รายงานพิเศษ : ‘สมุนไพรนางไพร’ผลงานเด็ดส.ป.ก. เกษตรแปลงใหญ่สร้างรายได้งาม

ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://www.naewna.com/local/438348

รายงานพิเศษ : ‘สมุนไพรนางไพร’ผลงานเด็ดส.ป.ก.  เกษตรแปลงใหญ่สร้างรายได้งาม

รายงานพิเศษ : ‘สมุนไพรนางไพร’ผลงานเด็ดส.ป.ก. เกษตรแปลงใหญ่สร้างรายได้งาม

วันศุกร์ ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2562, 06.00 น.

สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) นำสื่อมวลชนลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าผลการดำเนินการเกษตรแบบแปลงใหญ่ที่อยู่ภายในพื้นที่ ส.ป.ก. จังหวัดสุราษฎร์ธานีซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่เป็นอย่างดี

จุดเริ่มต้นของกลุ่มสมุนไพรนางไพร เกิดมาจากการรวมตัวของเกษตรกรในพื้นที่ซึ่งแต่เดิมรวมกลุ่มกันในนามกลุ่มแม่บ้านเขานาใน และเริ่มสนใจในประโยชน์จากสมุนไพร จึงรวมกลุ่มกันจดทะเบียนเป็นกลุ่ม OTOP และเปลี่ยนชื่อกลุ่มเป็นกลุ่มสมุนไพรนางไพร จากนั้นได้จดทะเบียนกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชนลูกประคบสมุนไพร ตั้งเป็นศูนย์ต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ส.ป.ก. ในปี 2552 และก่อตั้งเป็นกลุ่มแปลงใหญ่สมุนไพรเมื่อปี 2559 ซึ่งการผลิตสมุนไพรของกลุ่มนั้นใช้วิธีการปลูกแซมพืชหลักเดิมอย่างยางพารา และปาล์มน้ำมัน โดยเน้นพืชสมุนไพรประเภทหัว ประกอบไปด้วย ขมิ้นชัน ขมิ้นทอง ขมิ้นอ้อย ขมิ้นด้วง ไพลดำ ไพลเหลือง กระชายดำ ว่านชักมดลูก ว่านมหาเมฆ พญาว่าน ว่านนางคำและตะไคร้ ซึ่งทุกแปลงเป็นพื้นที่ S1

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เปิดเผยว่า ก่อนที่เกษตรกรจะรวมกลุ่มกันเป็นแปลงใหญ่ ต้นทุนการผลิตในด้านพันธุ์ปลูกสูงถึง 12,000 บาท/ไร่ หลังจากรวมกลุ่มกันเป็นเกษตรแปลงใหญ่แล้วสามารถลดรายจ่ายทำให้เหลือต้นทุนการผลิตในด้านพันธุ์เพียง 9,600 บาท/ไร่ ลดลงจากเดิมร้อยละ 20 และช่วยเพิ่มปริมาณของผลผลิตให้มากขึ้นอีกด้วย ในปัจจุบันผลผลิตของกลุ่มสมุนไพรนางไพร ได้รับรองมาตรฐานเกษตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (GAP: Good Agricultural Practice) จำนวน 74 แปลง คิดเป็นร้อยละ 74 แปลงซึ่งการได้รับมาตรฐานดังกล่าวทำให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจได้ว่าผลผลิตที่ได้จากแปลงจะมีความสะอาดปลอดภัยและไร้สารพิษอีกทั้งยังทำเกษตรแบบผสมผสานเป็นการน้อมนำศาสตร์ของพระราชาตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรมาปรับใช้ในพื้นที่อีกด้วย

ด้านนายวิมล์ อินทปัชฌาย์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดสุราษฎร์ธานี ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าผลผลิตสมุนไพรจากกลุ่มเกษตรกรแบบสด มีตลาดรองรับผลผลิตในปัจจุบัน 2 แห่งด้วยกันคือตลาดโพหวาย อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ขายได้ 3,000กิโลกรัม/เดือน ราคาประมาณ 30-35 บาท และตลาดหัวอิฐอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขายได้ 2,000 กิโลกรัม/เดือนราคากิโลกรัมละ 30-35 บาทเช่นกัน อีกทั้งยังจัดจำหน่ายตามวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด และในอนาคตจะมีการขายขมิ้นชันให้กับโรงพยาบาลท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานีปีละถึง 40 ตัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการเจรจาทำข้อตกลงส่วนผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการแปรรูปแล้วมีการส่งผลิตภัณฑ์ไปขายตามวิสาหกิจชุมชนเครือข่ายและสถานที่ต่างๆ อาทิ ครีมนวดคลายเส้น ขายได้ประมาณ 100 ขวดต่อเดือน ราคา 350 บาทต่อขวด ซึ่งนำไปฝากขายที่วิสาหกิจชุมชนจังหวัดนราธิวาส ลูกประคบสมุนไพรขายได้ประมาณ 200 ลูกต่อเดือน ราคา 80 บาทต่อลูก ซึ่งนำไปขายที่โรงพยาบาลกะเปอร์ จังหวัดระนอง อีกทั้งยังมีตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรทั้งแบบสดและแบบแปรรูปแล้ว ตามงานแสดงสินค้า OTOP ตามสถานที่ต่างๆทั้งในและนอกจังหวัด สถานบริการสปา ในอำเภอเกาะสมุย ตามโรงพยาบาลต่างๆ ในจังหวัด สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และการจัดจำหน่ายสินค้าออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียต่างๆ

ในอนาคต กลุ่มสมุนไพรนางไพรมีเป้าหมายที่จะยกระดับผลผลิตทุกแปลงให้เข้าสู่มาตรฐานเกษตรเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (GAP) ยกระดับการแปรรูปให้ได้มาตรฐานอาหารและยา (อย.) เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตด้วยการแปรรูปด้วยการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากสมุนไพร รวมถึงแปรรูปสินค้าให้มีความหลายกหลาย เพื่อยกระดับชีวิตของสมาชิกของกลุ่มให้มีความอยู่ดีกินดี และรักษาไว้ซึ่งภูมิปัญญาด้านสมุนไพรของท้องถิ่นบนพื้นที่ของ ส.ป.ก. สืบต่อไป

Leave a comment