ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/402598

แบรนด์ ‘มิโด’ (Mido) อวดโฉมเรือนเวลาหรูดีไซน์ใหม่
เสริมลุคให้ผู้สวมใส่มีความดูดีและภูมิฐาน สำหรับแบรนด์เรือนเวลาหรู “มิโด”(Mido) ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่ที่ชื่อว่า “บาลอนเชียลลี่ มิดไนท์ บลู” (BaroncelliMidnight Blue) เอาใจหนุ่มสาวผู้ที่หลงใหลในสไตล์คลาสสิก พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกนาฬิกาเสริมลุคให้ดูภูมิฐานมากยิ่งขึ้น
“มิโด” (Mido) แบรนด์นาฬิกาในเครือ สวอทช์ กรุ๊ป (Swatch Group) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (Georges Schaere) เริ่มก่อตั้งบริษัท Mido G.Schaeren & Co. AGขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1934
สำหรับคอลเลคชั่น “บาลอนเชียลลี่ มิดไนท์ บลู” (Baroncelli Midnight Blue) คู่เรือนเวลาสำหรับสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ที่มีแนวคิดของการออกแบบเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเฉลิมฉลองที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นของหนุ่มสาวผู้ที่หลงใหลในความภูมิฐาน คลาสสิกเหนือกาลเวลา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแรนส์ โอเปร่าเฮ้าส์ (Rennes Opera House) โรงอุปรากรในประเทศฝรั่งเศส ที่มีความโดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ด้วยเส้นสายการออกแบบที่เน้นความโค้งมน ความกลมกลืนของเส้นสายที่อ่อนช้อยซึ่งถือเป็นสไตล์ของการออกแบบในแนวคิดนีโอคลาสสิก (Neoclassic) ช่วยทำให้สถานที่แห่งนี้มีความพิเศษขึ้น ถ่ายทอดผ่านเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิก ที่มีหน้าปัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง29 มิลลิเมตร สำหรับผู้หญิง และขนาด 38 มิลลิเมตร สำหรับบุรุษ ส่วนตัวเรือนผลิตจากสเตนเลสสตีลทรงกลมขัดเงาเคลือบด้วยPVD สีโรสโกลด์ ด้านหน้าปัดออกแบบให้มีสีน้ำเงินเข้ม พร้อมตกแต่งด้วยลวดลายแบบซันเรย์ ซาติน
ส่วนเรือนเวลาของสุภาพสตรีนั้นมีการประดับตกแต่งเพิ่มด้วยเพชร 12 เม็ด ที่มีน้ำหนักรวมกัน 0.078 กะรัต จัดวางตัวตามหลักชั่วโมงเป็นวงกลมบนหน้าปัด ช่วยเพิ่มลูกเล่นเปล่งประกายระยิบระยับยามสะท้อนแสงตัดกับหน้าปัดสีน้ำเงิน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้เป็นอย่างมาก และหน้าปัดเรือนเวลาสำหรับบุรุษนั้น ถูกดีไซน์หลักชั่วโมงให้มีรูปทรงสามเหลี่ยมปลายแหลมมีสันนูน (Faceted dauphine-style) เข้ากันได้ดีกับเข็มชั่วโมงและเข็มนาที ส่วนเข็มวินาทีออกแบบให้แบนเรียบพร้อมขัดแต่งแบบไดมอนด์คัท (Diamond-Cut) โดยทั้งสองตัวเรือนมีช่องแสดงวันที่ (Date) ระหว่างตำแหน่ง 4 และ 5 นาฬิกาปิดครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดผลิตจากแซฟไฟร์ (Sapphire) ทนแรงกระแทก พร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน เข้าคู่กับสายหนังแท้ปั๊มลายจระเข้สีน้ำตาลกึ่งด้าน พร้อมกับบานพับที่ผลิตจากสเตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ และตัวเรือนขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง กลไก Caliber-80 ที่มีกำลังสำรองถึง 80 ชั่วโมงในเรือนเวลาสำหรับบุรุษ และกลไกอัตโนมัติที่มีพลังงานสำรอง 38 ชั่วโมง ในเรือนเวลาสำหรับสุภาพสตรี โดยโรเตอร์ในชุดกลไกได้รับการขัดแต่งลวดลายแบบเจนีวา สไตรป์ (Geneva Stripes) พร้อมกับการสลักสัญลักษณ์ของมิโดเอาไว้ ซึ่งสามารถมองเห็นกลไกนี้ได้ผ่านทางฝาหลังแบบใส และนาฬิการุ่นนี้สามารถกันน้ำอยู่ที่ระดับ 50 เมตร
ร่วมเลือกนาฬิกาเสริมลุคภูมิฐานด้วยเรือนเวลาหรูดีไซน์ล่าสุด “บาลอนเชียลลี่ มิดไนท์ บลู” (Baroncelli Midnight Blue) จากแบรนด์ “มิโด” (Mido) นาฬิกาดีไซน์หรูคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่ เคาน์เตอร์ “มิโด” (Mido) เซ็นทรัล, โรบินสัน และเดอะมอลล์
