ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/local/430255
x
หนุนถอดบทเรียนแก้ดินเค็ม นำร่องพื้นที่เกษตรอีสานลดต้นทุนเพิ่มรายได้
นางสาวเบญจพร ชาครานนท์ อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยถึงการประชุมวิชาการดินเค็มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 7 ที่จ.ขอนแก่น ว่า สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 5 จัดประชุมวิชาการดินเค็มภาคตะวันออกเฉียงเหนือขึ้น เพื่อเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์และงานวิจัยดินเค็มภาคตะวันออกเฉียงเหนือระหว่างนักวิชาการทางดิน นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยขอนแก่นภาคเอกชน (SCG) ผู้นำชุมชน ปราชญ์ชาวบ้านและเปิดเวทีเสวนาของเกษตรกรจากหลายจังหวัดที่เป็นต้นแบบความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มของสถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดในภาคอีสาน พื้นที่เกษตรของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพดีส่งออกต่างประเทศแต่เกษตรกรประสบปัญหาดินเค็มและขาดแคลนน้ำ ขอให้เจ้าหน้าที่สถานีพัฒนาที่ดินเร่งแก้ปัญหาและดูแลใกล้ชิดโดยนำผลการศึกษาวิจัยของกรมพัฒนาที่ดินไปใช้แก้ปัญหาดินเค็มจนเกษตรกรใช้ประโยชน์ที่ดินในการทำเกษตรได้และเกิดการยอมรับ
อย่างไรก็ตาม การประชุมวิชาการดินเค็มครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และเกษตรกรเข้ามามีส่วนร่วม โดยเฉพาะการเปิดเวทีเสวนามุมมองของเกษตรกรผู้ประสบความสำเร็จในการพัฒนาพื้นที่ดินเค็ม ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการจัดการและใช้ประโยชน์พื้นที่ดินเค็ม ทั้งด้านปลูกผัก ปลูกหญ้าเลี้ยงสัตว์เลี้ยงไก่งวง ประมงน้ำจืด ทำเกษตรผสมผสานและการแปรรูป ซึ่งมอบให้คณะผู้จัดงานถอดบทเรียนจากเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จในการใช้พื้นที่ดินเค็มเหล่านี้ เพื่อสกัดหาจุดแข็งและโอกาส นำไปขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่ดินเค็มอื่นๆ พร้อมกันนี้ ยังต้องจัดทำเป็นแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ดินเค็มทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อเป็นกรอบพัฒนาพื้นที่แบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และมหาดไทยต่อไป
“งานด้านพัฒนาที่ดินที่กรมพัฒนาที่ดินทำอยู่นั้น ต้องตอบโจทย์ให้เกษตรกรได้ผลผลิตสูง ผลตอบแทนสูง ลงทุนต่ำความเสี่ยงน้อย หรือเหนื่อยน้อยได้มาก ข้าราชการต้องนำสิ่งที่ดีที่สุดไปสู่เกษตรกร ต้องเลือกวิธีการที่ดีที่สุด เกษตรกรทำแล้วสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้กับองค์กร ที่สำคัญคือเกษตรกรมีที่ดินเป็นมรดกที่ส่งต่อให้ลูกหลานได้ใช้ประกอบอาชีพเกษตรต่อไป” อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าว