สาวสวยผู้บริหารร้านแว่นตา The Next ณัฐนรี สนธิไชย เผยผู้มีปัญหาสายตาในยุคนี้เกณฑ์อายุจะน้อยลงเรื่อยๆ อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้สายตาที่มากเกินไป แนะควรสวมแว่นตาในชีวิตประจำวันเพื่อถนอมสายในกิจกรรมต่างๆ หรือขณะใช้คอมพิวเตอร์สมาร์ทโฟน แท็บเลต และสวมแว่นตากันแดดเป็นประจำ รวมถึงอย่าละเลยการตรวจสุขภาพตาและวัดสายตาโดยจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง อีกทั้ง ขณะนี้เทคโนโลยีการตรวจวัดสุขภาพสายตาก้าวหน้าและมีความแม่นยำมาก ทำให้สามารถตัดแว่นตาที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้สายตาของบุคคลนั้นๆ ได้คมชัดและดีต่อสุขภาพตาที่สุด

ณัฐนรี สนธิไชย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ แอนด์ พี ออพติคอล จำกัด ผู้บริหารร้านแว่นตา The Next เผยว่า หนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ทำงานหนักแต่ผู้เป็นเจ้าของกลับละเลย กระทั่งเกิดปัญหาการเจ็บป่วยจนยากจะ
แก้ไข นั่นคือ “สุขภาพสายตา” ซึ่งนับวันผู้ที่มีปัญหาสายตาไม่เฉพาะแต่ผู้สูงวัยเท่านั้น แม้แต่ในวัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน ล้วนมีโอกาสเกิดปัญหาสายตาได้มากขึ้น สาเหตุหลักมาจากไลฟ์สไตล์ในการใช้สายตานั่นเอง

“ในอดีตจะพบว่าปัญหาสายตาจะเกิดกับผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ในปัจจุบันเกณฑ์อายุของผู้มีปัญหาสายตาจะมีอายุน้อยลงเรื่อยๆอันเนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้สายตา ไม่ว่าจากการเพ่งมองจอคอมพิวเตอร์ จอสมาร์ทโฟน แท็บเลต โทรทัศน์ การอ่านหนังสือในระยะที่ไม่พอดีกับตา ความเข้มข้นของแสงยูวี ล้วนมีผลต่อสุขภาพสายตาทั้งสิ้น ซึ่งหลายคนแม้จะเป็นผู้ที่ใส่ใจสุขภาพแต่ก็ละเลยที่จะตรวจสุขภาพสายตา และยังมีพฤติกรรมการใช้สายตาที่ไม่ถูกต้อง

การตรวจสุขภาพสายตาและดวงตาควรทำอย่างน้อยปีละครั้ง เช่นเดียวกับการตรวจสุขภาพ แม้หากรู้สึกถึงความผิดปกติของดวงตาหรือสายตาเพียงเล็กน้อย ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจจะนำไปสู่การเจ็บป่วยของดวงตา และอาจร้ายแรงถึงขั้นสูญเสียดวงตาได้ การเข้ารับตรวจสุขภาพสายตาและดวงตาอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดการสูญเสียและทำให้เรามีสุขภาพสายตาที่ดีได้อย่างยืนยาว”

จักษุแพทย์ดูแลการตรวจวัดค่าสายตาด้วยเครื่อง WAM

สำหรับการตรวจสุขภาพสายตาและดวงตานั้น ผู้บริหารร้านแว่นตา The Next บอกว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีในการตรวจวัดสุขภาพสายตาและดวงตานั้นก้าวหน้าและมีความแม่นยำมาก มีชื่อว่า WAM-700 (Wave Analyzer Medica)เป็นเครื่องที่พัฒนาเทคโนโลยีจากการรวมเครื่องมือแพทย์ทางจักษุถึง 5 ด้าน ประกอบด้วย Refraction-Keratometry ตรวจหาสายสายตานั้น ยาว เอียง และความโค้งกระจกตาแบบแม่นยำสูงถึง 0.01 ไดออฟเตอร์ เมื่อเทียบกับเครื่องวัดค่าสายตารุ่นก่อนที่ทำได้แค่ 0.25 ไดออปเตอร์ Topography ตรวจสอบกระจกตาที่มีความเสี่ยงของกระจกตาย้วย Non-contact Tonography ตรวจสอบความดันตาแบบไร้สัมผัส และวิเคราะห์โรคต้อหิน WaveFront Aberrometry +Pupillometryการตรวจหาความผิดปกติของแสงที่ส่องผ่านกระจกตา รูม่านตา ในเวลากลางวันและกลางคืนสุดท้ายคือ Pachymetry+Retroillumination ตรวจคุณภาพเลนส์ตา ความหนากระจกตา และมุมช่องหน้าม่านตา ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 90 วินาที นอกจากนี้ ยังมีเครื่องตรวจวัดค่าสายตาอัตโนมัติ Vision R-800 ที่ช่วยให้การวัดสายตาได้อย่างแม่นยำโดยไม่ต้องใส่เลนส์ลองเหมือนในอดีต รวมถึงเครื่องวางจุดประกอบเลนส์เฉพาะบุคคลระบบ 3 มิติ ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการหันศีรษะและการกลอกตา เพื่อให้ช่างแว่นตาสามารถหาจุดโฟกัสบนเลนส์สำหรับการตัดแว่นตาที่ตรงกับพฤติกรรมการใช้สายตาของบุคคลนั้นๆ ได้คมชัดและดีต่อสุขภาพตาที่สุด

“การสวมใส่แว่นตาในชีวิตประจำวันไม่จำเป็นเฉพาะแต่ผู้มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงเท่านั้น การสวมใส่แว่นตาเพื่อถนอมสายตาในกิจกรรมต่างๆ เช่น ขณะใช้คอมพิวเตอร์ แท็บเลต รวมถึงการสวมแว่นตากันแดดเมื่อต้องออกไปเผชิญแสงแดดภายนอกอาคาร ก็เป็นวิธีหนึ่งในการดูแลสุขภาพสายตา อีกทั้งยังช่วยกันลมและฝุ่นที่จะกระทบกับดวงตา และการสวมแว่นตากันแดดยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยบริเวณรอบดวงตาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งการตรวจสุขภาพตาและวัดสายตา ควรทำโดยจักษุแพทย์หรือนักทัศนมาตรผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น”

นอกจากนี้ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด ร้านแว่นตา The Next ยังได้แนะนำทิปส์สำหรับการเลือกทรงแว่นตาให้เหมาะกับรูปหน้าของแต่ละคนอย่างง่ายๆ

“ไม่ว่าจะเป็นแว่นสายตาหรือแว่นตากันแดด เลือกได้ง่ายๆ เลย ถ้าคุณมีรูปหน้ากลมให้เลือกแว่นทรงเหลี่ยม ถ้ารูปหน้าสี่เหลี่ยมให้เลือกแว่นทรงกลม ส่วนรูปหน้าวงรีหรือสามเหลี่ยมจะสวมแว่นทรงอะไรก็ได้หมด ส่วนคนที่ไม่มีดั้งจมูกก็ควรเลือกแว่นที่มีแป้นจมูกเสริม เพื่อไม่ให้กรอบแว่นตกหรือกดทับบริเวณโหนกแก้ม เป็นต้นในส่วนของแว่นตากันแดด เทรนด์มาแรงของปีนี้ อัพเดทมาจากงาน MIDO ซึ่งเป็นการจัดแสดงโชว์แว่นตาคอลเลคชั่น สปริง-ซัมเมอร์ 2019 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ที่ประเทศอิตาลี แว่นตาโอเวอร์ไซส์กรอบหนาแบบเรียบๆ หรือมีลูกเล่นด้วยการประดับกริตเตอร์ คริสตัล และแว่นตาทรงสี่เหลี่ยมเล็กไร้กรอบแบบวินเทจ ยังคงได้รับความนิยม รวมถึงสีเลนส์สดใสแบบบางๆที่โชว์เสน่ห์ของดวงตาก็ยังคงอินเทรนด์อยู่”