ถึงเวลาปิดทริปแดนมังกร ประเทศจีน โดยพิกัดยังอยู่กันที่ อุทยานย่าติง เมืองเต้าเฉิง…แต่คราวนี้ “คุณน้ำผึ้ง-ม.ล.สราลี” ขอพาเข้าไปด้านในอุทยานฯ แต่ก่อนจะไปไหนไกลก็ต้องอิ่มท้องกันก่อน ด้วยข้าวกล่องที่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นข้าวกล่องที่อุ่นร้อนได้ในตัว ไม่ต้องพึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าเลย แถมยังเป็นมื้ออาหารนอกบ้านที่หนาวที่สุด วิวดีที่สุด แล้วก็ยังสูงที่สุดอีกด้วย ไม่ธรรมดาซะจริงๆ!!

และจุดเริ่มต้นชมความงามภายในอุทยานฯ คุณน้ำผึ้งสายธรรมะก็ต้องขอเข้าวัดชงกู่ วัดเก่าแก่ อายุราว 700 ปี สร้างในสมัยราชวงศ์หยวน และไฮไลท์สุดคงต้องยกให้กับ ทะเลสาบไข่มุก เป็น 1 ใน 3 ทะเลสาบศักดิ์สิทธิ์ ที่ถึงงานนี้คุณน้ำผึ้งจะไม่ได้เดินขึ้นไปสัมผัสด้วยตัวเอง การเดินขึ้นไปชมทะเลสาบไข่มุกนั้น ด่านแรกต้องรับสภาพอากาศที่เบาบาง เพราะมีความสูงถึง 4,000 กว่าเมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว ทำให้การดั้นด้นเดินขึ้นไปมีอุปสรรคเพราะเหนื่อยง่าย แต่เมื่อมาถึงก็ต้องยอมหายเหนื่อยกันเลย เมื่อได้เห็นวิวสุดอลังทะเลสาบสีเขียวที่มีฉากหลังเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ เช้าอีกวันออกเดินทางจากเมืองเต้าเฉิง กลับมาที่เมืองเฉิงตูเพื่อสาวกนักช็อปอย่างคุณน้ำผึ้งโดยเฉพาะ ช็อปแรกอยู่ที่ ควานจ่ายเซี่ยงจื่อ หรือถนนกว้างแคบ เป็นถนนคนเดินที่มีการอนุรักษ์ให้คงความเป็นเฉิงตูไว้ อาคารต่างๆ ตกแต่งตามสไตล์ของเฉิงตูโบราณ ผสมผสานกับความสมัยใหม่ แต่ละซอกซอยละลานตาไปด้วยร้านค้ามากมายช็อปต่อที่ถนนชุนซีลู่ walking street ชื่อดังของเมืองเฉิงตู ย่านช็อปปิ้งขนาดใหญ่อีกแห่งที่เต็มไปด้วยร้านค้ามากมายทั้งห้างสรรพสินค้า ร้านค้าแบรนด์เนม ตลอดจนของกินก็มีให้อิ่มตลอดทางปิดจ๊อบสุดท้ายของทริปนี้กันที่ วังแพะเขียวซึ่งเคยเป็นทั้งวังเก่า และเป็นวัดลัทธิเต๋า อาคารด้านในมีลักษณะเป็นอาคารทรงโบราณ เรียกว่าตำหนัก ภายในประดิษฐานรูปปั้นเทวดาที่คนจีนนับถือ ตามลัทธิเต๋า แต่ที่น่าสนใจมากที่สุดก็ต้องตำหนักซานเซิน ซึ่งมีแพะทองเหลืองศักดิ์สิทธิ์ สมัยราชวงศ์เชง เชื่อกันว่าถ้าหากเจ็บไข้ได้ป่วยตรงจุดใด ให้ไปลูบจุดนั้นของแพะ แล้วจะหายป่วย