ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/422617
x
ปลุกกระแสฝ้ายพันธุ์ใหม่‘ตากฟ้า6’ คุณสมบัติพิเศษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ฝ้าย เป็นพืชสำคัญทั้งในอดีตและปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวัตถุดิบหลักที่เหมาะสมที่สุดในการผลิตเครื่องนุ่งห่ม โดยเฉพาะในภาวะโลกร้อนเช่นปัจจุบัน เพราะสามารถดูดซับเหงื่อได้ดี ระบายความร้อนออกจากเส้นใยได้เร็ว ถึงแม้ปัจจุบันพื้นที่ปลูกฝ้ายของประเทศไทยจะลดลงมาก เนื่องจากมีพืชแข่งขันอื่นที่ทำรายได้สูงกว่า และปัญหาด้านมลภาวะจากกระบวนการฟอกย้อม แต่เกษตรกรส่วนหนึ่งยังคงผูกพันและต้องการปลูกฝ้าย เพื่อใช้ผลิตหัตถกรรมสิ่งทอในครัวเรือนทั้งของตนเอง หรือรองรับการผลิตหัตถกรรมสิ่งทอของชุมชนในรูปผลิตภัณฑ์ OTOP แสดงให้เห็นว่าการปลูกฝ้ายยังคงความสำคัญสำหรับวิถีชีวิตชุมชนของประเทศไทย
ศูนย์วิจัยพืชไร่นครสวรรค์ กรมวิชาการเกษตร จึงวิจัยพัฒนาฝ้ายพันธุ์ใหม่ใช้ชื่อว่า “ตากฟ้า 6” มีคุณสมบัติพิเศษ มุ่งเน้นความเป็นเส้นใยธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ความนิ่มนวล และมีสีน้ำตาลตามธรรมชาติโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการฟอกย้อม เพื่อลดต้นทุนแรงงาน ลดขั้นตอน เวลาฟอกย้อมสี อีกทั้งยังปลอดภัยต่อการใช้สารเคมีฟอกย้อม ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคที่กลับมานิยมใช้เส้นใยฝ้ายสีธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อธิบดีกรมวิชาการเกษตรกล่าวต่อว่า ฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 เป็นฝ้ายพันธุ์แรกของไทยที่มีเส้นใยสีน้ำตาลตามธรรมชาติและมีความละเอียดอ่อนของเส้นใยสูง เมื่อนำไปทอจะได้เนื้อผ้านิ่ม สบาย ให้ผลผลิตเฉลี่ย 177 กิโลกรัมต่อไร่ ต้านทานโรคใบหงิก เจริญเติบโตดี ดูแลรักษาง่าย ทนโรคแมลงศัตรู เก็บเกี่ยวง่าย และปลูกได้ในแหล่งผลิตฝ้ายของประเทศไทยทั่วไป จากการนำฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 ไปให้กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มทอผ้าพื้นเมืองปลูกทดสอบ เกษตรกรพึงพอใจต่อการปลูกฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 และกลุ่มทอผ้าชอบเส้นใยที่อ่อนนุ่มและสีธรรมชาติที่แปลกใหม่ ทำให้การปลูกและทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองกลับมาเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรอีกครั้ง
นอกจากนี้ เส้นใยจากฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 สามารถนำไปแปรรูปเพิ่มจากความแปลกใหม่ โดยมีผู้ผลิตหัตถกรรมศูนย์ทอผ้าพื้นเมืองบ้านและกลุ่มสายใยทองผ้าทอยกดอก จ.ลำพูน กลุ่มทอผ้าจ.ชัยภูมิ กลุ่มทอผ้าพื้นเมือง จ.เลย กลุ่มทอผ้าฝ้าย จ.เพชรบูรณ์ และกลุ่มทอผ้าไทย จ.นครสวรรค์ นำเส้นใยจากฝ้ายพันธุ์นี้ไปแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอรูปแบบใหม่ๆ เป็นการสร้างงานให้ชาวบ้าน ซึ่งผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 เพิ่มมูลค่าได้มากกว่าเส้นใยประดิษฐ์ถึงเท่าตัว โดยเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์สิ่งทอจากฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 ราคาประมาณ 1,000 บาทต่อชิ้น ผู้ผลิตจะได้เพิ่มขึ้นจากเดิมชิ้นละ 500 บาท ทำให้กระแสปลูกและทอผ้าฝ้ายพื้นเมืองกลับมาเป็นพืชที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรอีกครั้ง
“ฝ้ายพันธุ์ตากฟ้า6 จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เพิ่มมูลค่าผลผลิต และนำไปใช้เป็นวัตถุดิบผลิตสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดเป็น green product เพื่อยกระดับและเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สิ่งทอสำหรับตลาดเฉพาะ(NicheMarket) ทั้งในประเทศ และเพื่อการส่งออก” อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าว