สทนช.เผยเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง14จว. หวั่นพื้นที่เกษตรเสียหายถึงกลาง ก.ค.

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/422889

สทนช.เผยเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง14จว. หวั่นพื้นที่เกษตรเสียหายถึงกลาง ก.ค.

สทนช.เผยเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง14จว. หวั่นพื้นที่เกษตรเสียหายถึงกลาง ก.ค.

วันศุกร์ ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2562, 15.55 น.

“สทนช.ชี้พื้นที่นอกเขตชลประทานเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง 14 จว.ฝนตกน้อยกว่า 10 มม. เร่งเตือนเกษตรกร หวั่นพื้นที่เกษตรเสียหายฝนทิ้งช่วงถึงกลางก.ค. “

28 มิถุนายน นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำ พบว่า แม้ว่าขณะนี้ประเทศไทยเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น แต่จากการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์ฝนสะสม 10 วัน ที่ผ่านมา มีพื้นที่ปริมาณฝนสะสมน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร (มม.) เป็นพื้นที่นอกเขตชลประทาน และไม่มีแหล่งน้ำต้นทุนสำรอง ที่อาจจะมีความเสี่ยงที่จะขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และพื้นที่เกษตรอาจได้รับความเสียหายได้ จำนวน 14 จังหวัด 36 อำเภอ อาทิ จ. เชียงใหม่ สุพรรณบุรี นครราชสีมา ชลบุรี โดยมีถึง 3 อำเภอ ใน 3 จังหวัดไม่มีฝนตกเลยติดต่อกัน 10 วัน ได้แก่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ.สีชัง จ.ชลบุรี และอ.คลองใหญ่ จ.ตราด ขณะเดียวกัน สทนช.ยังได้ได้วิเคราะห์พื้นที่ปริมาณฝนสะสมน้อยกว่า 50 มม.โดยกำหนดเป็นพื้นที่เฝ้าระวังนอกเขตชลประทาน จำนวน 46 จังหวัด 169 อำเภอ อาทิ จ. เชียงใหม่ ขอนแก่น นครศรีธรรมราช ชลบุรี เป็นต้น

ทั้งนี้สทนช. ได้จัดส่งข้อมูให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมแจ้งเตือนเกษตรกร ให้ความช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร วางแผนการบินปฏิบัติการฝนหลวงเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำใช้การน้อยกว่า 30% แบ่งเป็น อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 22 แห่ง และอ่างขนาดกลางจำนวน 172 แห่ง เพื่อเติมน้ำในอ่างฯ และกักเก็บปริมาณน้ำให้ได้มากที่สุด รวมทั้งแผนการบริหารจัดการน้ำในอ่างฯ โดยระบายน้ำด้วยความระมัดระวังและต้องเร่งกักเก็บน้ำให้มากขึ้น จากสภาพอากาศแนวโน้มจะมีฝนตกมากในพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ขณะที่พื้นที่ตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือตอนล่างจะมีฝนน้อย โดยปริมาณฝนรวมบริเวณประเทศไทยจะต่ำกว่าค่าปกติ โดยเฉพาะบริเวณภาคกลาง มักเกิดสภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลงอย่างมาก อาจก่อให้เกิดการขาดแคลนน้ำด้านการเกษตรในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน ดังนั้นได้กำหนดมาตรการในการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในช่วงฝนทิ้งช่วงถึงกลางเดือนก.ค. ที่จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ พื้นที่แก้มลิงต่างๆ ให้เป็นไปตามแผนและกักเก็บน้ำให้มากที่สุดสอดคล้องกับปริมาณน้ำในอ่างฯ ที่จะไม่กระทบกับพื้นที่ท้ายน้ำ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงฤดูฝนนี้ ยังคงติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาตรน้ำมากกว่า 80% ของปริมาณน้ำใช้การด้วย เนื่องจากในช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.ประเทศไทยจะกลับมามีฝนตกชุกหนาแน่นและต่อเนื่อง ที่ก่อให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งน้ำล้นตลิ่งในหลายพื้นที่ได้ โดยขณะนี้อ่างขนาดใหญ่ยังสามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้อีกมาก มีเพียงอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเกินกว่า 80% ของความจุ จำนวน 8 อ่าง แยกเป็น ภาคเหนือ 2 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันอออก 2 แห่ง และภาคใต้ 1 แห่ง รวมถึง สทนช.ยังอำนวยการ กำกับ ติดตาม ให้ทุกหน่วยงาน เตรียมความพร้อมรับมือในช่วงฤดูฝนนี้อย่างต่อเนื่อง

Leave a comment