ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/407470

‘อย่าให้สูงวัยล้ม เดี๋ยวไม่ลุก’ รณรงค์ลูกหลานร่วมป้องกัน
รพ.กรุงเทพ รณรงค์ให้บุตรหลานช่วยกันระวัง “อย่าให้สูงวัยล้ม เดี๋ยวไม่ลุก” เนื่องในวันผู้สูงอายุ 13 เมษายนนี้
โรงพยาบาลกรุงเทพ ห่วงใยผู้สูงอายุ ป้องกันการลื่นหกล้ม พร้อมร่วมรณรงค์ให้บุตรหลานช่วยกันระวัง เนื่องในวันผู้สูงอายุ 13 เมษายน นี้ “อย่าให้สูงวัยล้ม เดี๋ยวไม่ลุก”จากสถิติ คาดว่าปี พ.ศ. 2564 ประเทศไทยจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์(complete Aged Society) ทั้งนี้ พบว่าประชากรผู้สูงอายุไทยยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และบางส่วนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น รับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำและแต่งตัวเองไม่ได้ มากถึงร้อยละ 5 ผู้สูงอายุกลุ่มนี้ย่อมกลายเป็นภาระกับคนใกล้ชิดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ปัญหาที่พบบ่อยของผู้สูงอายุที่ได้รับอุบัติเหตุภายในบ้าน คือ กระดูกสะโพกแตกหัก และอุบัติเหตุทางสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มีอัตราเกิดความพิการและอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง
นายแพทย์เอกกิตติ์ สุรการ ผู้อำนวยการศูนย์อุบัติเหตุกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การบาดเจ็บที่พบบ่อยใน “ผู้สูงอายุ” ที่ได้รับอุบัติเหตุพลัดตกหกล้ม ส่วนมากคือ กระดูกสะโพกหัก ศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนซึ่งเป็นสาเหตุทำให้พิการและมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง สาเหตุของอุบัติเหตุที่พบบ่อยในผู้สูงอายุคือ การหกล้ม เช่น ลื่นล้มในห้องน้ำ การตกเตียง ตกบันได ซึ่งมักเกิดกับผู้สูงอายุที่มีอายุระหว่าง 65-75 ปี อันตรายที่สำคัญ คือการบาดเจ็บร่วมกันในหลายอวัยวะได้แก่ ศีรษะ อก ท้อง หลัง สะโพก แขน ขา ประกอบกับผู้สูงวัยมักมีโรคประจำตัว มวลกระดูกลดลง ทำให้กระดูกจะหักง่าย และรุนแรงกว่า
การปฐมพยาบาลเมื่อผู้สูงอายุล้มผู้ดูแลจะต้องประเมินการบาดเจ็บที่เป็นอันตรายถึงชีวิตเช่น ภาวะช็อก บาดเจ็บที่สมอง และไขสันหลัง แล้วจึงประเมินการบาดเจ็บที่พบบ่อยเช่น สะโพกหัก และต้องป้องกันการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในขณะอุ้ม ยก เคลื่อนย้ายเพื่อนำส่งโรงพยาบาล เมื่อทีมรถฉุกเฉินประเมินอาการ และดูแลเบื้องต้นแล้ว จะประสานงานมาที่แพทย์ฉุกเฉิน เพื่อเตรียมการดูแลตามแนวทางการรักษาผู้บาดเจ็บขั้นสูง (Advanced Trauma Life Support) ผู้สูงอายุที่มีการบาดเจ็บหลายระบบต้องมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในสาขาที่เกี่ยวข้องร่วมดูแล ได้แก่ แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน ศัลยแพทย์อุบัติเหตุ ศัลยแพทย์สมองและระบบประสาท ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ แพทย์เวชศาสตร์ผู้สูงอายุ ฯลฯ ร่วมกันดูแลรักษา ในภาวะเร่งด่วนจะมีการประกันเวลาการตรวจรักษา และเตรียมผ่าตัดเพื่อผลการรักษาที่ดี
.jpg)
นพ.เอกกิตติ์ สุรการ
นายแพทย์ประณต นิพัทธสัจก์ ศัลยแพทย์สมองและระบบประสาท ศูนย์สมองและระบบประสาทกรุงเทพ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า ปัญหาหนึ่งที่อาจพบได้จากการหกล้มของผู้สูงอายุคือ การบาดเจ็บที่ศีรษะ (Traumatic Brain Injury) ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการเลือดคั่งในสมองที่สูงขึ้น โดยอาการแสดงที่มีอาจไม่สัมพันธ์กับความรุนแรงที่ได้รับ อาจเกิดการบาดเจ็บต่อหนังศีรษะ กะโหลกศีรษะและเนื้อเยื่อที่เป็นส่วนประกอบภายในกะโหลกศีรษะ ซึ่งอาจทำให้มีหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สึกตัว ในผู้สูงวัยมักหกล้มง่าย เนื่องจากมีระบบประสาทและกล้ามเนื้อทำงานประสานกันไม่ดี ผู้สูงวัยมักเดินช้า ตามองไม่ชัด การได้ยินเสียงและความจำไม่ดี รวมทั้งมักมีอาการเวียนศีรษะจึงพลัดตกหกล้มได้ง่าย นอกจากนี้ บางรายรับประทานยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด เช่น warfarin (coumadin), clopidogrel (plavix) ซึ่งทำให้เลือดออกไม่หยุดเมื่อเกิดบาดเจ็บมีความเสี่ยงให้เกิดสมองกระเทือน หรือสมองช้ำ มีเลือดคั่งในกะโหลกศีรษะได้
ผู้สูงอายุที่ได้รับการบาดเจ็บที่ศีรษะ จึงควรได้รับการตรวจประเมินจากแพทย์โดยเร็วการสังเกตอาการในโรงพยาบาลตามข้อบ่งชี้อาทิ ระดับความรู้สึกตัว มีแขนขาอ่อนแรง ตาพร่า ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน มีความจำหรือพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป ฯลฯ หากมีอาการรุนแรงแพทย์จะพิจารณาส่งตรวจสมองด้วยเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ CT หรือ MRI ดังนั้น ทีมแพทย์ระบบประสาท จะตรวจเช็คระบบประสาท ทุก 1-4 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบาดเจ็บ หากผู้ป่วยจำเป็นต้องผ่าตัดสมอง เพื่อระบายเลือดที่กดเนื้อสมองออกในบางรายที่มีภาวะสมองบวมหรือช้ำ ไม่เป็นก้อนเลือดชัดเจน แพทย์อาจพิจารณาผ่าตัดสายวัดแรงดันในกะโหลกศีรษะ เพื่อเฝ้าดูความเปลี่ยนแปลงของแรงดันในกะโหลกศีรษะ ดังนั้นลูกหลานควรตรวจประเมินความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ เช่น หมั่นคอยสังเกตอาการ และความผิดปกติของการมองเห็นของผู้สูงวัยสังเกตอาการและความผิดปกติของการเดิน การทรงตัว เนื่องจากผู้สูงอายุมีกลไกการทำงานที่ควบคุมการทรงตัวของระบบอวัยวะต่างๆ ลดลง ทำให้สมดุลในการทรงตัวบกพร่อง สังเกตอาการและความผิดปกติทางด้านการรับรู้ เช่น สับสน หลงลืมเกี่ยวกับ วัน เวลา สถานที่ และบุคคล เป็นต้น รวมทั้งมีการรับรู้ตัดสินใจ หรือตอบสนองได้ช้าลง หมั่นคอยประเมินสภาพบ้านที่อยู่อาศัย ทั้งในบ้านและบริเวณบ้าน
.jpg)
แพทย์พัณณิดา วัฒนพนม ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ โรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า การฟื้นฟูผู้สูงอายุที่ได้รับบาดเจ็บทางสมอง และกระดูกสะโพกหักเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้ผู้สูงอายุกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง หลังผ่าตัดอาจจะยังมีข้อจำกัดในการทำกิจวัตรประจำวัน การเดินการทรงตัวก็ยังไม่มั่นคง ต้องการการฟื้นฟูต่อเนื่อง เพื่อให้กลับมาแข็งแรงได้ใกล้เคียงปกติ ซึ่งการกลับไปดูแลต่อที่บ้านในระยะแรกจะต้องการคนดูแลใกล้ชิด การทำกายภาพต่อเนื่อง รวมไปถึงการปรับสถานที่สภาพแวดล้อมที่บ้าน เช่น ควรมีวัสดุกันลื่นในห้องน้ำ ไม่วางของระเกะระกะ ควรมีแสงสว่างเพียงพอโดยเฉพาะตรงราวบันได ติดตั้งหลอดไฟบริเวณมุมมืดที่เดินผ่านบ่อยๆ โดยปุ่มสวิตช์อยู่ใกล้มือเอื้อม มีอุปกรณ์เครื่องเรือนบริเวณที่อยู่เท่าที่จำเป็น และต้องแข็งแรงมั่นคงอยู่สูงจากพื้นมองเห็นได้ง่าย ไม่ย้ายที่บ่อยๆ เตียงนอน เก้าอี้ และโถส้วมมีความสูงพอเหมาะ ไม่เตี้ยเกินไป ทางเดินและบันได ควรมีราวจับตลอด และขั้นบันไดสม่ำเสมอ พื้นห้องสม่ำเสมอและเป็นวัสดุที่ไม่ลื่นโดยเฉพาะในห้องน้ำ บริเวณจุดเชื่อมต่อระหว่างห้องควรอยู่ในระดับเดียวกัน หลีกเลี่ยงธรณีประตู ไม่ควรมีสิ่งของเกะกะ เช่น พรมเช็ดเท้า สายไฟฟ้า
ทั้งนี้ ภายในโรงพยาบาบกรุงเทพ มีโรงพยาบาลชีวา ทรานสิชั่นนัล แคร์ ที่ให้บริการทางการแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพระยะฟื้นฟูสำหรับผู้ป่วยหลังผ่าตัดและต้องการฟื้นฟูทำกายภาพบำบัด เช่น ผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่า ผ่าตัดกระดูกสะโพก และผู้ป่วยที่เป็นโรคทางระบบประสาท เช่น โรคหลอดเลือดสมอง อย่างอัมพาต อัมพฤกษ์ หรือ อาการบาดเจ็บทางศีรษะ (Traumatic brain injury) หรือผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรง มีอาการบาดเจ็บหลายระบบของร่างกาย หรือกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคประจำตัว โดยจะได้รับการดูแลจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ อายุรศาสตร์ผู้สูงอายุและเวชศาสตร์ฟื้นฟู พยาบาล นักกายภาพบำบัด ให้การดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ภาวะโภชนาการ รวมถึงพัฒนาศักยภาพ ความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ ให้ครอบคลุมถึงสุขภาพร่างกาย จิตใจ แบบองค์รวม เพื่อเตรียมความพร้อมในการกลับไปใช้ชีวิตประจำวัน ช่วยเหลือตัวเองได้ หรือมีส่วนร่วมในสังคมได้ดีขึ้น พร้อมด้วยห้องพักผู้ป่วย ที่เป็นสัดส่วน สะอาด ทันสมัย ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน โดยคำนึงถึงผู้ป่วยในระยะพักฟื้นโดยเฉพาะ