ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/406989

ส่องเกษตร : ไม่แตกต่าง
หน่วยงานราชการที่อยู่คู่กับประเทศไทยเรามาอย่างเนิ่นนานตั้งแต่สมัยอยุธยาซึ่งเป็นการบริหารราชการงานแผ่นดินแบบจตุสดมภ์ ประกอบด้วย เวียง-วัง-คลัง-นา ทำหน้าที่ร่วมกันมาโดยตลอด ผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายยุคหลายสมัย เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนรูปแบบกันมาจนถึงปัจจุบันเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งครบรอบอายุ 127 ปี ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา
ช่วงเมษายนของทุกปี เป็นที่เข้าใจกันดีว่าเป็นฤดูแต่งตั้งโยกย้ายอีกช่วงเวลาหนึ่ง สำหรับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เอง ก็เริ่มมีการทยอยแต่งตั้งตำแหน่งระดับรองอธิบดี ตำแหน่งระดับอำนวยการสูงและอำนวยการต้นออกมาเป็นลำดับ เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ผมย้อนไปนึกถึงประสบการณ์ในการทำหน้าที่ผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ตั้งแต่ยุคที่การเมืองไม่ยุ่งกับการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงยกเว้นตำแหน่งปลัดกระทรวงเท่านั้น ที่ฝ่ายการเมืองเข้ามามีบทบาท ตำแหน่งลำดับรองไปจากนั้น ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นผู้พิจารณาตามความรู้ ความสามารถ และความเหมาะสม สอดคล้องกับเงื่อนไขของ ก.พ. ด้วยเห็นว่างานพัฒนาด้านการเกษตรและสหกรณ์ เป็นงานที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความสามารถเฉพาะด้าน แต่ละสายงานไม่ว่าจะเป็นงานด้านปศุสัตว์ ประมง ดิน พืช โรคแมลงศัตรูพืช งานชลประทาน หรือแม้แต่งานด้านการสหกรณ์ ต่างก็ต้องมีความเชี่ยวชาญของตนเอง ฝรั่งเขาถึงบอกว่าต้อง Put the right man on the right job ไม่เช่นนั้นอาจสร้างความยุ่งยากและวุ่นวายได้อีกหลายเท่า
แต่หลังจากที่การเมืองเริ่มเข้ามามีบทบาทในกระทรวงเกษตรฯ มีการกำหนดนโยบาย/แผนงาน/โครงการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ตามแต่จะเห็นชอบกันไปแล้วแต่ละยุคแต่ละสมัย ต่อเนื่องบ้างไม่ต่อเนื่องบ้าง เกษตรกรกลุ่มหัวก้าวหน้าจึงไม่ได้หวังพึ่งความช่วยเหลือจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เลยแต่แสวงหาการสนับสนุนจากแหล่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นสถาบัน/องค์กรต่างๆรวมไปถึงภาคเอกชน โดยเกษตรกรเหล่านี้ขอเพียงให้ส่วนราชการอำนวยความสะดวกให้เท่านั้น เหตุการณ์เหล่านี้จึงทำให้ผมเข้าใจได้ว่า ทำไมเมื่อเกิดประเด็นปัญหาใดขึ้น เกษตรกรจึงไม่เคยยืนเคียงข้างข้าราชการกระทรวงเกษตรฯเลย ในยุคสมัยที่เหตุการณ์รุนแรงมากๆก่อนการแต่งตั้งก็ต้องส่งรายชื่อให้ฝ่ายการเมืองพิจารณาก่อน และบางครั้งก็ได้โผมาให้แต่งตั้งตามที่ฝ่ายการเมืองต้องการ ที่มาที่ไปของโผจะอย่างไรก็ไม่อาจทราบได้
ในยุคการเมืองแบบไม่ปกติ ช่วงที่ผมทำหน้าที่อยู่นับว่าเป็นความโชคดีของผมที่สามารถตัดสินใจแต่งตั้งผู้บริหารได้ด้วยตนเอง แม้ว่าการตัดสินใจจะมีเรื่องราวให้ปวดหัวบ้าง ยังถือว่าเป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุด ณ เวลานั้น แต่ในช่วงเวลาต่อมาผมได้รับรู้มาว่าการแต่งตั้งโยกย้ายในกระทรวงเริ่มเข้าสู่วังวนเดิมๆ ฝ่ายการเมืองเข้ามามีบทบาทในการแต่งตั้งข้าราชการประจำในระดับที่ไม่สมควรที่จะดำเนินการ ผมได้แต่แสดงความห่วงใยกับสิ่งที่เกิดขึ้น การมองข้ามหลักการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจะส่งผลต่อการดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แนวคิดที่ว่าเมื่อเป็นผู้บริหาร หลักการบริหารสามารถใช้ได้กับทุกงาน ไม่ใช่ความจริงเสมอไป และเมื่อกลไกการทำงานบิดเบี้ยว ก็อย่าคาดหวังกับการเกษตร 4.0 ขอแค่ประคองตัวให้รอดจากแรงกดดันของยุคดิจิทัลก็ลำบากแล้ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เชื่อเถอะว่า อะไรๆที่ว่าๆกัน จะกลับเข้าสู่ยุคอดีตอีกครั้งไม่ต่างกันเลย
สมชาย ชาญณรงค์กุล