำเนินการได้ ทั้งนี้ แบ่งระยะเวลาการพัฒนาหนองหาร 10 ปี เป็นแผนระยะเร่งด่วนระหว่างปี 2563-2564 แผนระยะปานกลางระหว่างปี 2565-2567 และแผนระยะยาวระหว่างปี 2568-2572 โดยมี 9 หน่วยงาน ได้แก่ กรมประมง กรมชลประทาน กรมโยธาและผังเมือง กรมพัฒนาที่ดิน การประปาส่วนภูมิภาค สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสกลนคร สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสกลนคร สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสกลนคร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ร่วมบูรณาการแผนดังกล่าว
สำหรับผลการศึกษาได้ข้อสรุปดังนี้ ด้านน้ำท่วมและอุทกภัย เห็นว่า ให้ใช้ ปตร.สุรัสวดี ร่วมกับ ปตร.น้ำพุง-น้ำก่ำ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2566 เพื่อควบคุมปริมาณน้ำในหนองหารให้ต่ำกว่าระดับเก็บกัก 1 เมตร ต่อเนื่องช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม พร้อมทั้งให้ปรับปรุงการระบายน้ำในลำน้ำก่ำทั้งระบบให้ระบายน้ำได้ใกล้เคียงกับการระบายน้ำสูงสุดของ ปตร.สุรัสวดี และปรับปรุงหนองน้ำสาธารณะ 15 แห่ง ที่อยู่ริมสองฝั่งของลำน้ำก่ำให้เป็นแก้มลิง และเก็บน้ำไว้ใช้ประโยชน์ 3,700 ไร่ รวมทั้งขุดลอกสันดอนปากลำน้ำสาขาหลักที่ไหลลงหนองหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ลดปัญหาน้ำล้นตลิ่งท่วม 2 ฝั่งลำน้ำสาขาที่ไหลลงหนองหาร
ด้านการใช้น้ำ เห็นว่า ปริมาณความจุของหนองหาร ปัจจุบันเพียงพอเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับการใช้น้ำทุกกิจกรรม จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มความจุ อย่างไรก็ตาม ในส่วนระบบสูบน้ำเพื่อการชลประทานเดิม 13 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่เกษตรในระยะ 2 กิโลเมตร จากขอบหนองหารแล้ว แม้จะมีปริมาณน้ำเพียงพอที่จะขยายพื้นที่เกษตรได้อีก 25,000 ไร่ แต่ระยะทางการสูบส่งน้ำอยู่ห่างจากหนองหารมาก จึงไม่เหมาะสมที่จะขยายพื้นที่ชลประทานด้วยระบบสูบน้ำเพิ่มขึ้น แต่ควรปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพของสถานีสูบน้ำเพื่อการชลประทานทั้ง 13 แห่ง ที่ใช้งานมานนาน หลายส่วนเกิดการชำรุด ทำให้ใช้ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ด้านน้ำเสีย ต้องก่อสร้างเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียของเทศบาลนครสกลนคร ก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักให้ครอบคลุมเขตเทศบาลนครสกลนครและเทศบาลตำบลท่าแร่ เพื่อบรรเทาปัญหาน้ำท่วมและรวบรวมน้ำเสียเข้าสู่ระบบบำบัดน้ำเสีย เพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียของเทศบาลตำบลท่าแร่ และก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียของพื้นที่ชุมชนรอบหนองหารที่ยังไม่มีระบบบำบัดน้ำเสีย และน้ำเสียที่ไม่ผ่านระบบต้องสนับสนุนให้บำบัดน้ำเสียเบื้องต้นระดับครัวเรือน โดยของบอุดหนุนจากกองทุนสิ่งแวดล้อม
ด้านวัชพืชลอยน้ำ สาหร่ายและซากวัชพืชตกตะกอนทับถม ต้องกำจัดวัชพืชลอยน้ำในหนองหารให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม พร้อมกำจัดสาหร่ายวัชพืชใต้น้ำและซากวัชพืชที่ตกตะกอนทับถม เพื่อฟื้นฟูให้น้ำในหนองหารมีคุณภาพน้ำที่ดีขึ้น เหมาะเป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับกิจกรรมทุกประเภท และเหมาะต่อการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำ
“แผนพัฒนาหนองหารตามแผนดังกล่าว เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำทั้ง 6 ด้าน ในกรอบวงเงินงบประมาณ 5,490 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 10 ปี (พ.ศ. 2563-2572) เมื่อการพัฒนาแล้วเสร็จจะฟื้นฟูหนองหารให้เป็นแหล่งน้ำจืดที่อุดมสมบูรณ์ มีระบบนิเวศที่ดี มีความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นแหล่งประมงพื้นที่บ้าน สร้างรายได้เสริมให้ประชาชน และเป็นแหล่งน้ำดิบที่มีคุณภาพเพื่อผลิตน้ำประปาของชุมชนรอบหนองหาร ตลอดจนเป็นแหล่งน้ำชลประทานสำหรับเกษตรกร เพิ่มศักยภาพให้หนองหารด้านต่างๆ ไม่ว่าจะการบรรเทาอุทกภัย การพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม การท่องเที่ยวและนันทนาการอีกด้วย” เลขาธิการ สทนช. กล่าวในที่สุด