ศาสตร์เกษตรดินปุ๋ย : ขอบคุณแหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์แนวหน้า
https://www.naewna.com/lady/431413

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯทรงเปิดงานประชุมวิชาการกองทุนโรคมะเร็งในเด็กฯ
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา เสด็จฯไปทรงเปิดงานประชุมวิชาการกองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เรื่อง “ความก้าวหน้าการรักษาโรคมะเร็งในเด็กในประเทศไทย” โดยมีศ.เกียรติคุณ พลโทหญิงทิพย์ ศรีไพศาล ประธานมูลนิธิกุมารโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าฯ และประธานจัดงาน ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง เลขาธิการกองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ ผศ.(พิเศษ)อภิสิทธิ์ ฉัตรทนานนท์ กรรมการบริหาร กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ และคณะกรรมการจัดงานประชุมฯ เฝ้ารับเสด็จ ณ แพทยสมาคมแห่งประเทศไทย
งานประชุมวิชาการกองทุนโรคมะเร็งในเด็ก ในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ที่ประทานความช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กยากไร้โรคมะเร็งทั่วประเทศมากว่า 18 ปี และเพื่อเป็นการร่วมถวายพระพร เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ อีกด้วย
การประชุมวิชาการในครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ มูลนิธิกุมารโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระอุปถัมภ์ฯ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก วิทยาลัยเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต และโรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในหัวข้อเรื่อง “ความก้าวหน้าการรักษาโรคมะเร็งในเด็กในประเทศไทย” เป็นการส่งเสริมความรู้วิทยาการสมัยใหม่ๆ ในการดูแลและรักษาโรคมะเร็งให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมี แพทย์ พยาบาล เภสัชกร นักวิชาการ และผู้เกี่ยวข้องในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคมะเร็งในเด็กกว่า 300 คน เข้าร่วมประชุม โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งเด็กรายใหม่เกิดขึ้นปีละประมาณ 1,000 คน กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ ได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมากว่า 18 ปีไปแล้วเป็นจำนวนมาก แต่ยังคงมีผู้ป่วยเด็กที่รอคอยความช่วยเหลือจากกองทุนฯในโรงพยาบาลเครือข่ายจำนวน 28 แห่งทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา พระราชทานเข็มกองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ ทรงฟังการบรรยายเรื่อง “ความก้าวหน้าการรักษาโรคมะเร็งในเด็กในประเทศไทย” โดย ศ.นพ.สุรเดช หงส์อิง เลขาธิการ กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กซึ่งอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 15 ปี มีอุบัติการณ์ในแต่ละปีสูงกว่า 1,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดว่าอะไรเป็นต้นเหตุ ปัจจุบันพบว่าเด็กเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวมากที่สุดร้อยละ 30 รองลงมาคือมะเร็งเนื้องอกในสมอง ร้อยละ 20 มะเร็งต่อมน้ำเหลืองร้อยละ 15 มะเร็งต่อมหมวกไตร้อยละ 10 ส่วนมะเร็งไต มะเร็งกระดูกและกล้ามเนื้อลาย มะเร็งตับ มะเร็งลูกนัยน์ตา และโรคมะเร็งอื่นๆ พบสัดส่วนที่เท่ากัน คือร้อยละ 5
การรักษาโรคมะเร็งนั้น สามารถใช้ได้หลายรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนั้น จึงมีทางเลือกมากมายที่ใช้รักษาโรคมะเร็งได้ เช่น การผ่าตัด การใช้ยาเคมีบำบัด การฉายแสงรังสีรักษา และ การปลูกถ่ายไขกระดูก เนื่องจากมะเร็งที่พบในเด็กส่วนใหญ่จะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว วิธีการรักษาที่ได้ผลคือ การปลูกถ่ายไขกระดูก เพราะต้นกำเนิดของมะเร็งเม็ดเลือดขาวคือไขกระดูก ซึ่งปัจจุบันการปลูกถ่ายไขกระดูกดีกว่าในอดีตมาก โดยทางหน่วยโรคมะเร็งได้พยายามค้นคว้าวิจัยเอาไขกระดูกจากพ่อแม่ หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่พี่น้องท้องเดียวกันมาใช้ในการปลูกถ่ายไขกระดูก ซึ่งเดิมใช้ไม่ได้ เนื่องจากมีปฏิกิริยาต่อต้านเป็นอย่างมาก การรักษาโดยวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยรายละประมาณ 500,000 บาท
อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าในการใช้เคมีบำบัดตลอดจนเทคโนโลยีในการรักษาโรคมะเร็งในเด็กดีขึ้นกว่าเมื่ออดีตมาก จึงทำให้อัตราการรอดชีวิตจากโรคมะเร็งในเด็กโดยในรอบ 20 กว่าปีที่ผ่านมามีผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่หายเป็นปกติกว่าร้อยละ 80 ซึ่งการรักษาสามารถทำได้โดยการผ่าตัด การใช้ยาเคมีบำบัดการฉายแสงและการปลูกถ่ายไขกระดูก ทั้งนี้ การรักษาโรคมะเร็งในเด็กต้องใช้เวลา ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงมาก โดยการรักษาผู้ป่วยแต่ละรายต้องใช้ระยะเวลากว่า 1-3 ปี (แล้วแต่ชนิดของโรคมะเร็ง) และค่าใช้จ่ายมากกว่า 800,000-1,000,000 ต่อราย
ดังที่ทราบกันอยู่แล้วว่า พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ทรงเสียสละบำเพ็ญพระกรณียกิจในด้านสังคมสงเคราะห์ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อมุ่งช่วยเหลือพสกนิกรผู้ตกทุกข์ได้ยากมาเป็นเวลายาวนาน ทรงลงพื้นที่เพื่อปลอบขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ประสบความเดือดร้อน ประทานทรัพย์ส่วนพระองค์ให้ไว้แก่โครงการต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผู้หญิงและเด็ก ซึ่งทรงห่วงใยเป็นอย่างยิ่งเสมอมา
เมื่อมูลนิธิคุณแม่คุณภาพได้ก่อตั้งกองทุนเพื่อหารายได้ในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งในเด็กที่ยากไร้ทั่วประเทศ ทางมูลนิธิฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) เสด็จมาทรงเปิดกองทุนนี้ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2544 และได้ประทานเงินส่วนพระองค์ จำนวน 1 ล้านบาท สำหรับเป็นงบตั้งต้นของกองทุน และประทานชื่อกองทุนนี้ว่า “กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ” โดยมีพระดำริว่าอยากที่จะสนับสนุนช่วยเหลือเด็กที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ทรงมีรับสั่งว่าเมื่อจัดตั้งกองทุนนี้แล้ว มิใช่เพื่อโรงพยาบาลใดโรงพยาบาลหนึ่ง เพราะฉะนั้นเงินที่ได้มาทางกองทุนฯ จึงกระจายไปทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ขอความช่วยเหลือเข้ามา และในปัจจุบันนี้มีโรงพยาบาลกว่า 20 แห่ง ได้แก่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ รพ.ศูนย์ลำปาง รพ.ศูนย์พิษณุโลก รพ.มหาราชนครราชสีมา รพ.ศรีนครินทร์ รพ.ขอนแก่น รพ.สรรพสิทธิประสงค์ รพ.ศรีสะเกษ รพ.ศูนย์อุดรธานี รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช รพ.สุราษฎร์ธานี รพ.หาดใหญ่ รพ.สงขลานครินทร์ รพ.พระปกเกล้าจันทบุรีรพ.รามาธิบดี รพ.พระมงกุฎเกล้า สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ เป็นต้น ซึ่งทางกองทุนฯ ได้ให้เงินสนับสนุนต่อเนื่องกันมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังได้สนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนในการปลูกถ่ายไขกระดูกจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนกว่า 200 ราย นอกจากนี้นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ทางกองทุนฯ ได้เพิ่มความช่วยเหลือค่ายาที่จำเป็นให้โรงพยาบาลในเครือข่ายในการรักษาโรคมะเร็งต่อมหมวกไตในเด็กซึ่งเป็นโรครักษายากอีกด้วย นอกจากนี้ในปี 2560 และ 2561 พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ได้ประทานเงินส่วนพระองค์ อีกปีละจำนวนหนึ่งล้านบาท ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ได้ประทานพระอนุญาตแก้ไขชื่อกองทุนฯ เป็นกองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ”
จากความช่วยเหลือของกองทุนฯทำให้อัตราการรอดชีวิตแล้วหายขาดจากโรคมีจำนวนมากขึ้น จนกล่าวได้ว่าผู้ป่วยมะเร็งเด็กมีโอกาสหายขาดจากโรคได้ถึงร้อยละ 80 ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันทางกองทุนฯ ยังได้สนับสนุนให้กลุ่มแพทย์ที่เชี่ยวชาญโรคมะเร็งในเด็กได้ทำการวิจัยอีกด้วย ผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคได้ที่บัญชี “กองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์ฯ” ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาอ่อนนุช บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 133-2-08742-3 ทั้งนี้ กรุณาแนบหลักฐานการโอนเงิน พร้อมแจ้งชื่อ-ที่อยู่และวันโอนเงิน ทางแฟกซ์ 02-7203323หรือโทร.02-7183800-5 ต่อ 123เพื่อจัดส่งใบเสร็จรับเงิน ซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
